กระทู้ก่อนๆ
(Y) น้ำค้างมองพระจันทร์ บทที่ 1.1 ตายแล้ว...ไปไหน? เขียนโดย... กัลปังหา
http://ppantip.com/topic/30447400
(Y) น้ำค้างมองพระจันทร์ บทที่ 1.2 ตายแล้ว... ไปไหน? เขียนโดย... กัลปังหา
http://ppantip.com/topic/30448112
(Y) น้ำค้างมองพระจันทร์ บทที่ 2.1 ชายผู้ตามพระจันทร์ เขียนโดย... กัลปังหา
http://ppantip.com/topic/30452010
มาถึงบทที่ 2.2 ซึ่งเป็นบทที่ต้องขุดความรู้นักธรรมตั้งแต่ชั้นตรี โท เอก มาเขียนกระทู้ธรรมที่ปรากฏเป้นกัณฑ์เทศน์ในท้ายเรื่อง และเป็นที่มาของชื่อชายผู้ตามพระจันทร์ แต่สิ่งที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าจนต้องมาตามล้างตามเช็ดอยู่คือ
เจ้าเด็กภูมิ ที่ปรากฏตัวมาตั้งแต่บทที่ 1 ความจริงแล้วเด็กคนนี้ชื่อ
ภีม ทราบกันอยู่ว่าที่ผ่านมาไม่นานมีเรื่องราวสะท้านวงการบันเทิงเกี่ยวกับการท้องไม่รับ ซิงเกิ้ลมัมเลี้ยงเด็กจนโต(ขอพูดเท่านี้ เดี๋ยวโดนฟ้อง) เจ้าเด็กตัวปัญหานี้เลยต้องเปลี่ยนชื่อเป็นการด่วน
เข้าเรื่องเลยดีกว่า (เดี๋ยวจะออกทะเล)
“กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณ พระคุณเจ้าทุกรูป สวัสดีแขกผู้เกียรติทุกท่านครับ สำหรับค่ำคืนนี้พิธีบำเพ็ญกุศลศพนายพงษ์ชิษณุ สุริยะกุลโดยมีญาติสนิทมิตรสหายเป็นเจ้าภาพเริ่มด้วยการแสดงพระธรรมเทศนาตามโครงการวัดเข้มแข็ง 1 กัณฑ์โดยพระมหาศักดิ์ ก่อนอื่นเรียนเชิญคุณสุรชัย พรหมมาศจุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชาครับ” น้องอาร์มพิธีกรประจำศาลากล่าวเริ่มพิธีเชิญพ่อของผมในฐานะผู้ใหญ่ที่สุดในฝ่ายเจ้าภาพไปรับเทียนชนวนจากน้องอาร์มจุดเทียนทางซ้ายมือและขวาตามด้วยจุดธูปส่งเทียนชนวนคืนให้พิธีกรแล้วก้มกราบพระพุทธรูปเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
“ลำดับต่อไปเรียนเชิญคุณวิลาวัณย์ พรหมมาศจุดเทียนส่องธรรมที่ธรรมาสน์ครับ” น้องอาร์มเชิญแม่ของผมให้รับเทียนชนวนจุดเทียนส่องธรรมซึ่งเป็นสัญญาณว่านิมนต์พระคุณเจ้าขึ้นสู่ธรรมาสน์ พระอาจารย์ศักดิ์ลุกขึ้นจากที่นั่งฝ่ายสงฆ์ ท่านไหว้พระเถระผู้ใหญ่เดินสู่ธรรมาสน์ด้วยความสำรวม
“ต่อจากไปนี้ ขอทุกท่านโปรดสงบกายวาจา กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย และอาราธนาศีลพร้อมกันครับ” น้องอาร์มทำหน้าที่เป็นต้นเสียงกล่าวคำบูชาได้อย่างมิขาดตกบกพร่อง เขานำอาราธนาศีล รับศีล อาราธนาธรรม พระมหาศักดิ์หยิบกัณฑ์ขึ้นมาอ่านแสดงธรรม
มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา
มนสา เจ ปสนฺเนส ภาสติ วา กโรติ วา
ตโต นํ สุขมเนฺวติ ฉายาว อนุปายินีฯ
เจริญสุขท่านสาธุชนทั้งหลาย อาตมภาพจักได้แสดงพระธรรมเทศนา พรรณนาถึงชายผู้ตามพระจันทร์ที่ปรากฏในนิทานธรรมบท เพื่อส่งอานิสงส์ให้ผู้วายชนม์คือนายพงษ์ชิษณุ สุริยะกุลให้ได้รับผลบุญไปเสวยสุขในภพภูมิที่ดีสืบไป พอสนองศรัทธาของเจ้าภาพตามสมควรแก่เวลา
