โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มีนาคม 2556 17:25 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037376
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบทุจริตการระบายข้าวในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จำนวนกว่า 3.4 ล้านตัน มูลค่ารวมกว่า 44 ล้านบาท ซึ่งเรื่องดังกล่าว ดีเอสไอได้รับการร้องเรียน จึงดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่อยมา จนกระทั่งพบว่าเมื่อ พ.ศ. 2553 การดำเนินโครงการระบายข้าวของรัฐบาลในสมัยนั้น ผิดแปลกไปจากปกติที่จะมีการประกาศเชิญชวนผู้ดำเนินธุรกิจส่งออกข้าวเข้าร่วมประมูล เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาข้าวในประเทศสูงเกินไป แต่ปรากฏว่า รัฐบาลขณะนั้นมีการดำเนินการระบายข้าว 2 ครั้ง โดยตกลงราคากับผู้ค้าเพียง 9 ราย และไม่ได้มีการประกาศเชิญชวน และจัดประกวดราคาอย่างเป็นธรรมรวมไปถึงยังพบข้อมูลว่า ผู้ค้า 9 ราย ส่งออกข้าวไม่ครบถ้วนตามสัญญากว่า 9 แสนตัน ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ และควรได้รับค่าปรับกว่า 2.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนคาดว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิด มาตรา 12 13 ตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ซึ่งผู้ที่ต้องรับผิดชอบ 3 คน ประกอบด้วย นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในขณะนั้น นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ และ นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะรวบรวมพยานหลักฐาน และส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาเอาผิดกับบุคคลทั้ง 3 ตามอำนาจหน้าที่ภายในสัปดาห์หน้า
อยากรู้เรื่อง ไปถึงไหนแล้ว
DSI จ่อชง ป.ป.ช.เอาผิด"รบ.มาร์ค"ทุจริตระบายข้าว............เรื่องไปถึง ปปช หรือยังครับ???
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037376
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบทุจริตการระบายข้าวในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จำนวนกว่า 3.4 ล้านตัน มูลค่ารวมกว่า 44 ล้านบาท ซึ่งเรื่องดังกล่าว ดีเอสไอได้รับการร้องเรียน จึงดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่อยมา จนกระทั่งพบว่าเมื่อ พ.ศ. 2553 การดำเนินโครงการระบายข้าวของรัฐบาลในสมัยนั้น ผิดแปลกไปจากปกติที่จะมีการประกาศเชิญชวนผู้ดำเนินธุรกิจส่งออกข้าวเข้าร่วมประมูล เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาข้าวในประเทศสูงเกินไป แต่ปรากฏว่า รัฐบาลขณะนั้นมีการดำเนินการระบายข้าว 2 ครั้ง โดยตกลงราคากับผู้ค้าเพียง 9 ราย และไม่ได้มีการประกาศเชิญชวน และจัดประกวดราคาอย่างเป็นธรรมรวมไปถึงยังพบข้อมูลว่า ผู้ค้า 9 ราย ส่งออกข้าวไม่ครบถ้วนตามสัญญากว่า 9 แสนตัน ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ และควรได้รับค่าปรับกว่า 2.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนคาดว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิด มาตรา 12 13 ตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ซึ่งผู้ที่ต้องรับผิดชอบ 3 คน ประกอบด้วย นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในขณะนั้น นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ และ นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะรวบรวมพยานหลักฐาน และส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาเอาผิดกับบุคคลทั้ง 3 ตามอำนาจหน้าที่ภายในสัปดาห์หน้า
อยากรู้เรื่อง ไปถึงไหนแล้ว