ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์
นักวิชาการอิสระ
การปาฐกถาของนายกฯ เป็น การพูดอย่างเปิดเผยต่อปรากฏ การณ์ในประเทศไทย และเป็นปรากฏการณ์ที่ทั่วโลกรู้กันอยู่แล้ว ทั้งการรัฐประหาร 2549 การสลายการชุมนุม ปี 2553
แต่ที่ครั้งนี้เป็นประเด็นเพราะไม่เคยมีนายกฯ ที่กล้าพูดแบบนี้โดยตรงในเวทีโลก และยังเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯหญิงที่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง
การกระทำเช่นนี้อาจจะกระทบต่อฐานะของตัวนายกฯเองได้ เพราะเท่ากับเป็นการประกาศยอม รับพร้อมเผชิญกับความขัดแย้ง แต่กว่านายกฯจะทำได้อย่างนี้คงคิดเยอะแล้วว่ามีแรงสนับสนุนมากพอตัว
แต่ก็ใช่ว่าการวางตัวของนายกฯ จะดูเป็นแง่ลบ เพราะการกล้าแข็งใส่บ้างคงทำให้สะเทือนถึงฝ่ายตรงข้ามไม่น้อย จากที่เคยถูกโจมตีแบบไม่ตอบโต้อะไรมากมาตลอด
การวางตัวทางการเมืองแบบสลับอ่อน-แข็งนี้ ผมชื่นชม ต้องมีแข็งบ้าง รอมชอมบ้าง
แต่ก็เชื่อว่านายกฯคงทำครั้งนี้แค่ครั้งเดียวในรอบปี เพราะเมื่อนายกฯก้าวเข้าสู่ความขัดแย้งแล้วย่อมรู้ว่าจะได้รับผลกระทบอะไรตามมา หรือเรียกได้เต็มปากว่าเป็นคู่ขัดแย้งเต็มตัวในสายตาของฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง
อย่างไรก็ดี โดยส่วนตัวไม่คิดว่าการกระทำของนายกฯ จะเป็นเรื่องของการ ท้าชน หรือเพื่อช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทางอ้อม แต่เป็นเพราะการพัฒนาของ นายกฯที่คิดว่าไม่ควรหลบในหลืบอีกต่อไป
ดังนั้น การที่คณะกรรมาธิการของวุฒิสภา จะเชิญนายกฯ ชี้แจง เพื่อแสดงเจตนาการปาฐกถาดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะเป็นการพูดในข้อเท็จจริง เวทีที่มีความเป็นกลาง และเป็นสิทธิในการแสดงความเห็นตามระบอบประชาธิปไตย
ถ้านายกฯพูดว่า ไม่เคยเกิดเหตุการณ์รัฐประหารหรือสลายการชุมนุมถึงจะเป็นเรื่องผิด ค่อยกล่าวขอโทษประชาชน และอำนาจในกรรมาธิการเองไม่ควรมีมากถึงขนาดนั้น
ต้องยอมรับว่าในทางรูปธรรมนายกฯไม่ได้พูดอะไรที่เสียหายให้ร้ายแรงเลย จึงไม่น่าจะต้องเดือดร้อนจนให้ใครสั่งขอโทษใคร และไม่จำเป็นต้องไปชี้แจง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1367835422&grpid=03&catid=&subcatid=
เป็น "คล้ามไพบูลย์" เหมือนกันแต่ความเห็นเป็นไปในทางประชาธิปไตย
มาดูประวัติจากวีดิพิเดียนะครับ
ประวัติ
วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ จบการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นและระดับปริญญาโทด้าน Urban Design จาก School of Planning and Architecture, New Delhi ที่ประเทศอินเดีย ด้วยทุนรัฐบาลอินเดีย{ICCR) ในปี 2001
ปัจจุบันวรพันธุ์เป็นเจ้าของบริษัท Supergreen Studio ซึ่งทำงานออกแบบอาคารประหยัดพลังงานในแนว Passive Sustainable และสอนที่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
วรพันธุ์เป็นสถาปนิกที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะอดีตบรรณาธิการวารสารอาษา เขาเป็นสถาปนิกไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล Emerging Architecture Award ซึ่งจัดโดยวารสาร Architectural Review เมื่อ ค.ศ.2001 และ FuturArc Prize Award for Green Architeture 2009 รวมทั้งรางวัลจากการประกวดออกแบบโดยสถาบันอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากทำงานด้านสถาปนิก ที่เคยทำงานให้กับ Raj Rewal ในอินเดีย และ Geoffrey Bawa ในศรีลังกาแล้ว วรพันธุ์ยังเป็นนักเขียนและนักแปลให้วารสาร Art 4 D รวมทั้งเคยดำรงตำแหน่ง ประธานชมรมศิษย์เก่า คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระหว่างปี พ.ศ. 2543-2544 และ 2547-2553 และยังดำเนินกิจการโรงแรมขนาดเล็กย่านสามเสน 5 บางลำภู ชื่อ Samsen5 Lodge