ท่านทั้งหลายได้มารำลึกนึกถึงนายพงษ์ชิษณุ สุริยะกุลซึ่งได้ล่วงลับพลัดพรากจากสนิทมิตรสหาย การจากไปครานี้ ยังความทุกข์ระทมอาลัยรักต่อท่านทั้งหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของเขาผู้จากไปเป็นอันมาก คุณพงษ์ชิษณุนั้นถือว่าเป็นคนดี เมื่อคนดีเสียชีวิตลงย่อมมีคนอาลัยคนเสียดายเป็นธรรมดา แม้แต่อาตมภาพเองก็ยังเสียดายอยู่มิรู้หายว่าทำไมความตายมาพรากคนดีคนนี้ในวัยหนุ่ม ความดีของเขามีมากอย่าง เช่น ศาลาไว้ศพแห่งนี้ก็อาศัยปัจจัยจากคุณพงษ์-ชิษณุซ่อมแซมบำรุงให้กลับมาสง่างามเป็นราศีให้แก่วัด ดั่งคำโบราณท่านกล่าวว่า อันคนดีอยู่ที่ไหนใครก็รัก จากเขาก็อาลัย ตายไปก็มีคนพิลาปรำพัน
สำหรับความหมายของพุทธศาสนสุภาษิตที่นำมาเป็นนิกเขปบทเบื้องต้นนั้นคือ ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจผ่องใสแล้ว พูดอยู่ก็ดี ทำอยู่ก็ดี ความสุขย่อมไปตามเขา เพราะเหตุนั้น จึงเปรียบเหมือนเงาไปตามตัว ฉะนั้นแล ใจนั้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าแห่งธรรมทั้งปวง ด้วยเหตุว่า ธรรมทั้งปวงนั้นมีฉันทะคือควาพอใจเป็นมูล เรียกว่าจะทำอะไรก็ตามแต่ก็อาศัยใจหรือความพึงพอใจเป็นตั้งต้นทั้งสิ้น อาทิเช่น ท่านทั้งหลายที่มาประชุมกันอยู่ ณ ศาลาแห่งนี้ก็ล้วนมีใจตั้งต้นว่า มาร่วมไว้อาลัยแก่คุณพงษ์ชิษณุ มาร่วมประกอบบุญกุศลกันเพื่อส่งคุณพงษ์ชิษณุไปสู่ภพภูมิที่ดี
(Y) น้ำค้างมองพระจันทร์ บทที่ 2.2 ชายผู้ตามพระจันทร์ เขียนโดย... กัลปังหา
กระทู้ก่อนๆ(Y) น้ำค้างมองพระจันทร์ บทที่ 1.1 ตายแล้ว...ไปไหน? เขียนโดย... กัลปังหา
http://ppantip.com/topic/30447400
(Y) น้ำค้างมองพระจันทร์ บทที่ 1.2 ตายแล้ว... ไปไหน? เขียนโดย... กัลปังหา
http://ppantip.com/topic/30448112
(Y) น้ำค้างมองพระจันทร์ บทที่ 2.1 ชายผู้ตามพระจันทร์ เขียนโดย... กัลปังหา
http://ppantip.com/topic/30452010
มาถึงบทที่ 2.2 ซึ่งเป็นบทที่ต้องขุดความรู้นักธรรมตั้งแต่ชั้นตรี โท เอก มาเขียนกระทู้ธรรมที่ปรากฏเป้นกัณฑ์เทศน์ในท้ายเรื่อง และเป็นที่มาของชื่อชายผู้ตามพระจันทร์ แต่สิ่งที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าจนต้องมาตามล้างตามเช็ดอยู่คือ เจ้าเด็กภูมิ ที่ปรากฏตัวมาตั้งแต่บทที่ 1 ความจริงแล้วเด็กคนนี้ชื่อ ภีม ทราบกันอยู่ว่าที่ผ่านมาไม่นานมีเรื่องราวสะท้านวงการบันเทิงเกี่ยวกับการท้องไม่รับ ซิงเกิ้ลมัมเลี้ยงเด็กจนโต(ขอพูดเท่านี้ เดี๋ยวโดนฟ้อง) เจ้าเด็กตัวปัญหานี้เลยต้องเปลี่ยนชื่อเป็นการด่วน
เข้าเรื่องเลยดีกว่า (เดี๋ยวจะออกทะเล)
“กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณ พระคุณเจ้าทุกรูป สวัสดีแขกผู้เกียรติทุกท่านครับ สำหรับค่ำคืนนี้พิธีบำเพ็ญกุศลศพนายพงษ์ชิษณุ สุริยะกุลโดยมีญาติสนิทมิตรสหายเป็นเจ้าภาพเริ่มด้วยการแสดงพระธรรมเทศนาตามโครงการวัดเข้มแข็ง 1 กัณฑ์โดยพระมหาศักดิ์ ก่อนอื่นเรียนเชิญคุณสุรชัย พรหมมาศจุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชาครับ” น้องอาร์มพิธีกรประจำศาลากล่าวเริ่มพิธีเชิญพ่อของผมในฐานะผู้ใหญ่ที่สุดในฝ่ายเจ้าภาพไปรับเทียนชนวนจากน้องอาร์มจุดเทียนทางซ้ายมือและขวาตามด้วยจุดธูปส่งเทียนชนวนคืนให้พิธีกรแล้วก้มกราบพระพุทธรูปเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
“ลำดับต่อไปเรียนเชิญคุณวิลาวัณย์ พรหมมาศจุดเทียนส่องธรรมที่ธรรมาสน์ครับ” น้องอาร์มเชิญแม่ของผมให้รับเทียนชนวนจุดเทียนส่องธรรมซึ่งเป็นสัญญาณว่านิมนต์พระคุณเจ้าขึ้นสู่ธรรมาสน์ พระอาจารย์ศักดิ์ลุกขึ้นจากที่นั่งฝ่ายสงฆ์ ท่านไหว้พระเถระผู้ใหญ่เดินสู่ธรรมาสน์ด้วยความสำรวม
“ต่อจากไปนี้ ขอทุกท่านโปรดสงบกายวาจา กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย และอาราธนาศีลพร้อมกันครับ” น้องอาร์มทำหน้าที่เป็นต้นเสียงกล่าวคำบูชาได้อย่างมิขาดตกบกพร่อง เขานำอาราธนาศีล รับศีล อาราธนาธรรม พระมหาศักดิ์หยิบกัณฑ์ขึ้นมาอ่านแสดงธรรม
มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา
มนสา เจ ปสนฺเนส ภาสติ วา กโรติ วา
ตโต นํ สุขมเนฺวติ ฉายาว อนุปายินีฯ
เจริญสุขท่านสาธุชนทั้งหลาย อาตมภาพจักได้แสดงพระธรรมเทศนา พรรณนาถึงชายผู้ตามพระจันทร์ที่ปรากฏในนิทานธรรมบท เพื่อส่งอานิสงส์ให้ผู้วายชนม์คือนายพงษ์ชิษณุ สุริยะกุลให้ได้รับผลบุญไปเสวยสุขในภพภูมิที่ดีสืบไป พอสนองศรัทธาของเจ้าภาพตามสมควรแก่เวลา
ท่านทั้งหลายได้มารำลึกนึกถึงนายพงษ์ชิษณุ สุริยะกุลซึ่งได้ล่วงลับพลัดพรากจากสนิทมิตรสหาย การจากไปครานี้ ยังความทุกข์ระทมอาลัยรักต่อท่านทั้งหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของเขาผู้จากไปเป็นอันมาก คุณพงษ์ชิษณุนั้นถือว่าเป็นคนดี เมื่อคนดีเสียชีวิตลงย่อมมีคนอาลัยคนเสียดายเป็นธรรมดา แม้แต่อาตมภาพเองก็ยังเสียดายอยู่มิรู้หายว่าทำไมความตายมาพรากคนดีคนนี้ในวัยหนุ่ม ความดีของเขามีมากอย่าง เช่น ศาลาไว้ศพแห่งนี้ก็อาศัยปัจจัยจากคุณพงษ์-ชิษณุซ่อมแซมบำรุงให้กลับมาสง่างามเป็นราศีให้แก่วัด ดั่งคำโบราณท่านกล่าวว่า อันคนดีอยู่ที่ไหนใครก็รัก จากเขาก็อาลัย ตายไปก็มีคนพิลาปรำพัน
สำหรับความหมายของพุทธศาสนสุภาษิตที่นำมาเป็นนิกเขปบทเบื้องต้นนั้นคือ ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจผ่องใสแล้ว พูดอยู่ก็ดี ทำอยู่ก็ดี ความสุขย่อมไปตามเขา เพราะเหตุนั้น จึงเปรียบเหมือนเงาไปตามตัว ฉะนั้นแล ใจนั้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าแห่งธรรมทั้งปวง ด้วยเหตุว่า ธรรมทั้งปวงนั้นมีฉันทะคือควาพอใจเป็นมูล เรียกว่าจะทำอะไรก็ตามแต่ก็อาศัยใจหรือความพึงพอใจเป็นตั้งต้นทั้งสิ้น อาทิเช่น ท่านทั้งหลายที่มาประชุมกันอยู่ ณ ศาลาแห่งนี้ก็ล้วนมีใจตั้งต้นว่า มาร่วมไว้อาลัยแก่คุณพงษ์ชิษณุ มาร่วมประกอบบุญกุศลกันเพื่อส่งคุณพงษ์ชิษณุไปสู่ภพภูมิที่ดี