สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เพิ่งสัมภาษณ์ไปวันก่อน บริษัทดังเหมือนกัน แผนก techcal
วันรุ่งขึ้นเค้าโทรมาบอกเลยว่าผ่าน จะให้ตรวจร่างกายแล้วเซ็นสัญญาเลย ทั้งที่profileเราไม่ได้ดีอะไร เกรด2.7 วิศวะ ยังเรียนไม่จบด้วย
เราคิดว่าเราตอบคำถามได้ดีนะ คิดว่างั้น 555
ข้อดี
1.เป็นคนตรงเวลา << แต่ถ้าวันนั้นคุณไปสายก็อย่าพูดตรงนี้
2.ใจเย็น สามารถทำงานในสภาวะกดดันได้
3.รับผิดชอบในหน้าที่
4.เป็นคนที่เตรียมอะไรให้พร้อมอยู่เสมอ << แต่ถ้าวันสัมภาษณ์คุณลืมเอกสาร ทะเบียนบ้าน หรือรูปถ่าย ก็อย่าพูดตรงนี้
เราบอกไป4ข้อค่ะ แต่เราจะไม่พูดซ้ำในสิ่งที่ได้พูดไประหว่างสัมภาษณ์ก่อนหน้านั้นแล้ว เช่น
- ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี (เพราะสัมภาษณ์เป็นอิ้งอยู่แล้ว)
- พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- มีความสามารถในการสื่อสาร บริหารเวลา และบริหารคน
- ถ้ามีงานฉุกเฉินนอกเวลางาน ก็เต็มใจที่จะมารับผิดชอบให้เต็มที่
จริงๆข้อดีมีให้พูดเยอะมาก
- ซื่อสัตย์
- ไม่ขี้นินทา
- ละเอียด รอบครอบ
- มีน้ำใจ พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น
- มีทักษะในการทำงานเป็นทีม
- ไม่ดูถูกคน สามารถทำงานร่วมกับคนทุกระดับได้
etc.
ในส่วนของข้อเสีย เราเคยsearchอ่านว่าคนอื่นตอบว่าอะไร หลายคนตอบว่า เป็นคนคิดมาก หรือเป็นคนละเอียดเกินไป
ดูเป็นคนตอบที่ใครๆก็ตอบกันเนาะ
จริงๆควรตอบที่เป็นตัวเอง ถ้าโกหกบางทีผู้สัมภาษณ์เค้าดูออกว่าเราไม่ได้พูดความจริง และต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานด้วยนะคะ
เคยมีบางคนแนะนำว่าข้อเสียตอบฮาๆก็ได้ เช่น "เวลาเห็นเครื่องสำอางลดราคาทีไร ต้องซื้อทุกทีเลยค่ะ" << แบบนี้เราไม่เห็นด้วย ดูไม่มีกึ๋นเลย
ในตอนที่เราสัมภาษณ์ เราตอบว่า
"ข้อเสียของดิชั้น คือ การตัดสินใจช้าในเรื่องบางเรื่องค่ะ
เพราะดิชั้นเป็นคนที่ต้องการข้อมูลที่เพียงพอก่อนเท่านั้น ถึงจะติดสินใจได้
เนื่องจากการหาข้อมูลในบางครั้งต้องใช้เวลานาน ส่งผลให้การตัดสินใจของช้าไปบ้าง แต่ถ้ามีข้อมูเพียงพอแล้ว ก็สามารถตัดสินใจได้ทันทีค่ะ"
เจ้าของกระทู้ลองคิดดูว่าตัวเองมีข้อเสียอะไรที่พูดไปเป็นประโยชน์ต่อตำแหน่งงาน และเป็นข้อเสียที่พัฒนาได้
อย่าโกหกนะคะ
ฝากไว้ว่า ห้ามตอบว่า ขี้เกียด เด็ดขาด!!!!!
แล้วก็ห้ามบอกว่า ข้อดี คือ ใจเย็น ครับ , ข้อเสีย คือ ใจร้อน ครับ !!!
