เราเลี้ยงหมาบางแก้วผสม อยู่ด้วยกันมาหกปีเต็ม และเป็นหมาตัวแรกที่เลี้ยง ปกติไม่เคยเลี้ยงหมาเลยค่ะ แต่ที่ได้มาคือแฟนหามาให้เพราะเป็นผู้หญิงอยุ่บ้านคนเดียวจะได้มีหมาเป็นเพื่อนและช่วยเผ้าบ้านด้วย เค้าเป็นหมาที่ทำหน้าที่เฝ้าบ้านได้ดีมาก คือตกกลางคืนถ้าเห็นคนผ่านบ้านก็จะเห่าเตือน เคยจับโจรที่มาขโมยข้างๆบ้านได้สามครั้ง และบ้านของเราไม่เคยโดนขโมยขึ้นเลย หมาเราเลี้ยงในบ้านตลอดไม่เคยให้ออกไปเดินข้างนอกนอกจากจะคล้องโซ่แล้วพาเดินเล่น ขอเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้หมาของเราจากไปอย่างไม่มีวันกลับคร่าวๆนะคะ
เช้าวันพุธก่อนไปทำงานเราให้อาหารเม็ดและหมาก็กระดิกหางไปส่งเราเหมือนปกติ
กลับมาตอนเย็น ผิดปกตินิดหนึ่งคือเค้าไม่วิ่งและกระดิกหางมารับ กลับเดินย่องๆเหมือนปวดท้อง เราเข้าใจว่าท้องผูก เพราะทำท่าเบ่งอึแต่เบ่งไม่ออก และไม่มานอนใกล้ๆเราเหมือนทุกที ช่วงสองทุ่มหมาของเราเริ่มร้องเป็นพักๆเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง หางตก และหางจุกตูดเป็นระยะ สี่ทุ่มครึ่งเค้าก็น้ำลายหยด เราโทรหาสัตว์แพทย์ประจำที่มาที่บ้านแต่เค้าไม่รับสาย เราคิดว่าหมาของเราน่าจะปวดท้องเลยหันไปบอกว่า อดทนหน่อยนะเดี๋ยวจะพาไปหาหมอพรุ่งนี้เช้า
หัวรุ่งวันพฤหัส เราตื่นเพราะได้ยินเสียงหมาร้อง เค้ามาร้องอยุ่ริมผนังบ้านเราในส่วนที่เปนห้องนอนของเรา เราเปิดม่านไปดูแล้วปลอบว่าเดี๋ยวเช้าแล้วไปหาหมอกันนะ เจ็บตรงไหน เป็นอะไรน่ะ ทนหน่อยนะ
ตื่นเช้ามาเราเห็นเลือดหยดสองสามหยด และมีเลือดที่ลิ้น รีบเรียกรถพยาบาลมารับ คุณหมอตรวจเสร็จตอนสิบโมงครึ่งและวินิจฉันว่าเป็นพยาธิในเลือด เกิดจากน้ำลายของเห็บ ให้น้ำเกลือ ฉีดยา และกินยาบำรุงเลือด ยาฆ่าเชื้อก็หาย เราเบาใจจะเตรียมไปทำงาน แวะซื้อไส้กรอกไว้ใส่ยาป้อนหมาอย่างโล่งอก แต่เหมือนฟ้าผ่าที่กลางใจเราคุณหมอโทรมาตอนเที่ยงบอกว่าหมามีอาการชัก น่าจะโดนวางยากลุ่มสติกนิน ให้ทำใจ เรารีบไปเฝ้าหมาอีกครั้ง ภาพที่เห็นยังฝังอยุ่ในใจจนถึงตอนนี้คือ หมาของเราชักและร้องอย่างทรมานที่สุด ชักแรงชนิดที่ว่าได้ยินเสียงหัวโขกกะผนังกรงที่เป็นปูน เราเอื้อมมือไปจับเท้าเค้า ปลอบใจว่าต้องเข้มแข็งนะ มารับกลับบ้านไปอยู่ด้วยกัน อย่าทิ้งเราไปนะ เรามีกันแค่นี้
