แน่นอนแล้วว่า UEFA Champions League ฤดูกาลนี้จะเป็นการชิงดำกันระหว่าง เสือใต้ บาเยินมิวนิค และ เสือเหลือง โบรุสเซียดอทมุน
จะเป็นการชิงชัยกันเองระหว่างสองยอดทีมจากเยอรมัน แม้ผลงานในลีคบาเยินมิวนิคจะคว้าแชมป์ไปแล้วก็ตามแต่ในเกมส์ตัดสิ้นนัดเดียวที่เวมบรีย์แน่นอนว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้
    
       การที่ทีมจากชาติเดียวกันจะผ่านยอดทีมจากทั้วยุโรปเข้ามาเจอกันเองในนัดชิงชนะเลิศนั่นถือเป็นเรื่องที่ยากมาก โดยในประวัติศาสตร์ของ UCL นั่นมีเกิดขึ้นแค่สามครั้งเท่านั่น เราจะมาดูกันว่าสามครั้งที่ผ่านมาจะมีทีมจากชาติไหนกันบ้างแล้วใครเป็นผู้ชนะ

       ครั้งแรก ใน ปี 2000 เป็นการพบกันระหว่าง Real Madrid (Spa) Vs Valencia (Spa)
UCL ฤดูกาล 1999-2000 ถือเป็นปีทองของวงกาลฟุตบอลสเปนอย่างแท้จริงเพราะในรอบรองชนะเลิศมีทีมจากสเปนถึง 3 ทีม โดยมี บารเซ่โลน่า มาดริด และ บาเลนเซียส่วนอีกทีมเป็นปาเยินมิวนิคจากเยอรมัน ในรอบรองชนะเลืศ มาดริดสามารถผ่านบาเยินมิวนิคได้ด้วยผลประตูรวม 2-3 ในขณะที่บาเลนเซียสร้างเซอไพร์เข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ UCL ต้องมาเจอคู่ปรับรวมลีคอย่าง บารเซ่โลน่า ที่มีสุดยอดนักเตะอย่าง ริเวอโด่อยู่ในทีมซึ่งในปีนั่นเอง ริเวอโด่ได้รางวัล Golden Boot โดยยิงไปถึง 10 ประตู บาเลนเซียสามารถหักปากกาเซียนได้ด้วยการคว่ำทีมอย่างบารเซ่โลนาได้สำเร็จผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ UCL เป็นครั้งแรกของสโมสร ด้วยการพบกับแชมป์ 7 ชนะอย่าง รีล มาดริดโดยเกมส์นี้เตะกันในวันที่ 24 พฤษภาคม ปี 2000 เตะกันที่สนาม สตาร์เดอฟรอง ที่ประเทศฝรั่งเศษ โดยที่ผลของนัดนี้ก็เป็นไปตามคาด โดยที่มาดริดสามารถเอาชนะบาเลนเซียไปอย่างขาดลอย 3-0 คว้าแชมป์สมัยที่ 8 ได้สำเร็จ