วันรุ่งขึ้นเค้าโทรมาบอกเลยว่าผ่าน จะให้ตรวจร่างกายแล้วเซ็นสัญญาเลย ทั้งที่profileเราไม่ได้ดีอะไร เกรด2.7 วิศวะ ยังเรียนไม่จบด้วย
เราคิดว่าเราตอบคำถามได้ดีนะ คิดว่างั้น 555
ข้อดี
1.เป็นคนตรงเวลา << แต่ถ้าวันนั้นคุณไปสายก็อย่าพูดตรงนี้
2.ใจเย็น สามารถทำงานในสภาวะกดดันได้
3.รับผิดชอบในหน้าที่
4.เป็นคนที่เตรียมอะไรให้พร้อมอยู่เสมอ << แต่ถ้าวันสัมภาษณ์คุณลืมเอกสาร ทะเบียนบ้าน หรือรูปถ่าย ก็อย่าพูดตรงนี้
เราบอกไป4ข้อค่ะ แต่เราจะไม่พูดซ้ำในสิ่งที่ได้พูดไประหว่างสัมภาษณ์ก่อนหน้านั้นแล้ว เช่น
- ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี (เพราะสัมภาษณ์เป็นอิ้งอยู่แล้ว)
- พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- มีความสามารถในการสื่อสาร บริหารเวลา และบริหารคน
- ถ้ามีงานฉุกเฉินนอกเวลางาน ก็เต็มใจที่จะมารับผิดชอบให้เต็มที่
จริงๆข้อดีมีให้พูดเยอะมาก
- ซื่อสัตย์
- ไม่ขี้นินทา
- ละเอียด รอบครอบ
- มีน้ำใจ พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น
- มีทักษะในการทำงานเป็นทีม
- ไม่ดูถูกคน สามารถทำงานร่วมกับคนทุกระดับได้
etc.
ในส่วนของข้อเสีย เราเคยsearchอ่านว่าคนอื่นตอบว่าอะไร หลายคนตอบว่า เป็นคนคิดมาก หรือเป็นคนละเอียดเกินไป
ดูเป็นคนตอบที่ใครๆก็ตอบกันเนาะ
จริงๆควรตอบที่เป็นตัวเอง ถ้าโกหกบางทีผู้สัมภาษณ์เค้าดูออกว่าเราไม่ได้พูดความจริง และต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานด้วยนะคะ
เคยมีบางคนแนะนำว่าข้อเสียตอบฮาๆก็ได้ เช่น "เวลาเห็นเครื่องสำอางลดราคาทีไร ต้องซื้อทุกทีเลยค่ะ" << แบบนี้เราไม่เห็นด้วย ดูไม่มีกึ๋นเลย
ในตอนที่เราสัมภาษณ์ เราตอบว่า
"ข้อเสียของดิชั้น คือ การตัดสินใจช้าในเรื่องบางเรื่องค่ะ
เพราะดิชั้นเป็นคนที่ต้องการข้อมูลที่เพียงพอก่อนเท่านั้น ถึงจะติดสินใจได้
เนื่องจากการหาข้อมูลในบางครั้งต้องใช้เวลานาน ส่งผลให้การตัดสินใจของช้าไปบ้าง แต่ถ้ามีข้อมูเพียงพอแล้ว ก็สามารถตัดสินใจได้ทันทีค่ะ"
เจ้าของกระทู้ลองคิดดูว่าตัวเองมีข้อเสียอะไรที่พูดไปเป็นประโยชน์ต่อตำแหน่งงาน และเป็นข้อเสียที่พัฒนาได้
อย่าโกหกนะคะ
ฝากไว้ว่า ห้ามตอบว่า ขี้เกียด เด็ดขาด!!!!!
แล้วก็ห้ามบอกว่า ข้อดี คือ ใจเย็น ครับ , ข้อเสีย คือ ใจร้อน ครับ !!!
