ฉันเพิ่งสมัครPantip ครั้งแรก เพิ่งรู้จักรักเป็นครั้งแรก เพิ่งถูกทอดทิ้งจากความรักเป็นครั้งแรก
ตั้งแต่เด็กๆ ฉันเคยวาดฝันไว้ว่า "อยากจะมีรักเพียงครั้งสุดท้าย เพียงครั้งเดียว และเป็นรักแท้ตลอดไป" แต่ความคิดนี้กำลังจะล่มสลายไป
เรื่องมันมีอยู่ว่า ฉันกับเค้าอยู่คณะเดียวกัน เราเจอกันไม่กล้าทักกัน ทำได้เพียงแต่แชทคุยกัน ทุกคืน ผ่านไปสะสมหลายเดือน จนกลายเป็นความสุข ความผูกพัน แต่ถึงอย่างไรเจอกันก็ไม่กล้าคุยกันอยู่ดี แต่สุดท้ายเราก็ทลายกำแพงโลกแห่งสังคมออนไลน์แล้วกล้ามาเผชิญกับชีวิตจริง เราบอกความในใจกัน จนในที่สุดเราก็คบกัน เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราไปอ่านหนังสือด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน มีความทรงจำดีๆให้แก่กัน ความสุขเกิดขึ้นเหลือล้น แต่มันก็มากับความทุกข์ที่มากหลาย เราทะเลาะกันบ่อย หลายครั้งเราความเห็นไม่ตรงกัน
อย่างเช่นเรื่องหนึ่งเป็นการทะเลาะที่รุนแรงที่สุด "เมื่อเค้าไปได้ยินเพื่อนของฉันคุยกับเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า ฉันเคยแอบชอบคนๆหนึ่งอยู่ เรื่องนั้นฉันยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่มันเป็นความชอบตั้งแต่สมัยเด็ก ชอบแบบรู้สึกดีแต่ไม่ได้อยากเป็นแฟนกัน ก็ตอนนั้นฉันยังไม่มีใคร ฉันก็เลยเกิดความรู้สึกเพ้อฝันไปบ้าง " (ประเด็นนี้ฉันก็อยากถามผู้อ่านดูนะคะ ว่าคนเรา ในขณะที่ไม่มีใคร กำลังรู้สึกดีๆกับคนๆหนึ่งอยู่ พอเวลาผ่านมา มีผู้ชายคนใหม่เข้ามาโดยที่ฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าเข้ามาเพราะแอบชอบฉันหรือเพราะเหตุใด ฉันควรเลิกรู้สึกดีกับคนเก่าไปเลย แล้วมารู้สึกดีกับคนที่เข้ามาใหม่เลยมั้ย ถ้าฉันยังทำไม่ได้เพราะมันไม่แน่ใจจุดประสงค์ของคนใหม่ มันเรียกว่าฉันคบซ้ำซ้อนหรือเปล่า )
เรื่องนี้เราทำเลาะกันทั้งคืนทางแชท ฉันเสียใจมาก เค้าโยนความผิดให้ฉันหมด แล้วเค้าก็ไม่เทคแคร์ฉันแบบที่เคยทำอีกเลย ฉันเคยถามว่าทำไม เค้าก็บอกว่าเป็นเพราะฉัน เพราะฉันคนเดียว เรื่องนี้ก็เป็นอันจบไป เราคืนดีกัน แต่เค้าก็ไม่เหมือนเดิม เราทัศนคติไม่ตรงกันหลายเรื่อง ฉันมองโลกในแง่ดี จนบางครั้งอาจเกินไป ส่วนเค้ามองโลกในแง่ร้ายไปเสียหลายๆเรื่อง ฉันแคร์คนอื่นแม้บางครั้งอาจทำร้ายตัวเอง แต่เค้าแคร์ตัวเอง ยึดความสุขตัวเองเป็นที่ตั้ง เค้าลืมทิ้งของขวัญที่ฉันเคยให้เค้าเอาไว้ ฉันถามถึง เค้าก็โกหกฉัน
