วิธีแก้ปัญหาที่จอดรถทัวร์รอบวัดพระแก้วของกรุงเทพมหานคร



พอดีเห็นข่าวนี้ในไทยรัฐ อยากจะสะท้อนวิธีแก้ปัญหาของท่านรองผู้ว่าฯ ว่าท่านแก้ปัญหาไม่ถูกจุด

1. นักท่องเที่ยวจะเข้าไปชมวัดพระแก้วใช้เวลาประมาณ 40 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ขณะที่รถบัสหลังจากที่ส่งนักท่องเที่ยวแล้วต้องหาทางวนขึ้นสะพานปิ่นเกล้าวิ่งไปสายใต้เก่าแล้วกว่าจะวนกลับมาก็คงไม่ต่างกัน สรุปก็คือไม่ต้องจอดแค่วนไปแล้วกลับมาก็ถึงเวลาแขกออกมาจากวัดพระแก้วพอดี ไม่งั้นนักท่องเที่ยวก็ต้องยืนรอกันเป็นชั่วโมงๆ เซ็งอีก

2. รถบัสและรถตู้เป็นร้อยๆคันวิ่งวนไปมาระหว่างฝั่งพระครและฝั่งธน คิดดูสิครับใครรับกรรมก็คนที่อยู่ฝั่งธนบุรีที่ปกติรถก็ติดอยู่แล้ว โดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์แค่รถที่วิ่งเข้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้าก็ติดกันเป็นแถวยาว นี่มีรถมาเพิ่มอีกมันจะจลาจลขนาดไหน

3.จะมีรถบัสรถตู้บางส่วนหรือส่วนมากจะใช้วิธีไม่ข้ามไป แต่ใช้วิธีไม่จอดแต่วิ่งวนรอบบริเวณฝั่งพระนครเพื่อรอเวลาวนมารับนักท่องเที่ยวแทนที่จะวิ่งข้ามไปสายใต้เก่าเพราะใช้เวลาไม่ต่างกัน(ผมก็จะใช้วิธีนี้นะเพราะไม่ได้ผิดกฎหมายนี่นา) ทีนี้ฝั่งพระนครก็จะกลายเป็นอัมพาตอีก

สรุปก็คือเป็นวิธีการที่ปัดภาระให้พ้นตัว อยากให้ท่านรองผู้ว่าฯ ลงมาเดินเผชิญข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์จริงๆเป็นอย่างไร เอาตั้งแต่เช้าจนเย็นเลยนะครับ แล้วจะรู้ปัญหาว่าแท้จริงคืออะไร อย่าอยู่ในห้องแอร์แล้วคิดแก้ปัญหา
อีกอย่าง ข้ออ้างเรื่องโบราณสถานทรุดโทรม มันต้องมีวิธีแก้ที่ดีกว่านี้ สถานที่ท่องเที่ยวถ้าไม่อำนวยความสะดวกเรื่องพาหนะ นักท่องเที่ยวออกมาจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้วต้องมายืนร้อนรอรถมารับเป็นชั่วโมงๆ แล้วใครอยากจะมาเที่ยว เราไปเที่ยวที่อื่นถ้าเจอแบบนี้เราก็ไม่เอาเหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่