       ครั้งที่สอง ในปี 2003 เป็นการพบกันระหว่าง A.c. Milan  (Ita) Vs Juventus (Ita)
ยูเว่นตุสที่พึ่งคว้าแชมป์สคูเตสโต้ได้สำเร็จในขณะนั่นใครๆก็มองว่า UCLคงจะไม่ยากที่พวกเขาจะคว้ามาครองได้ โดยในรอบรองชนะเลิศพวกเขาสามารถชนะแชมป์ 8 สมัยอย่างมาดริดแบบที่ต้องลุ้นกันจนเสียงนกหวีดยาวกันเลยทีเดียว โดยทีผลนัดแรกยูเวบุกไปแพ้มาดริดที่เบอรนาบิว 2-1 แต่ในนัดที่สองที่ตูรินพวกเขาสามารถพลิกชตานรกคว่ำมาดริดกลับแบบค้างสายตา 3-1 ผลสองนัดชนะ 4-3 เข้าไปชิงชนะเลิศ ซึ่งจะรอผลอีกคู่ซึ่งเป็นการพบกันของสองทีมจากอิตาลีเช่นเดียวกันเป็นการพบกันระหว่างสองยอดทีมจากเมืองมิลานอาจจะเป็นครั้งแรกในประวิติศาสตร์ของ UCLก็ได้เพราะในรอบนี้ใช้สนามแข่งเพียง3สนามจาก4ทีมเพราะทั้ง เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน ใช้สนามเหย้าที่เดียวกัน โดยในนัดแนกเอซีเป็นเจ้าบ้านเสมอกันไป0-0 ในนัดที่สองอินเตอร์ซึ่งเป็นเจ้าบ้านแต่เสียประตูไปในนัดนี้จบเกมส์เสอม1-1เป็นเอซีที่ได้ อเวโกล์เข้าไปชิงชนะเลิศกับยูเว โดยเกมส์นี้เตะกันในวันที่ 28 พฤษภาคม ปี 2003 เตะกันที่สนาม โอแทรฟ์ฟรอด์ เกมส์ดำเนินไปอย่างเชิงช้าตามสไตร์บอลอิตาลีจบ90นาทียังเสมอกัน0-0ต่อเวลาก็ยังทำไรกันไม่ได้ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษแล้วก็เป็นมิลานที่แม่นกว่าชนะ3-2 คว้าUCLเป็นสมัยที่6ได้สำเร็จ

       ครั้งที่สาม ในปี 2008 เป็นการพบกันระหว่าง Manchester United (Eng) Vs Chelsea (Eng)
ถึงแม้ในฟุตบอลยูโร 2008 ทีมชาติอังกฤษจะพลาดท่าไม่ผ่านรอบคัดเลือกไปเล่นรอบสุดท้ายได้แต่ในล่ะลีคก็ยังถือว่าเป็นลีคที่มีคนดูและติดตามมากที่สุดในโลกอยู่ดีและในฤดูกาล 2007-2008 ในรอบก่อนรองUCLมีทีมจากอังกฤษถึง4ทีมเข้ามาเล่นในรอบนี้ โดยเป็น4ทีมดังประกอบด้วย แมนยู,เซลซี,อาเซน่อล,ลิเวอร์พูล แต่ในรอบรองมีผ่านเข้ามาสามทีมโดยเป็นทางด้านอาเซน่อลที่แพ้ลิเวอร์พูลไปในรอบก่อนรอง โดยในรอบรองเป็นคู่แรกเป็นการพบกันเองระหว่างเซลซีและลิเวอร์พูลซึ่งเป็นเซลซีที่สามารถคว้ำแชมป์5สมัยอย่างลิเวอร์พูลได้สำเร็จส่วนทางด้าวแมนยูซึ่งพบกับบาเซโลน่าซึ่งถูกมองว่าเป็นยอดทีมในเวลานั่นสามารถเบียดเอาชนะไปได้ด้วยผลรวม1-0เข้าไปชิงชนะเลิศกับเซลซี โดยเกมส์นี้เตะกันในวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2009 เตะกันที่สนาม ลุยนิกกี้ สเตเดียม โดยในคู่นี้ต้องเล่นกันถึงช่วงยิงจุดโทษจากสกอร์ที่เสมอกัน1-1 เป็นทางด้านแมนยูที่พลาดก่อนจากการยิงของนักเตะที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในโลกในเวลานั่นอย่าง โรนันโด แต่สิ่งที่ไม่ขาดฝันก็เกิดขึ้นเมือน จอนเทอรรี้กับดันทีมของเดอะบลูรับหน้าทีสังหารเพื่อที่จะคว้าแชมป์แต่ด้วยสภาพสนามที่เป็นหญ้าทีมประกอบกับมีผลตกทำให้กัปตันทีมชาติอังกฤษลื่นแล้วเสียหลักยิงบอลไปชนเส้าอย่างนาเสียดายสุดท้ายเป็นแมนยูที่เด็ดขาดกว่ายิงจุดโทษชนะไป6-5
คว้าUCLเป็นสมัยที่ 2

      
       ส่วนในครั้งที่สี่นั่นจะเป็นการพบกันของ Bayern Munchen (Ger) Vs Borrussia Dortmund (Ger)
โดยเกมส์นี้จะเตะกันที่สนามเวมบีร์ในวันที่ 25 พฤษภาคม ปี 2013 !!!