ในยุครัตนโกสินทร์ แม้บทบาทของเพศหญิงจะหายไปจนแทบไม่มีเหลือ
แต่วาทกรรมเรื่องเพศต่างๆ เช่นชิงสุกก่อนห่-ม หรือการรักนวลสงวนตัวก็ยังไม่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่นนางสีดา และนางพิมพิลาลัย ที่เป็นนางในวรรณคดียุครัตนโกสินทร์ ทั้งสองเสียตัวและแต่งงานตอนอายุ 16 ปีทั้งคู่ แม้ในยุคดังกล่าวจะมีการแต่งสุภาษิตสอนหญิง และตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือนางนพมาศออกมา แต่วรรณกรรมเหล่านี้มีไว้ให้ลูกสาวของชนชั้นสูงยึดถือปฎิบัติ เพื่อให้ผู้ชายในราชสำนักสนใจเอาไปเป็นภรรยา ไม่ต่างจากหมอนวดในปัจจุบัน ฉะนั้นหากเราสนับสนุนให้เยาวชนไทยยึดถือวรรณกรรมพวกนี้เป็นแบบอย่าง ก็เท่ากับเราสนับสนุนให้เยาวชนไทยเป็นหมอนวด
จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าคนไทยสมัยก่อน มองว่าเรื่องเพศไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือสิ่งที่น่ารังเกียจแต่อย่างใด
คำว่า “วัยอันควร” ที่เราชอบอ้างกัน สำหรับคนสมัยก่อน อายุ 16-19 ปี ก็ถือเป็นวัยอันควรแล้ว เพราะวัยดังกล่าวเป็นวัยเจริญพันธุ์ การห้ามไม่ให้เยาวชนมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงวัยที่เขาต้องการมีเพศสัมพันธ์มันจึงเป็นไปไม่ได้ คนโบราณเขาเข้าใจจุดนี้จึงไม่มองเรื่องเพศเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ผู้ใหญ่สมัยนี้ต้องการจะสร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทยลวงๆ ขึ้นมาอันเป็นผลพวงจากลัทธิคลั่งชาติ ผลักภาระไปให้เพศหญิง สร้างวาทกรรม “รักนวลสงวนตัว” ขึ้นมาแทนที่จะสอนวิธีการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย การผลักภาระเช่นนี้ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งกับเพศหญิง เราอ้างความเป็นไทย จนลืมความเป็นมนุษย์ ใช้ความเป็นไทยมาทำร้ายธรรมชาติของมนุษย์เสียเอง ซึ่งทั้งที่จริงๆ แล้วความเป็นไทยแท้นั้นไม่มีจริง เป็นเพียงแค่การหยิบเอาวัฒนธรรมของชาติอื่นๆ มาผสมกันแล้วคิดเอาเองว่ามันคือความเป็นไทยเท่านั้น
ที่มา :
http://www.prachatai.com/journal/2013/05/46559 ( สุจิตต์ วงเทศน์ รื้อถอนวาทกรรม
“สาวไทยต้องรักนวลสงวนตัว” )
---------------------------
จากอันนี้ ผมสงสัยอะครับ
ถ้าจะบอกว่า คำกล่าวที่ว่า
"ไม่ึควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร" เป็นสิ่งที่ล้าสมัย และไม่เข้ากับความเป็นจริง ผมสงสัยว่ามันเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า?