ประมาณห้าโมงเย็นคุณหมอโทรมาบอกว่าหมาของเราไม่หายใจแล้ว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเราก็เสียเค้าไปอย่างไม่มีวันกลับ ตอนนี้ยังทำใจได้บ้างแล้ว แต่ความรุ้สึกผิดยังฝังอยุ่ในใจว่าทำไมเราไม่ช่วยเค้าให้เร็วกว่านี้ เราเสียใจ เสียงเค้าที่มานอนข้างๆกำแพงห้องนอนเรายังดังก้องอยู่ และตาแป๋วๆที่มองเราตอนเราออกจากบ้านไปตามหมอ พยายามเดินตามเรามาได้แค่สามเก้า แต่ก็เดินต่อไม่ไหว เหมือนจะบอกว่าเค้าเจ็บและกลัวเหลือเกินอย่าทิ้งเค้าไปไหน
เราอยากรู้ว่าเค้าโดนยางยาเบื่ออะไรทำไมถึงใช้เวลาอย่างน้อยก็ยี่สิบสี่ชั่วโมงกว่าจะตาย (นับตอนเรากลับบ้านแล้วมาเจอจริงๆอาจนานกว่านั้น) และก่อนนี้คุณหมอตรวจเลือดเลือดเค้าต่ำมากเหลือแค่ยี่สิบเอ็ดก็เลยคิดว่าเป็นพยาธิในเลือดจนป่วยตาย (อาการก่อนหน้านี้ประมาณเดือนหนึ่งคือขนร่วงเป็นหย่อมๆทั้งตัว และชอบปลีกวิเวกไปนอนเงียบๆใต้ต้นกล้วยซึ่งปกติเค้าจะชอบอยุ่หน้าบ้านตลอด เราเข้าใจว่าเค้าแพ้แชมพูที่พ่อใช้แชมพูของคนสระให้ แต่พอเลิกใช้แชมพูแล้วให้กินวิตามินบำรุงขนเค้าก็ร่าเริงขึ้นเหมือนเดิม คุณหมอเลยตัดประเด็นนี้ไป สรุปแล้วหมาของเราเค้าจากไปเพราะอะไร ยังค้างคาใจเราถึงทุกวันนี้ เรารู้ว่าเราแก้ไขให้เค้าฟื้นคืนมาไม่ได้ เป็นบทเรียนที่ตีค่าเป็นราคาไม่ได้ เพราะเราสูญเสียเค้าไปแล้ว และเราก็ไม่กล้าเลี้ยงหุมาอีกตอนนี้ เพราะกลัวว่าเราจะเลี้ยงเค้าไม่ดีพอ ทำให้เค้าต้องเจ็บ และตายอย่างทรมานที่สุด
พรุ่งนี้เราจะไปถวายสังฆทาน ทำบุญเผื่อจะไปถึงเค้า อยากรู้ว่าเค้าอยู่ที่ไหน สบายดี หรือเจ็บปวดทรมานเหมือนตอนเราเห็นก่อนเค้าตาย อยากบอกว่าคิดถึงที่สุด และขอโทษ เสียใจที่สุดที่ช่วยเค้าไม่ทัน
ความทุกข์ที่สุดในชีวิต ที่ต้องเห็นหมาที่เลี้ยง ตายอย่างทรมานที่สุด อยากสอบถามว่าอาการแบบนี้น่าจะเกิดจากอะไรค่ะ
เช้าวันพุธก่อนไปทำงานเราให้อาหารเม็ดและหมาก็กระดิกหางไปส่งเราเหมือนปกติ
กลับมาตอนเย็น ผิดปกตินิดหนึ่งคือเค้าไม่วิ่งและกระดิกหางมารับ กลับเดินย่องๆเหมือนปวดท้อง เราเข้าใจว่าท้องผูก เพราะทำท่าเบ่งอึแต่เบ่งไม่ออก และไม่มานอนใกล้ๆเราเหมือนทุกที ช่วงสองทุ่มหมาของเราเริ่มร้องเป็นพักๆเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง หางตก และหางจุกตูดเป็นระยะ สี่ทุ่มครึ่งเค้าก็น้ำลายหยด เราโทรหาสัตว์แพทย์ประจำที่มาที่บ้านแต่เค้าไม่รับสาย เราคิดว่าหมาของเราน่าจะปวดท้องเลยหันไปบอกว่า อดทนหน่อยนะเดี๋ยวจะพาไปหาหมอพรุ่งนี้เช้า
หัวรุ่งวันพฤหัส เราตื่นเพราะได้ยินเสียงหมาร้อง เค้ามาร้องอยุ่ริมผนังบ้านเราในส่วนที่เปนห้องนอนของเรา เราเปิดม่านไปดูแล้วปลอบว่าเดี๋ยวเช้าแล้วไปหาหมอกันนะ เจ็บตรงไหน เป็นอะไรน่ะ ทนหน่อยนะ