เรายังคบกันต่อมาเรื่อยๆ เที่ยวหลากที่ในกทม ตั้งใจอ่านหนังสือด้วยกัน ปนกับการทะเลาะกันบ่อยๆ ซึ่งฉันก็คิดว่ามันก็เป็นความผิดของฉันเหมือนกัน ฉันรู้สึกหวงเค้า รู้สึกไม่ไว้ใจเค้าบ่อยๆ เพราะเค้ามีผู้หญิงมาคุยด้วยเยอะ รู้สึกอยากให้เค้าอยู่กับฉันตลอดเวลา ฉันรู้สึกว่าทุ่มเทอะไรไปมาก ทั้งแรงกาย แรงใจ เงินทองทั้ง การไปกิน การเรียนที่ฉันช่วยเหลือเค้าไว้มาก แต่ที่ได้รับตอบมามันไม่คุ้มค่าเลย ฉันคาดหวังเค้าไว้เยอะ แต่มันกลับผิดหวังหลายๆอย่าง ฉันยอมรับว่าฉันก็ผิดไปจริงๆ
สักพัก เราก็มีเหตุให้ต้องห่างกัน แล้วอีกไม่นานเราก็จะได้กลับไปเจอกันใหม่ แต่ยังไม่ทันถึงวันนั้น เค้าก็มาบอกกับฉันว่า "เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ" คำๆนั้นมันช่างกรีดหัวใจฉันทั้งดวง ก่อนหน้านี้ฉันได้ทบทวนตัวเองในช่วงที่ห่างกัน ว่าต่อไปฉันจะปรับปรุง ลบข้อเสียของฉันที่เคยกล่าวมาให้หมด แล้วจะลองเริ่มต้นกันใหม่ พยายามยอมรับและเข้าใจข้อเสียที่เค้ามีให้ได้ แต่ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ก็เหมือนมีพายุมาพังความคิดฉันไปหมดเลย ฉันอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ทำไม่ได้เพราะที่บ้านไม่รู้เรื่องของฉันกับเค้า น้ำตามันก็เลยถูกกลืนลงไปอยู่ใต้ก้นบึ้งของหัวใจ ภายใต้การแสดงออกมาด้วยความสุขเสียงหัวเราะ เพื่อไม่ให้ที่บ้านสงสัย มันเป็นการกระทำที่ช่างลำบากยากเย็นเหลือเกิน เพราะจริงๆแล้ว ฉันอยากให้มีคนเข้ามากอดฉัน บอกกับฉันว่าไม่เป็นไร แล้วเอาบ่ามาให้ฉันรองรับน้ำตา ให้ฉันร้องไห้จนสุดหัวใจ ร้องไห้จนหมด เพราะฉันเคยได้ยินว่าน้ำตาอาจช่วยให้ความรู้สึกเราดีขึ้น ผ่านมาจนวันนี้ฉันก็ยังไม่มีน้ำตาออกมา มีแต่แววตาใจลอย เซื่องซึมบ้างบางครั้ง นอนก็ไม่หลับ กินอาหารทีไรก็รู้สึกคลื่นเหียนอยากอาเจียนออกมา ฉันรู้สึกว่าการหายใจแต่ละครั้งมันช่างยากแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ฉันต้องพยายามกับการหายใจของฉัน เฮ้อ ตอนนี้ปอดฉันจุกแน่นจนไม่มีเรี่ยวแรงเหลือเกิน
และฉันก็พยายามคุยกับเค้า ขอโอกาสสำหรับฉัน ขอแล้วขอเล่า แต่เค้าก็ยื่นคำขาด แล้วก็บอกกับฉันว่า “ในใจของเค้าไม่มีชั้นแล้วอีกต่อไป การเลิกกันเป็นหนทางที่ดีที่สุด” มันทำใจยากเย็นเหลือเกิน