http://samsen5lodgebangkok.multiply.com และเคยเข้าร่วมแข่งขันรายการเกมส์อัจฉริยะข้ามคืน ล้านที่60 ที่จังหวัดจันทบุรี และเป็นผู้อำนวยการโครงการworkshop "เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเตล" ร่วมกับหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ โดยทำการจัดมาแล้ว3ครั้ง ระหว่างปี 2552-2554 ในปี2555 วรพันธุ์ได้รับการแต่งตั้งจากสภามหาวิทยาลัยขอนแก่นให้เป็น คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้อบรมสำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตร"ผู้นำรุ่นใหม่ในระบอบประชาธิปไตย"รุ่นที่2 ของสถาบันพระปกเกล้าในปีเดียวกัน
วรพันธุ์มีพี่สาว 3 คนและพี่ชาย 4 คน ที่เป็นที่รู้จักในสังคมคือ องอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และ ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์
ที่มา วีกิพีเดีย
สปีชของนายกปู เป็นการเอาควา่มจริงที่ทั่วโลกรับรู้มานานแล้วมาพูด ไม่ได้แต่งเรื่องโกหกแต่อย่างใด แต่จี้ใจดำเผด็จการทั้งหลาย ถึงขั้นเรียงหน้าออกมาแก้ผ้าแก้ผ่อนโชว์ตัวกันหมดเกือบทุกคน แถมเป็นพิมพ์นิยมคือต้อง ถ่อย ต่ำ เหตุผลไม่ต้อง ด่านายกฯเสียๆหายๆเไว้ก่อน เหมือนต่อมสามัญสำนึกเสียหายไม่มีผิด
ถามไปยังกลุ่มผู้ชื่นชอบเผด็จการครับ ผมถามเป็นครั้งที่ 100 ว่า นายกปูพูดไม่จริงตรงใหน และนายกปู "ขายขาติ" ตรงใหน มีประโยคใหนบ้างที่ขายชาติ
ความเห็นของ"ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ "ที่มีต่อสปีชของนายกปู
นักวิชาการอิสระ
การปาฐกถาของนายกฯ เป็น การพูดอย่างเปิดเผยต่อปรากฏ การณ์ในประเทศไทย และเป็นปรากฏการณ์ที่ทั่วโลกรู้กันอยู่แล้ว ทั้งการรัฐประหาร 2549 การสลายการชุมนุม ปี 2553
แต่ที่ครั้งนี้เป็นประเด็นเพราะไม่เคยมีนายกฯ ที่กล้าพูดแบบนี้โดยตรงในเวทีโลก และยังเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯหญิงที่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง
การกระทำเช่นนี้อาจจะกระทบต่อฐานะของตัวนายกฯเองได้ เพราะเท่ากับเป็นการประกาศยอม รับพร้อมเผชิญกับความขัดแย้ง แต่กว่านายกฯจะทำได้อย่างนี้คงคิดเยอะแล้วว่ามีแรงสนับสนุนมากพอตัว
แต่ก็ใช่ว่าการวางตัวของนายกฯ จะดูเป็นแง่ลบ เพราะการกล้าแข็งใส่บ้างคงทำให้สะเทือนถึงฝ่ายตรงข้ามไม่น้อย จากที่เคยถูกโจมตีแบบไม่ตอบโต้อะไรมากมาตลอด
การวางตัวทางการเมืองแบบสลับอ่อน-แข็งนี้ ผมชื่นชม ต้องมีแข็งบ้าง รอมชอมบ้าง
แต่ก็เชื่อว่านายกฯคงทำครั้งนี้แค่ครั้งเดียวในรอบปี เพราะเมื่อนายกฯก้าวเข้าสู่ความขัดแย้งแล้วย่อมรู้ว่าจะได้รับผลกระทบอะไรตามมา หรือเรียกได้เต็มปากว่าเป็นคู่ขัดแย้งเต็มตัวในสายตาของฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง
อย่างไรก็ดี โดยส่วนตัวไม่คิดว่าการกระทำของนายกฯ จะเป็นเรื่องของการ ท้าชน หรือเพื่อช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทางอ้อม แต่เป็นเพราะการพัฒนาของ นายกฯที่คิดว่าไม่ควรหลบในหลืบอีกต่อไป
ดังนั้น การที่คณะกรรมาธิการของวุฒิสภา จะเชิญนายกฯ ชี้แจง เพื่อแสดงเจตนาการปาฐกถาดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะเป็นการพูดในข้อเท็จจริง เวทีที่มีความเป็นกลาง และเป็นสิทธิในการแสดงความเห็นตามระบอบประชาธิปไตย
