มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก คือ เกาหลี เราได้ซื้อทัวร์ไปเมื่อ 3-7 พ.ค.ที่ผ่านมา การเดินทางตลอดทั้งทริป
ราบรื่นปรกติดี อากาศเย็นสบาย เราชอบถ่ายรูป ตั้งใจเก็บบรรยากาศและการเดินทางกับทัวร์ เพื่อจะมารีวิวให้กับท่านที่ตัดสินใจจะซื้อทัวร์
หรือเดินทางเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง โดยส่วนมากจะใช้กล้องถ่าย เป็นคอมแพคธรรมดานี่แหละ ส่วนในไอโฟนเราถ่ายนิดหน่อยและใช้เช็คอินแต่ละสถานที่มากกว่า
จนกระทั่งถึงวันเดินทางกลับ มาถึงสนามบินมีเวลาจัดกระเป๋าสบายๆ แต่เราและพี่อีก 3 คนโหลดกระเป๋าเป็นกลุ่มสุดท้ายของกรุ๊ปทัวร์ที่เราเดินทางไปด้วย แต่เที่ยวบินที่เรากลับนั้นจะมี กรุ๊ปทัวร์ของบริษัทอื่น ร่วมอยู่ด้วยอีกประมาณ 3-4 บริษัท พอผ่านเข้าไปถึงตอน สแกนกระเป๋าที่จะถือขึ้นเครื่อง เราเอากล้องและไอโฟน (ไอโฟน4 ใช้มา 2 ปี สภาพ60% หล่อนบ่อยมาก กล้องถ่ายรูปธรรมดาราคาประมาณ 5,000) เราวางไว้บนกระเป๋าเป้ สแกนเสร็จหยิบทั้งสองอย่างใส่ที่กระเป๋าช่องหน้าของเป้ เดินต่อแถวช่อง ตม. เลย และระหว่างที่จะมาขึ้นเครื่อง เดินตลอดไม่ได้หยุดหรือนั่งที่ไหนเลย เพราะอีก 30 นาทีจะได้เวลาขึ้นเครื่องและกรุ๊ปที่เรามาก็เดินไปรอที่เกทกันหมดแล้ว ตอนขึ้นรถไฟไปเกท สะพายเป้ไว้ด้านหลัง เพราะ มีแต่คนไทย และไม่แน่นมากเลยไม่ได้ระวังอะไร เดินออกจากรถไปถึงตรงดิวตี้ฟรี เปิดซิปหน้าจะหยิบโทรศัพท์มาเมมเบอร์ พี่ที่ไปในกรุ๊ปเดียวกัน ปรากาฏว่า หายไปทั้งกล้องและไอโฟน ตกใจมากหาทั่วกระเป๋าแล้วไม่เจอ วิ่งไปหาไกด์ คิดว่าลืมไว้ที่สแกนกระเป๋า แต่กลับไปไม่ได้แล้วเพราะรถไฟมีแต่ขามาเกทนี้เท่านั้น ไกด์เลยแจ้งออฟฟิศที่เกาหลีให้ตามเรื่องให้
ไอโฟนเราไม่ได้เปิดรูมมิ่งไว้ และไม่ได้เปิดแอพค้นหาไว้ด้วย ได้แต่ภาวนาว่าให้ลืมไว้ที่ด่านตรวจ อย่าให้โดนขโมยเลย
สุดท้าย วันรุ่งขึ้น ไกด์แจ้งมาว่าเช็คแล้วไม่มี ทั้งที่สแกนกระเป๋า ตม. แจ้งของหาย คิดไปคิดมาสรุปได้ว่าน่าจะหายตอนขึ้นรถไฟเปลี่ยนเกท
และที่เศร้ามาก คือมีแต่คนไทยทั้งนั้นเลย ไปเที่ยวเหมือนกัน ยังทำกันได้
ฝากเตือนทุกท่านเลยค่ะ เป็นข้อคิดเลยค่ะ เดินทางไปไหนต้องระวังของมีค่าไว้ให้ดี อย่าชะล่าใจเด็ดขาด เวลาแค่ไม่ถึง 5นาที ในที่สาธารณะยังกล้าทำเลยค่ะ เจ็บใจที่สุดคือคนไทยด้วยกันยังทำกันลงคอ