ความคิดเห็นที่ 5
เอาคำตอบของลูกน้องเราที่เป็นกระเทยมั้ยคะ
หัวหน้า : จงบอกข้อเสียของตัวเองมา 1 ข้อ
ลูกน้อง : เอ่อ หนูก็คิดว่าหนูไม่ค่อยมีข้อเสียอะไรน่ะนะคะ เพราะคนส่วนใหญ่ก็มักบอกว่าหนูเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส คุยเก่งคุยสนุก แต่ถ้าจะเอาจริงๆ ที่คนเค้าชอบพูดๆกัน เค้าก็หาว่าหนูไม่มีขนตาค่ะ ตาหนูโล้นมาก หนูก็เลยแก้ด้วยการติดขนตาปลอมตลอดเวลา
หัวหน้าคงเงิบไป 10 วิ 5555555
แต่ก็ยังถามต่อว่า จะพูดอะไรเป็นสิ่งสุดท้ายมั้ย ก่อนจบการสัมภาษณ์
ลูกน้อง : จากที่หนูไปสมัครงานมาหลายๆที่ คนส่วนใหญ่มักไม่รับหนู เพราะหนูเป็นกระเทย แต่หนูอยากให้ที่นี่ พิจารณาหนูในฐานะที่เป็นมนุษย์คนนึง ไม่จำกัดเพศ เพราะหนูคิดว่าหนูมีศักยภาพเพียงพอ ที่สามารถทำงานได้เท่าเทียมทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย และอยากให้สังคมยอมรับกระเทยให้มากขึ้น ขอบคุณค่ะ.......
ถ้าอยู่บนเวทีคงได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราว 5555
หัวหน้า : จงบอกข้อเสียของตัวเองมา 1 ข้อ
ลูกน้อง : เอ่อ หนูก็คิดว่าหนูไม่ค่อยมีข้อเสียอะไรน่ะนะคะ เพราะคนส่วนใหญ่ก็มักบอกว่าหนูเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส คุยเก่งคุยสนุก แต่ถ้าจะเอาจริงๆ ที่คนเค้าชอบพูดๆกัน เค้าก็หาว่าหนูไม่มีขนตาค่ะ ตาหนูโล้นมาก หนูก็เลยแก้ด้วยการติดขนตาปลอมตลอดเวลา
หัวหน้าคงเงิบไป 10 วิ 5555555
แต่ก็ยังถามต่อว่า จะพูดอะไรเป็นสิ่งสุดท้ายมั้ย ก่อนจบการสัมภาษณ์
ลูกน้อง : จากที่หนูไปสมัครงานมาหลายๆที่ คนส่วนใหญ่มักไม่รับหนู เพราะหนูเป็นกระเทย แต่หนูอยากให้ที่นี่ พิจารณาหนูในฐานะที่เป็นมนุษย์คนนึง ไม่จำกัดเพศ เพราะหนูคิดว่าหนูมีศักยภาพเพียงพอ ที่สามารถทำงานได้เท่าเทียมทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย และอยากให้สังคมยอมรับกระเทยให้มากขึ้น ขอบคุณค่ะ.......