หัวใจของฉันเคยเข้มแข็งเปี่ยมไปด้วยความหวังกำลังใจ จนเมื่อได้มาเจอรัก หัวใจฉันอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนเมื่อวันเลิกรา หัวใจฉันก็ก้าวไปสู่ความอ่อนแอจนถึงที่สุด
ที่ฉันมาแชร์เรื่องราวนี้ ก็เพราะฉันอยากระบายเรื่องราวให้ใครสักคนฟัง เค้าอาจมีประสบการณ์แบบฉัน หรืออาจไม่มี อย่างน้อยฉันก็จะได้รู้สึกดีขึ้นที่อาจมีคนพบเจอเรื่องราวแบบฉันบ้าง อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ อยากให้เรื่องของฉันเป็นอุทธาหรณ์เตือนใจ ความรักควรมาคู่กับความเผื่อใจ โลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน(มิตรแท้ของฉันเคยบอกไว้) ยิ่งเป็นรักในมหาวิทยาลัยหรือมัธยมด้วยแล้ว การเผื่อใจให้ได้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อต้องเผชิญกับวันเลิกรา อย่าทุ่มเทไปจนหมดหัวใจเพราะมันจะเหลือที่ว่างไม่พอสำหรับการเยียวยาหัวใจตัวเอง สุดท้าย ตอนนี้ฉันควรจะทำอย่างไร ควรจะขอร้องอ้อนวอนให้เค้ากลับมา ควรทำใจปล่อยวางและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ฉันคิดมันทำได้ยากเย็นเหลือเกิน ต่อไปนี้ฉันจะมองหน้าเค้าอย่างไร เพราะยังคงต้องเผชิญหน้ากันไปอีกนาน ขอบคุณนะคะที่รับฟังเรื่องของฉัน
ฉันจะพยายามสู้ต่อไปแล้วเดินไปข้างหน้าให้ได้ค่ะ
รักครั้งแรกที่ต้องเจ็บช้ำTT ฉันจะทนผ่านมันไปได้อย่างไร
ตั้งแต่เด็กๆ ฉันเคยวาดฝันไว้ว่า "อยากจะมีรักเพียงครั้งสุดท้าย เพียงครั้งเดียว และเป็นรักแท้ตลอดไป" แต่ความคิดนี้กำลังจะล่มสลายไป
เรื่องมันมีอยู่ว่า ฉันกับเค้าอยู่คณะเดียวกัน เราเจอกันไม่กล้าทักกัน ทำได้เพียงแต่แชทคุยกัน ทุกคืน ผ่านไปสะสมหลายเดือน จนกลายเป็นความสุข ความผูกพัน แต่ถึงอย่างไรเจอกันก็ไม่กล้าคุยกันอยู่ดี แต่สุดท้ายเราก็ทลายกำแพงโลกแห่งสังคมออนไลน์แล้วกล้ามาเผชิญกับชีวิตจริง เราบอกความในใจกัน จนในที่สุดเราก็คบกัน เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราไปอ่านหนังสือด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน มีความทรงจำดีๆให้แก่กัน ความสุขเกิดขึ้นเหลือล้น แต่มันก็มากับความทุกข์ที่มากหลาย เราทะเลาะกันบ่อย หลายครั้งเราความเห็นไม่ตรงกัน