เที่ยวต่างประเทศครั้งแรกโดนคนไทยด้วยกันล้วงกระเป๋า
ราบรื่นปรกติดี อากาศเย็นสบาย เราชอบถ่ายรูป ตั้งใจเก็บบรรยากาศและการเดินทางกับทัวร์ เพื่อจะมารีวิวให้กับท่านที่ตัดสินใจจะซื้อทัวร์
หรือเดินทางเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง โดยส่วนมากจะใช้กล้องถ่าย เป็นคอมแพคธรรมดานี่แหละ ส่วนในไอโฟนเราถ่ายนิดหน่อยและใช้เช็คอินแต่ละสถานที่มากกว่า
จนกระทั่งถึงวันเดินทางกลับ มาถึงสนามบินมีเวลาจัดกระเป๋าสบายๆ แต่เราและพี่อีก 3 คนโหลดกระเป๋าเป็นกลุ่มสุดท้ายของกรุ๊ปทัวร์ที่เราเดินทางไปด้วย แต่เที่ยวบินที่เรากลับนั้นจะมี กรุ๊ปทัวร์ของบริษัทอื่น ร่วมอยู่ด้วยอีกประมาณ 3-4 บริษัท พอผ่านเข้าไปถึงตอน สแกนกระเป๋าที่จะถือขึ้นเครื่อง เราเอากล้องและไอโฟน (ไอโฟน4 ใช้มา 2 ปี สภาพ60% หล่อนบ่อยมาก กล้องถ่ายรูปธรรมดาราคาประมาณ 5,000) เราวางไว้บนกระเป๋าเป้ สแกนเสร็จหยิบทั้งสองอย่างใส่ที่กระเป๋าช่องหน้าของเป้ เดินต่อแถวช่อง ตม. เลย และระหว่างที่จะมาขึ้นเครื่อง เดินตลอดไม่ได้หยุดหรือนั่งที่ไหนเลย เพราะอีก 30 นาทีจะได้เวลาขึ้นเครื่องและกรุ๊ปที่เรามาก็เดินไปรอที่เกทกันหมดแล้ว ตอนขึ้นรถไฟไปเกท สะพายเป้ไว้ด้านหลัง เพราะ มีแต่คนไทย และไม่แน่นมากเลยไม่ได้ระวังอะไร เดินออกจากรถไปถึงตรงดิวตี้ฟรี เปิดซิปหน้าจะหยิบโทรศัพท์มาเมมเบอร์ พี่ที่ไปในกรุ๊ปเดียวกัน ปรากาฏว่า หายไปทั้งกล้องและไอโฟน ตกใจมากหาทั่วกระเป๋าแล้วไม่เจอ วิ่งไปหาไกด์ คิดว่าลืมไว้ที่สแกนกระเป๋า แต่กลับไปไม่ได้แล้วเพราะรถไฟมีแต่ขามาเกทนี้เท่านั้น ไกด์เลยแจ้งออฟฟิศที่เกาหลีให้ตามเรื่องให้
ไอโฟนเราไม่ได้เปิดรูมมิ่งไว้ และไม่ได้เปิดแอพค้นหาไว้ด้วย ได้แต่ภาวนาว่าให้ลืมไว้ที่ด่านตรวจ อย่าให้โดนขโมยเลย
สุดท้าย วันรุ่งขึ้น ไกด์แจ้งมาว่าเช็คแล้วไม่มี ทั้งที่สแกนกระเป๋า ตม. แจ้งของหาย คิดไปคิดมาสรุปได้ว่าน่าจะหายตอนขึ้นรถไฟเปลี่ยนเกท
และที่เศร้ามาก คือมีแต่คนไทยทั้งนั้นเลย ไปเที่ยวเหมือนกัน ยังทำกันได้
ฝากเตือนทุกท่านเลยค่ะ เป็นข้อคิดเลยค่ะ เดินทางไปไหนต้องระวังของมีค่าไว้ให้ดี อย่าชะล่าใจเด็ดขาด เวลาแค่ไม่ถึง 5นาที ในที่สาธารณะยังกล้าทำเลยค่ะ เจ็บใจที่สุดคือคนไทยด้วยกันยังทำกันลงคอ