บริษัทแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ผุดไอเดียเจ๋ง ทดสอบแหล่งพลังงานหมุนเวียนแห่งแรกขึ้นที่ชายฝั่งทะเลของประเทศญี่ปุ่น เพื่อเก็บเกี่ยวพลังงานจากลมและมหาสมุทรมาใช้ประโยชน์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
โดยเราอาจจะได้เห็นการควบคุมพลังอำนาจจากทะเลและแรงลมมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าในเร็วๆนี้ ซึ่งระบบจัดการพลังงานลมหมุนเวียนไฮบริดเครื่องแรก จะถูกติดตั้งขึ้นที่ชายฝั่งทะเลของประเทศญี่ปุ่นในช่วงปลายปีนี้ โดยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดังกล่าว จะมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า 'Savonius Keel & Wind Turbine Darrieus' (SKWID) ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาโดยบริษัท Mitsui Ocean Development & Engineering Company (Modec) ที่ทำงานเกี่ยวกับระบบลอยตัวบนผิวน้ำ โดยในเอกสาร PDF บนเวบไซต์ของบริษัท Modec ได้กล่าวถึงคอนเซปต์นี้ว่า จะเป็นการสร้างอำนาจคู่หรือมากกว่าของพลังงานจากพื้นที่ผิวทะเลเช่นเดียวกับกังหันลมปกติทั่วไป
นอกจากนี้ อ้างอิงจากแหล่งข่าว NHK News ของญี่ปุ่น กังหันลมจะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 154 ฟุต และมีตัววัดน้ำขึ้นน้ำลงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 ฟุต โดยทั้งสองส่วนจะถูกเชื่อมต่อกันด้วยเครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้า โดยกังหันดังกล่าว จะมีการทดสอบประสิทธิภาพในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ซึ่งเมื่อมีการติดตั้งและใช้งานจริง คาดจะช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าได้ราว 300 หลังคาเรือน
ที่มา CNET
ชาวยุ่นปิ๊งไอเดีย ติดตั้งระบบพลังงานลมหมุนเวียนที่ชายฝั่งทะเลของญี่ปุ่น
โดยเราอาจจะได้เห็นการควบคุมพลังอำนาจจากทะเลและแรงลมมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าในเร็วๆนี้ ซึ่งระบบจัดการพลังงานลมหมุนเวียนไฮบริดเครื่องแรก จะถูกติดตั้งขึ้นที่ชายฝั่งทะเลของประเทศญี่ปุ่นในช่วงปลายปีนี้ โดยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดังกล่าว จะมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า 'Savonius Keel & Wind Turbine Darrieus' (SKWID) ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาโดยบริษัท Mitsui Ocean Development & Engineering Company (Modec) ที่ทำงานเกี่ยวกับระบบลอยตัวบนผิวน้ำ โดยในเอกสาร PDF บนเวบไซต์ของบริษัท Modec ได้กล่าวถึงคอนเซปต์นี้ว่า จะเป็นการสร้างอำนาจคู่หรือมากกว่าของพลังงานจากพื้นที่ผิวทะเลเช่นเดียวกับกังหันลมปกติทั่วไป
นอกจากนี้ อ้างอิงจากแหล่งข่าว NHK News ของญี่ปุ่น กังหันลมจะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 154 ฟุต และมีตัววัดน้ำขึ้นน้ำลงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 ฟุต โดยทั้งสองส่วนจะถูกเชื่อมต่อกันด้วยเครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้า โดยกังหันดังกล่าว จะมีการทดสอบประสิทธิภาพในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ซึ่งเมื่อมีการติดตั้งและใช้งานจริง คาดจะช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าได้ราว 300 หลังคาเรือน
ที่มา CNET