ตื่นเช้ามาเราเห็นเลือดหยดสองสามหยด และมีเลือดที่ลิ้น รีบเรียกรถพยาบาลมารับ คุณหมอตรวจเสร็จตอนสิบโมงครึ่งและวินิจฉันว่าเป็นพยาธิในเลือด เกิดจากน้ำลายของเห็บ ให้น้ำเกลือ ฉีดยา และกินยาบำรุงเลือด ยาฆ่าเชื้อก็หาย เราเบาใจจะเตรียมไปทำงาน แวะซื้อไส้กรอกไว้ใส่ยาป้อนหมาอย่างโล่งอก แต่เหมือนฟ้าผ่าที่กลางใจเราคุณหมอโทรมาตอนเที่ยงบอกว่าหมามีอาการชัก น่าจะโดนวางยากลุ่มสติกนิน ให้ทำใจ เรารีบไปเฝ้าหมาอีกครั้ง ภาพที่เห็นยังฝังอยุ่ในใจจนถึงตอนนี้คือ หมาของเราชักและร้องอย่างทรมานที่สุด ชักแรงชนิดที่ว่าได้ยินเสียงหัวโขกกะผนังกรงที่เป็นปูน เราเอื้อมมือไปจับเท้าเค้า ปลอบใจว่าต้องเข้มแข็งนะ มารับกลับบ้านไปอยู่ด้วยกัน อย่าทิ้งเราไปนะ เรามีกันแค่นี้
ประมาณห้าโมงเย็นคุณหมอโทรมาบอกว่าหมาของเราไม่หายใจแล้ว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเราก็เสียเค้าไปอย่างไม่มีวันกลับ ตอนนี้ยังทำใจได้บ้างแล้ว แต่ความรุ้สึกผิดยังฝังอยุ่ในใจว่าทำไมเราไม่ช่วยเค้าให้เร็วกว่านี้ เราเสียใจ เสียงเค้าที่มานอนข้างๆกำแพงห้องนอนเรายังดังก้องอยู่ และตาแป๋วๆที่มองเราตอนเราออกจากบ้านไปตามหมอ พยายามเดินตามเรามาได้แค่สามเก้า แต่ก็เดินต่อไม่ไหว เหมือนจะบอกว่าเค้าเจ็บและกลัวเหลือเกินอย่าทิ้งเค้าไปไหน
เราอยากรู้ว่าเค้าโดนยางยาเบื่ออะไรทำไมถึงใช้เวลาอย่างน้อยก็ยี่สิบสี่ชั่วโมงกว่าจะตาย (นับตอนเรากลับบ้านแล้วมาเจอจริงๆอาจนานกว่านั้น) และก่อนนี้คุณหมอตรวจเลือดเลือดเค้าต่ำมากเหลือแค่ยี่สิบเอ็ดก็เลยคิดว่าเป็นพยาธิในเลือดจนป่วยตาย (อาการก่อนหน้านี้ประมาณเดือนหนึ่งคือขนร่วงเป็นหย่อมๆทั้งตัว และชอบปลีกวิเวกไปนอนเงียบๆใต้ต้นกล้วยซึ่งปกติเค้าจะชอบอยุ่หน้าบ้านตลอด เราเข้าใจว่าเค้าแพ้แชมพูที่พ่อใช้แชมพูของคนสระให้ แต่พอเลิกใช้แชมพูแล้วให้กินวิตามินบำรุงขนเค้าก็ร่าเริงขึ้นเหมือนเดิม คุณหมอเลยตัดประเด็นนี้ไป สรุปแล้วหมาของเราเค้าจากไปเพราะอะไร ยังค้างคาใจเราถึงทุกวันนี้ เรารู้ว่าเราแก้ไขให้เค้าฟื้นคืนมาไม่ได้ เป็นบทเรียนที่ตีค่าเป็นราคาไม่ได้ เพราะเราสูญเสียเค้าไปแล้ว และเราก็ไม่กล้าเลี้ยงหุมาอีกตอนนี้ เพราะกลัวว่าเราจะเลี้ยงเค้าไม่ดีพอ ทำให้เค้าต้องเจ็บ และตายอย่างทรมานที่สุด
พรุ่งนี้เราจะไปถวายสังฆทาน ทำบุญเผื่อจะไปถึงเค้า อยากรู้ว่าเค้าอยู่ที่ไหน สบายดี หรือเจ็บปวดทรมานเหมือนตอนเราเห็นก่อนเค้าตาย อยากบอกว่าคิดถึงที่สุด และขอโทษ เสียใจที่สุดที่ช่วยเค้าไม่ทัน