ถ้านายกฯพูดว่า ไม่เคยเกิดเหตุการณ์รัฐประหารหรือสลายการชุมนุมถึงจะเป็นเรื่องผิด ค่อยกล่าวขอโทษประชาชน และอำนาจในกรรมาธิการเองไม่ควรมีมากถึงขนาดนั้น
ต้องยอมรับว่าในทางรูปธรรมนายกฯไม่ได้พูดอะไรที่เสียหายให้ร้ายแรงเลย จึงไม่น่าจะต้องเดือดร้อนจนให้ใครสั่งขอโทษใคร และไม่จำเป็นต้องไปชี้แจง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1367835422&grpid=03&catid=&subcatid=
เป็น "คล้ามไพบูลย์" เหมือนกันแต่ความเห็นเป็นไปในทางประชาธิปไตย
มาดูประวัติจากวีดิพิเดียนะครับ
ประวัติ
วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ จบการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นและระดับปริญญาโทด้าน Urban Design จาก School of Planning and Architecture, New Delhi ที่ประเทศอินเดีย ด้วยทุนรัฐบาลอินเดีย{ICCR) ในปี 2001
ปัจจุบันวรพันธุ์เป็นเจ้าของบริษัท Supergreen Studio ซึ่งทำงานออกแบบอาคารประหยัดพลังงานในแนว Passive Sustainable และสอนที่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
วรพันธุ์เป็นสถาปนิกที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะอดีตบรรณาธิการวารสารอาษา เขาเป็นสถาปนิกไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล Emerging Architecture Award ซึ่งจัดโดยวารสาร Architectural Review เมื่อ ค.ศ.2001 และ FuturArc Prize Award for Green Architeture 2009 รวมทั้งรางวัลจากการประกวดออกแบบโดยสถาบันอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากทำงานด้านสถาปนิก ที่เคยทำงานให้กับ Raj Rewal ในอินเดีย และ Geoffrey Bawa ในศรีลังกาแล้ว วรพันธุ์ยังเป็นนักเขียนและนักแปลให้วารสาร Art 4 D รวมทั้งเคยดำรงตำแหน่ง ประธานชมรมศิษย์เก่า คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระหว่างปี พ.ศ. 2543-2544 และ 2547-2553 และยังดำเนินกิจการโรงแรมขนาดเล็กย่านสามเสน 5 บางลำภู ชื่อ Samsen5 Lodge http://samsen5lodgebangkok.multiply.com และเคยเข้าร่วมแข่งขันรายการเกมส์อัจฉริยะข้ามคืน ล้านที่60 ที่จังหวัดจันทบุรี และเป็นผู้อำนวยการโครงการworkshop "เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเตล" ร่วมกับหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ โดยทำการจัดมาแล้ว3ครั้ง ระหว่างปี 2552-2554 ในปี2555 วรพันธุ์ได้รับการแต่งตั้งจากสภามหาวิทยาลัยขอนแก่นให้เป็น คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้อบรมสำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตร"ผู้นำรุ่นใหม่ในระบอบประชาธิปไตย"รุ่นที่2 ของสถาบันพระปกเกล้าในปีเดียวกัน
วรพันธุ์มีพี่สาว 3 คนและพี่ชาย 4 คน ที่เป็นที่รู้จักในสังคมคือ องอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และ ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์
ที่มา วีกิพีเดีย
สปีชของนายกปู เป็นการเอาควา่มจริงที่ทั่วโลกรับรู้มานานแล้วมาพูด ไม่ได้แต่งเรื่องโกหกแต่อย่างใด แต่จี้ใจดำเผด็จการทั้งหลาย ถึงขั้นเรียงหน้าออกมาแก้ผ้าแก้ผ่อนโชว์ตัวกันหมดเกือบทุกคน แถมเป็นพิมพ์นิยมคือต้อง ถ่อย ต่ำ เหตุผลไม่ต้อง ด่านายกฯเสียๆหายๆเไว้ก่อน เหมือนต่อมสามัญสำนึกเสียหายไม่มีผิด
ถามไปยังกลุ่มผู้ชื่นชอบเผด็จการครับ ผมถามเป็นครั้งที่ 100 ว่า นายกปูพูดไม่จริงตรงใหน และนายกปู "ขายขาติ" ตรงใหน มีประโยคใหนบ้างที่ขายชาติ