OK สมัยก่อน
"วัยอันควร" มันคือ 15 ปีก็มีได้แล้ว มันไม่แปลกเพราะเป็นบริบทสังคมยุคก่อน ที่อายุ 15 - 16 ถ้าเป็นผู้ชายก็เป็นทหารออกรบได้ ( บางคนได้เป็นผู้นำตั้งแต่วัยนี้ด้วยซ้ำ อย่างในสามก๊ก ซุนเกี๋ยนพ่อซุนเซ็กกับซุนกวน ก็มีชื่อเสียงในการปราบโจรตั้งแต่ยังมีอายุแค่ 16 ปี หรือม้าเฉียวก็ออกรบตั้งแต่อาุยุ 16 ปี ) ถ้าเป็นผู้หญิงก็แต่งงานมีครอบครัวได้ เขาเริ่มมีลูกจากวัยนี้ เพราะอายุขัยเฉลี่ยคนสมัยก่อนสั้นมาก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 50 ปีเองด้วยซ้ำ ( เคยได้ยินว่านางสนมในวังจีน พออายุ 30 ก็จะถูกปลดประจำการ ต้องออกจากวังกลับไปอยู่บ้านเกิด ) แถมวิทยาการทางการแพทย์ก็ไม่ดีเท่าสมัยนี้ ดังนั้นถ้าตั้งครรภ์ตอนอายุมากๆ จะเป็นอันตรายทั้งแม่ทั้งลูก
คำอวยพรที่ว่า
"ขอให้มีลูกหัวปีท้ายปี" ก็เป็นหลักฐานที่ดี ว่าสมัยก่อนต้องการประชากรมากๆ มาเป็นแรงงาน จึงต้องแต่งงานตั้งแต่อายุน้อยๆ เพื่อจะได้มีช่วงเวลามีลูกนานๆ
แต่สมัยนี้ ประชากรส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ในวัยเด็กและเยาวชน ( สมัยก่อนไม่มีคำว่าเยาวชน ที่หมายถึงวัยรุ่นอายุ 15 - 18 ปี เพราะอย่างที่กล่าวไปตอนต้น อายุ 15 ปีปุ๊บ เปลี่ยนจากเด็กเป็นผู้ใหญ่เลย ) อย่างน้อยๆ ก็ 18 ปี โดยใช้เวลาเฉลี่ย 12 ปี ( ป.1 - ม.6 หรือ ปวช. ) อยู่ในวัยเรียน แน่นอนละว่าเมื่อเป็นวัยเรียน ก็ย่อมไม่มีรายได้เลี้ยงตัวที่มั่นคง
ดังนั้นเขาถึงได้สอนว่าอย่ามีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เพราะวุฒิภาวะมันยังไม่เพียงพอ ถ้าพลาดไปแล้วมันจะท้อง ก็เสียอนาคตทั้งชายทั้งหญิง แถมสมัยนี้ค่าครองชีพสูง ใครมีลูกมาก การจะเลี้ยงให้มีคุณภาพดีก็จะยิ่งยากไปด้วย
( สังเกตไหมว่าคนที่อายุ 20 ปีขึ้นไป มีการศึกษาสูงพอสมควร พวกนี้จะรู้จักป้องกันมากกว่าบรรดาเด็กๆ แวนซ์สก๊อยทั้งหลาย เพราะทำงานเองแล้ว จะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังพอสมควร ไม่ได้รักสนุกเหมือนตอนเป็นวัยรุ่น ขนาดบางคนแต่งงานแล้ว ยังคิดแล้วคิดอีกว่าสมควรมีลูกได้หรือยัง เพราะกลัวว่ามีแล้วจะไม่มีปัญญาเลี้ยงให้ได้ดี )
คุณสุจิตต์แกบอกว่า
"อย่าไปห้ามในช่วงที่ร่างกายพร้อม" ถูกครับ ร่างกายพร้อม แต่ผมสงสัยว่าบริบทสังคม มันพร้อมด้วยแบบสมัยก่อนหรือเปล่า? ( คนที่ไม่พลาดก็คงมี แต่เป็นส่วนน้อยจากเหตุการณ์เฉลี่ยแน่ๆ ไม่งั้นเราคงไม่มีข่าว ไม่มีนักวิชาการมาบ่นกันทุกปี )
ตามนี้แหละครับ มันล้าสมัยจริงๆ หรือ? ในเมื่อวัยอันควรสมัยก่อนคือช่วงนึง ( อายุ 15 ปีไปแล้ว ) แต่วัยอันควรสมัยนี้ มันก็คืออีกช่วงเวลานึง ( อายุ 18 ปีไปแล้ว)
ปล.ผมพูดถึงเรื่อง
"ก่อนวัยอันควร" เท่านั้นนะครับ ไม่ใช่
"ก่อนแต่งงาน" ( แอบเกรียนเล็กน้อย ผม Anti งานแต่งนะครับ เพราะเบื่อสินสอด เบื่องานเลี้ยงหรูๆ เบื่อเช่าชุดแพงๆ )
คำกล่าวที่ว่า "ไม่ึควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร" ล้าสมัยจริงหรือ?
จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าคนไทยสมัยก่อน มองว่าเรื่องเพศไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือสิ่งที่น่ารังเกียจแต่อย่างใด คำว่า “วัยอันควร” ที่เราชอบอ้างกัน สำหรับคนสมัยก่อน อายุ 16-19 ปี ก็ถือเป็นวัยอันควรแล้ว เพราะวัยดังกล่าวเป็นวัยเจริญพันธุ์ การห้ามไม่ให้เยาวชนมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงวัยที่เขาต้องการมีเพศสัมพันธ์มันจึงเป็นไปไม่ได้ คนโบราณเขาเข้าใจจุดนี้จึงไม่มองเรื่องเพศเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ผู้ใหญ่สมัยนี้ต้องการจะสร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทยลวงๆ ขึ้นมาอันเป็นผลพวงจากลัทธิคลั่งชาติ ผลักภาระไปให้เพศหญิง สร้างวาทกรรม “รักนวลสงวนตัว” ขึ้นมาแทนที่จะสอนวิธีการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย การผลักภาระเช่นนี้ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งกับเพศหญิง เราอ้างความเป็นไทย จนลืมความเป็นมนุษย์ ใช้ความเป็นไทยมาทำร้ายธรรมชาติของมนุษย์เสียเอง ซึ่งทั้งที่จริงๆ แล้วความเป็นไทยแท้นั้นไม่มีจริง เป็นเพียงแค่การหยิบเอาวัฒนธรรมของชาติอื่นๆ มาผสมกันแล้วคิดเอาเองว่ามันคือความเป็นไทยเท่านั้น
ที่มา :
http://www.prachatai.com/journal/2013/05/46559 ( สุจิตต์ วงเทศน์ รื้อถอนวาทกรรม “สาวไทยต้องรักนวลสงวนตัว” )
---------------------------
จากอันนี้ ผมสงสัยอะครับ
ถ้าจะบอกว่า คำกล่าวที่ว่า "ไม่ึควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร" เป็นสิ่งที่ล้าสมัย และไม่เข้ากับความเป็นจริง ผมสงสัยว่ามันเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า?