อย่างเช่นเรื่องหนึ่งเป็นการทะเลาะที่รุนแรงที่สุด "เมื่อเค้าไปได้ยินเพื่อนของฉันคุยกับเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า ฉันเคยแอบชอบคนๆหนึ่งอยู่ เรื่องนั้นฉันยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่มันเป็นความชอบตั้งแต่สมัยเด็ก ชอบแบบรู้สึกดีแต่ไม่ได้อยากเป็นแฟนกัน ก็ตอนนั้นฉันยังไม่มีใคร ฉันก็เลยเกิดความรู้สึกเพ้อฝันไปบ้าง " (ประเด็นนี้ฉันก็อยากถามผู้อ่านดูนะคะ ว่าคนเรา ในขณะที่ไม่มีใคร กำลังรู้สึกดีๆกับคนๆหนึ่งอยู่ พอเวลาผ่านมา มีผู้ชายคนใหม่เข้ามาโดยที่ฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าเข้ามาเพราะแอบชอบฉันหรือเพราะเหตุใด ฉันควรเลิกรู้สึกดีกับคนเก่าไปเลย แล้วมารู้สึกดีกับคนที่เข้ามาใหม่เลยมั้ย ถ้าฉันยังทำไม่ได้เพราะมันไม่แน่ใจจุดประสงค์ของคนใหม่ มันเรียกว่าฉันคบซ้ำซ้อนหรือเปล่า )
เรื่องนี้เราทำเลาะกันทั้งคืนทางแชท ฉันเสียใจมาก เค้าโยนความผิดให้ฉันหมด แล้วเค้าก็ไม่เทคแคร์ฉันแบบที่เคยทำอีกเลย ฉันเคยถามว่าทำไม เค้าก็บอกว่าเป็นเพราะฉัน เพราะฉันคนเดียว เรื่องนี้ก็เป็นอันจบไป เราคืนดีกัน แต่เค้าก็ไม่เหมือนเดิม เราทัศนคติไม่ตรงกันหลายเรื่อง ฉันมองโลกในแง่ดี จนบางครั้งอาจเกินไป ส่วนเค้ามองโลกในแง่ร้ายไปเสียหลายๆเรื่อง ฉันแคร์คนอื่นแม้บางครั้งอาจทำร้ายตัวเอง แต่เค้าแคร์ตัวเอง ยึดความสุขตัวเองเป็นที่ตั้ง เค้าลืมทิ้งของขวัญที่ฉันเคยให้เค้าเอาไว้ ฉันถามถึง เค้าก็โกหกฉัน
เรายังคบกันต่อมาเรื่อยๆ เที่ยวหลากที่ในกทม ตั้งใจอ่านหนังสือด้วยกัน ปนกับการทะเลาะกันบ่อยๆ ซึ่งฉันก็คิดว่ามันก็เป็นความผิดของฉันเหมือนกัน ฉันรู้สึกหวงเค้า รู้สึกไม่ไว้ใจเค้าบ่อยๆ เพราะเค้ามีผู้หญิงมาคุยด้วยเยอะ รู้สึกอยากให้เค้าอยู่กับฉันตลอดเวลา ฉันรู้สึกว่าทุ่มเทอะไรไปมาก ทั้งแรงกาย แรงใจ เงินทองทั้ง การไปกิน การเรียนที่ฉันช่วยเหลือเค้าไว้มาก แต่ที่ได้รับตอบมามันไม่คุ้มค่าเลย ฉันคาดหวังเค้าไว้เยอะ แต่มันกลับผิดหวังหลายๆอย่าง ฉันยอมรับว่าฉันก็ผิดไปจริงๆ
สักพัก เราก็มีเหตุให้ต้องห่างกัน แล้วอีกไม่นานเราก็จะได้กลับไปเจอกันใหม่ แต่ยังไม่ทันถึงวันนั้น เค้าก็มาบอกกับฉันว่า "เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ" คำๆนั้นมันช่างกรีดหัวใจฉันทั้งดวง ก่อนหน้านี้ฉันได้ทบทวนตัวเองในช่วงที่ห่างกัน ว่าต่อไปฉันจะปรับปรุง ลบข้อเสียของฉันที่เคยกล่าวมาให้หมด แล้วจะลองเริ่มต้นกันใหม่ พยายามยอมรับและเข้าใจข้อเสียที่เค้ามีให้ได้ แต่ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ก็เหมือนมีพายุมาพังความคิดฉันไปหมดเลย ฉันอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ทำไม่ได้เพราะที่บ้านไม่รู้เรื่องของฉันกับเค้า น้ำตามันก็เลยถูกกลืนลงไปอยู่ใต้ก้นบึ้งของหัวใจ ภายใต้การแสดงออกมาด้วยความสุขเสียงหัวเราะ เพื่อไม่ให้ที่บ้านสงสัย มันเป็นการกระทำที่ช่างลำบากยากเย็นเหลือเกิน เพราะจริงๆแล้ว ฉันอยากให้มีคนเข้ามากอดฉัน บอกกับฉันว่าไม่เป็นไร แล้วเอาบ่ามาให้ฉันรองรับน้ำตา ให้ฉันร้องไห้จนสุดหัวใจ ร้องไห้จนหมด เพราะฉันเคยได้ยินว่าน้ำตาอาจช่วยให้ความรู้สึกเราดีขึ้น ผ่านมาจนวันนี้ฉันก็ยังไม่มีน้ำตาออกมา มีแต่แววตาใจลอย เซื่องซึมบ้างบางครั้ง นอนก็ไม่หลับ กินอาหารทีไรก็รู้สึกคลื่นเหียนอยากอาเจียนออกมา ฉันรู้สึกว่าการหายใจแต่ละครั้งมันช่างยากแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ฉันต้องพยายามกับการหายใจของฉัน เฮ้อ ตอนนี้ปอดฉันจุกแน่นจนไม่มีเรี่ยวแรงเหลือเกิน
และฉันก็พยายามคุยกับเค้า ขอโอกาสสำหรับฉัน ขอแล้วขอเล่า แต่เค้าก็ยื่นคำขาด แล้วก็บอกกับฉันว่า “ในใจของเค้าไม่มีชั้นแล้วอีกต่อไป การเลิกกันเป็นหนทางที่ดีที่สุด” มันทำใจยากเย็นเหลือเกิน
หัวใจของฉันเคยเข้มแข็งเปี่ยมไปด้วยความหวังกำลังใจ จนเมื่อได้มาเจอรัก หัวใจฉันอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนเมื่อวันเลิกรา หัวใจฉันก็ก้าวไปสู่ความอ่อนแอจนถึงที่สุด
ที่ฉันมาแชร์เรื่องราวนี้ ก็เพราะฉันอยากระบายเรื่องราวให้ใครสักคนฟัง เค้าอาจมีประสบการณ์แบบฉัน หรืออาจไม่มี อย่างน้อยฉันก็จะได้รู้สึกดีขึ้นที่อาจมีคนพบเจอเรื่องราวแบบฉันบ้าง อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ อยากให้เรื่องของฉันเป็นอุทธาหรณ์เตือนใจ ความรักควรมาคู่กับความเผื่อใจ โลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน(มิตรแท้ของฉันเคยบอกไว้) ยิ่งเป็นรักในมหาวิทยาลัยหรือมัธยมด้วยแล้ว การเผื่อใจให้ได้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อต้องเผชิญกับวันเลิกรา อย่าทุ่มเทไปจนหมดหัวใจเพราะมันจะเหลือที่ว่างไม่พอสำหรับการเยียวยาหัวใจตัวเอง สุดท้าย ตอนนี้ฉันควรจะทำอย่างไร ควรจะขอร้องอ้อนวอนให้เค้ากลับมา ควรทำใจปล่อยวางและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ฉันคิดมันทำได้ยากเย็นเหลือเกิน ต่อไปนี้ฉันจะมองหน้าเค้าอย่างไร เพราะยังคงต้องเผชิญหน้ากันไปอีกนาน ขอบคุณนะคะที่รับฟังเรื่องของฉัน
ฉันจะพยายามสู้ต่อไปแล้วเดินไปข้างหน้าให้ได้ค่ะ