ถ้าอยู่บนเวทีคงได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราว 5555
ความคิดเห็นที่ 4
ข้อดีผมมี10กว่าข้อครับ
1.ขยัน
2.อดทน
3.ตรงต่อเวลา
4.ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย
5.ไม่เอาเรื่องชีวิตส่วนตัวมาเบียดบังเวลาทำงาน
6.ซื่อสัตย์
7.มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน
8.รับความกดดันได้ดี
9.แสวงหาความรู้ใหม่ๆเพื่อปรับปรุงตัวเอง และนำมาปรับใช้ในการทำงานอยู่เสมอ
10.เป็นคนกตัญญูรู้คุณ
11.พูดน้อยทำเยอะ
12.ไม่ประจบสอพลอ
ข้อเสียผมมีข้อเดียวครับ
1.ชอบพูดโกหก
1.ขยัน
2.อดทน
3.ตรงต่อเวลา
4.ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย
5.ไม่เอาเรื่องชีวิตส่วนตัวมาเบียดบังเวลาทำงาน
6.ซื่อสัตย์
7.มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน
8.รับความกดดันได้ดี
9.แสวงหาความรู้ใหม่ๆเพื่อปรับปรุงตัวเอง และนำมาปรับใช้ในการทำงานอยู่เสมอ
10.เป็นคนกตัญญูรู้คุณ
11.พูดน้อยทำเยอะ
12.ไม่ประจบสอพลอ
ข้อเสียผมมีข้อเดียวครับ
1.ชอบพูดโกหก
ความคิดเห็นที่ 22
เราเข้าใจดีเลยค่ะว่าการเตรียมตัวสำหรับสัมภาษณ์งานเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และการตอบคำถามเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของตัวเองอย่างมั่นใจสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเราได้มาก นี่คือตัวอย่างคำตอบที่เราใช้ตอบคำถามนี้นะคะ
# ข้อดี
1.มีระเบียบวินัย
ตัวอย่างเหตุการณ์: ในโปรเจกต์หนึ่ง เรารับผิดชอบการจัดการตารางเวลาและการติดตามงานของทีม เราทำแผนงานรายสัปดาห์และติดตามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้โปรเจกต์เสร็จตรงตามกำหนดเวลา
2. ทุ่มเทและมีความรับผิดชอบ
ตัวอย่างเหตุการณ์: เมื่อครั้งที่เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งลาป่วยกะทันหัน เราอาสารับงานของเขามาทำเพิ่มเติม เพื่อให้โปรเจกต์ไม่สะดุด จนทำให้โปรเจกต์สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
สามารถทำงานเป็นทีมได้ดี
ตัวอย่างเหตุการณ์: เราเคยเป็นหัวหน้าทีมในโปรเจกต์หนึ่ง ซึ่งต้องประสานงานกับหลายฝ่าย เราใช้ความสามารถในการสื่อสารและสร้างแรงจูงใจให้ทีม ทำให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. แก้ปัญหาได้ดี
ตัวอย่างเหตุการณ์: ในการทำงานครั้งหนึ่ง ระบบคอมพิวเตอร์เกิดปัญหาขัดข้อง เราใช้ความรู้และทักษะด้านเทคนิคในการหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การทำงานกลับมาเป็นปกติในเวลาไม่นาน
4. มีความคิดสร้างสรรค์
ตัวอย่างเหตุการณ์: เราเคยเสนอไอเดียในการทำแคมเปญการตลาดใหม่ ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน ผลที่ได้คือยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
# ข้อเสีย
1. เป็นคนพิถีพิถันเกินไป
ตัวอย่างเหตุการณ์: บางครั้งเราใช้เวลานานในการตรวจสอบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในงาน ทำให้บางงานล่าช้า เรากำลังเรียนรู้ที่จะบาลานซ์ความพิถีพิถันกับการทำงานให้ทันเวลา
2. รับงานมามากเกินไป
ตัวอย่างเหตุการณ์: เรามักจะรับงานหลายๆ อย่างมาทำพร้อมกัน จนบางครั้งรู้สึกเครียดและเหนื่อยล้า ตอนนี้เราเรียนรู้ที่จะจัดการและลำดับความสำคัญของงานให้ดียิ่งขึ้น
3. ไม่ค่อยขอความช่วยเหลือ
ตัวอย่างเหตุการณ์: เรามักจะพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน จนบางครั้งทำให้เสียเวลาโดยไม่จำเป็น ตอนนี้เราเรียนรู้ว่าการขอความช่วยเหลือจากทีมงานสามารถทำให้ปัญหาถูกแก้ไขได้เร็วขึ้น