OK สมัยก่อน "วัยอันควร" มันคือ 15 ปีก็มีได้แล้ว มันไม่แปลกเพราะเป็นบริบทสังคมยุคก่อน ที่อายุ 15 - 16 ถ้าเป็นผู้ชายก็เป็นทหารออกรบได้ ( บางคนได้เป็นผู้นำตั้งแต่วัยนี้ด้วยซ้ำ อย่างในสามก๊ก ซุนเกี๋ยนพ่อซุนเซ็กกับซุนกวน ก็มีชื่อเสียงในการปราบโจรตั้งแต่ยังมีอายุแค่ 16 ปี หรือม้าเฉียวก็ออกรบตั้งแต่อาุยุ 16 ปี ) ถ้าเป็นผู้หญิงก็แต่งงานมีครอบครัวได้ เขาเริ่มมีลูกจากวัยนี้ เพราะอายุขัยเฉลี่ยคนสมัยก่อนสั้นมาก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 50 ปีเองด้วยซ้ำ ( เคยได้ยินว่านางสนมในวังจีน พออายุ 30 ก็จะถูกปลดประจำการ ต้องออกจากวังกลับไปอยู่บ้านเกิด ) แถมวิทยาการทางการแพทย์ก็ไม่ดีเท่าสมัยนี้ ดังนั้นถ้าตั้งครรภ์ตอนอายุมากๆ จะเป็นอันตรายทั้งแม่ทั้งลูก
คำอวยพรที่ว่า "ขอให้มีลูกหัวปีท้ายปี" ก็เป็นหลักฐานที่ดี ว่าสมัยก่อนต้องการประชากรมากๆ มาเป็นแรงงาน จึงต้องแต่งงานตั้งแต่อายุน้อยๆ เพื่อจะได้มีช่วงเวลามีลูกนานๆ
แต่สมัยนี้ ประชากรส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ในวัยเด็กและเยาวชน ( สมัยก่อนไม่มีคำว่าเยาวชน ที่หมายถึงวัยรุ่นอายุ 15 - 18 ปี เพราะอย่างที่กล่าวไปตอนต้น อายุ 15 ปีปุ๊บ เปลี่ยนจากเด็กเป็นผู้ใหญ่เลย ) อย่างน้อยๆ ก็ 18 ปี โดยใช้เวลาเฉลี่ย 12 ปี ( ป.1 - ม.6 หรือ ปวช. ) อยู่ในวัยเรียน แน่นอนละว่าเมื่อเป็นวัยเรียน ก็ย่อมไม่มีรายได้เลี้ยงตัวที่มั่นคง
ดังนั้นเขาถึงได้สอนว่าอย่ามีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เพราะวุฒิภาวะมันยังไม่เพียงพอ ถ้าพลาดไปแล้วมันจะท้อง ก็เสียอนาคตทั้งชายทั้งหญิง แถมสมัยนี้ค่าครองชีพสูง ใครมีลูกมาก การจะเลี้ยงให้มีคุณภาพดีก็จะยิ่งยากไปด้วย
( สังเกตไหมว่าคนที่อายุ 20 ปีขึ้นไป มีการศึกษาสูงพอสมควร พวกนี้จะรู้จักป้องกันมากกว่าบรรดาเด็กๆ แวนซ์สก๊อยทั้งหลาย เพราะทำงานเองแล้ว จะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังพอสมควร ไม่ได้รักสนุกเหมือนตอนเป็นวัยรุ่น ขนาดบางคนแต่งงานแล้ว ยังคิดแล้วคิดอีกว่าสมควรมีลูกได้หรือยัง เพราะกลัวว่ามีแล้วจะไม่มีปัญญาเลี้ยงให้ได้ดี )
คุณสุจิตต์แกบอกว่า "อย่าไปห้ามในช่วงที่ร่างกายพร้อม" ถูกครับ ร่างกายพร้อม แต่ผมสงสัยว่าบริบทสังคม มันพร้อมด้วยแบบสมัยก่อนหรือเปล่า? ( คนที่ไม่พลาดก็คงมี แต่เป็นส่วนน้อยจากเหตุการณ์เฉลี่ยแน่ๆ ไม่งั้นเราคงไม่มีข่าว ไม่มีนักวิชาการมาบ่นกันทุกปี )
ตามนี้แหละครับ มันล้าสมัยจริงๆ หรือ? ในเมื่อวัยอันควรสมัยก่อนคือช่วงนึง ( อายุ 15 ปีไปแล้ว ) แต่วัยอันควรสมัยนี้ มันก็คืออีกช่วงเวลานึง ( อายุ 18 ปีไปแล้ว)
ปล.ผมพูดถึงเรื่อง "ก่อนวัยอันควร" เท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ "ก่อนแต่งงาน" ( แอบเกรียนเล็กน้อย ผม Anti งานแต่งนะครับ เพราะเบื่อสินสอด เบื่องานเลี้ยงหรูๆ เบื่อเช่าชุดแพงๆ )