4. เป็นคนคิดมาก
ตัวอย่างเหตุการณ์: เรามักจะคิดมากเกี่ยวกับผลลัพธ์ของงานที่ทำ ทำให้บางครั้งรู้สึกเครียด ตอนนี้เราเรียนรู้ที่จะปล่อยวางและมุ่งเน้นที่การทำงานให้ดีที่สุด
5. ไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่างเหตุการณ์: ตอนที่บริษัทเปลี่ยนระบบการทำงานใหม่ เรารู้สึกไม่ค่อยสบายใจและใช้เวลาปรับตัวนานขึ้น ตอนนี้เราเรียนรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และพยายามปรับตัวให้เร็วขึ้น
อ่อ เราได้ฝึกมาจากหนังสือนี้มาค่ะ https://f9et.short.gy/psPYdB
# ข้อดี
1.มีระเบียบวินัย
ตัวอย่างเหตุการณ์: ในโปรเจกต์หนึ่ง เรารับผิดชอบการจัดการตารางเวลาและการติดตามงานของทีม เราทำแผนงานรายสัปดาห์และติดตามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้โปรเจกต์เสร็จตรงตามกำหนดเวลา
2. ทุ่มเทและมีความรับผิดชอบ
ตัวอย่างเหตุการณ์: เมื่อครั้งที่เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งลาป่วยกะทันหัน เราอาสารับงานของเขามาทำเพิ่มเติม เพื่อให้โปรเจกต์ไม่สะดุด จนทำให้โปรเจกต์สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
สามารถทำงานเป็นทีมได้ดี
ตัวอย่างเหตุการณ์: เราเคยเป็นหัวหน้าทีมในโปรเจกต์หนึ่ง ซึ่งต้องประสานงานกับหลายฝ่าย เราใช้ความสามารถในการสื่อสารและสร้างแรงจูงใจให้ทีม ทำให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. แก้ปัญหาได้ดี
ตัวอย่างเหตุการณ์: ในการทำงานครั้งหนึ่ง ระบบคอมพิวเตอร์เกิดปัญหาขัดข้อง เราใช้ความรู้และทักษะด้านเทคนิคในการหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การทำงานกลับมาเป็นปกติในเวลาไม่นาน
4. มีความคิดสร้างสรรค์
ตัวอย่างเหตุการณ์: เราเคยเสนอไอเดียในการทำแคมเปญการตลาดใหม่ ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน ผลที่ได้คือยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
# ข้อเสีย
1. เป็นคนพิถีพิถันเกินไป
ตัวอย่างเหตุการณ์: บางครั้งเราใช้เวลานานในการตรวจสอบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในงาน ทำให้บางงานล่าช้า เรากำลังเรียนรู้ที่จะบาลานซ์ความพิถีพิถันกับการทำงานให้ทันเวลา
2. รับงานมามากเกินไป
ตัวอย่างเหตุการณ์: เรามักจะรับงานหลายๆ อย่างมาทำพร้อมกัน จนบางครั้งรู้สึกเครียดและเหนื่อยล้า ตอนนี้เราเรียนรู้ที่จะจัดการและลำดับความสำคัญของงานให้ดียิ่งขึ้น
3. ไม่ค่อยขอความช่วยเหลือ
ตัวอย่างเหตุการณ์: เรามักจะพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน จนบางครั้งทำให้เสียเวลาโดยไม่จำเป็น ตอนนี้เราเรียนรู้ว่าการขอความช่วยเหลือจากทีมงานสามารถทำให้ปัญหาถูกแก้ไขได้เร็วขึ้น
4. เป็นคนคิดมาก
ตัวอย่างเหตุการณ์: เรามักจะคิดมากเกี่ยวกับผลลัพธ์ของงานที่ทำ ทำให้บางครั้งรู้สึกเครียด ตอนนี้เราเรียนรู้ที่จะปล่อยวางและมุ่งเน้นที่การทำงานให้ดีที่สุด
5. ไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่างเหตุการณ์: ตอนที่บริษัทเปลี่ยนระบบการทำงานใหม่ เรารู้สึกไม่ค่อยสบายใจและใช้เวลาปรับตัวนานขึ้น ตอนนี้เราเรียนรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และพยายามปรับตัวให้เร็วขึ้น
อ่อ เราได้ฝึกมาจากหนังสือนี้มาค่ะ https://f9et.short.gy/psPYdB
แสดงความคิดเห็น
คำถามฮิตในการสัมภาษณ์งาน "จงบอก ข้อดี/ข้อเสีย ในตัวคุณ อย่างละ 5 ข้อ" ขอคำตอบสร้างภาพครับ