คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าจะถามในเชิงจับผิดในรายละเอียด ประเภท วันๆไม่ทำงานทำการ เอาแต่แต่งตัวสวยๆเดินไปเดินมา หรือ ใส่เสื้อผ้าเหมือนเมืองไทยอยู่ขั้วโลก สร้างค่านิยมเห่อศักดินา ยังมามัวยึดติดกับคำนำหน้าโบราณๆแบบที่ไม่มีวันตะกายถึง ก็คงจะคิดได้ค่ะ แต่คิดแล้วจะได้อะไร นั่นอีกเรื่อง
แต่ถ้าจะถามว่า สิ่งที่มองเห็นจากเสียงสะท้อนของคนดูต่อละครในแง่บวก ก็คือ คนชื่นชอบความเป็นอยู่ วัฒนธรรมแบบสมัยก่อน ที่ดูรื่นรมย์ เนิบช้า ไม่ได้เร่งรีบตลอดเวลา คล้ายๆกับที่คนดูชอบละครคู่กรรมเพราะได้เห็นวัฒนธรรมริมคลองนั่นแหละค่ะ เหมือนได้พักสายตาไปในตัว ประกอบกับตัวเรื่องที่ไม่ได้มีความดราม่ากระจุยกระจายแบบมาดักตบกันหน้าวัง ทำให้ดูแล้วไม่รู้สึกเครียดเพิ่มขึ้นไปอีก
นอกจากนั้น ด้วยบุคลิกลักษณะนิสัยของตัวละครหลายๆตัว สามารถสะท้อนตัวตนและสอนคนดูได้เป็นอย่างดีว่า ทำอย่างไรแล้ว จะได้รับผลอย่างไร ขอยกตัวอย่างฉากที่ย่าอ่อนคาดคั้นให้คุณชายปวรรุจแต่งงานกับ ม.ล.กระถิน ที่เป็นฉากพีคสุดๆของเรื่องนะคะ หากคนทั่วไปเป็นคุณชายปวรรุจ ก็อาจจะพยายามพูดแค่ดึงดัน ยืนยันว่ายังไงๆก็ไม่แต่ง ยิ่งพอหม่อมย่าเอียดเข้ามาพูดให้น้ำหนักเกี่ยวกับปมในชีวิตของคุณย่าอ่อน (เรื่องความเหมาะสมตรงนี้เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ ขอละไว้ก่อนค่ะ) ใครเป็นคุณชาย น่าจะยิ่งลำพองว่ามีคนให้ท้ายแล้ว แต่คุณชายกลับเลือกที่จะพูดตัดว่า ตนเองเชื่อว่าคุณย่าอ่อนรักตนไม่น้อยไปกว่าพี่น้องคนอื่นๆ การพูดแบบนี้ ใครเป็นคุณย่าอ่อนถ้ายังแข็งขืนดึงดันก็ไม่ใช่คุณย่าแล้วค่ะ ประเด็นนี้แหละที่น่าเรียนรู้ ถือว่า วิธีการเจรจาแบบนักการทูตก็ว่าได้ คือการใช้ไม้อ่อนเข้าหา นอบน้อมถ่อมตน แต่ยืนยันในจุดของตนเอง ที่เรียกว่า strong but polite
เราถือว่า ฉากนี้สอนอะไรได้มากเลยนะคะ
สรุปง่ายๆ เราไม่ได้มองว่า ละครเรื่องนี้ สมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซนต์ มีบางส่วนที่ยังขาดๆเกินๆบ้าง แต่โดยรวมๆก็ถือเป็นละครที่ดี ดูแล้วสบายตา สบายใจค่ะ
แต่ถ้าจะถามว่า สิ่งที่มองเห็นจากเสียงสะท้อนของคนดูต่อละครในแง่บวก ก็คือ คนชื่นชอบความเป็นอยู่ วัฒนธรรมแบบสมัยก่อน ที่ดูรื่นรมย์ เนิบช้า ไม่ได้เร่งรีบตลอดเวลา คล้ายๆกับที่คนดูชอบละครคู่กรรมเพราะได้เห็นวัฒนธรรมริมคลองนั่นแหละค่ะ เหมือนได้พักสายตาไปในตัว ประกอบกับตัวเรื่องที่ไม่ได้มีความดราม่ากระจุยกระจายแบบมาดักตบกันหน้าวัง ทำให้ดูแล้วไม่รู้สึกเครียดเพิ่มขึ้นไปอีก
นอกจากนั้น ด้วยบุคลิกลักษณะนิสัยของตัวละครหลายๆตัว สามารถสะท้อนตัวตนและสอนคนดูได้เป็นอย่างดีว่า ทำอย่างไรแล้ว จะได้รับผลอย่างไร ขอยกตัวอย่างฉากที่ย่าอ่อนคาดคั้นให้คุณชายปวรรุจแต่งงานกับ ม.ล.กระถิน ที่เป็นฉากพีคสุดๆของเรื่องนะคะ หากคนทั่วไปเป็นคุณชายปวรรุจ ก็อาจจะพยายามพูดแค่ดึงดัน ยืนยันว่ายังไงๆก็ไม่แต่ง ยิ่งพอหม่อมย่าเอียดเข้ามาพูดให้น้ำหนักเกี่ยวกับปมในชีวิตของคุณย่าอ่อน (เรื่องความเหมาะสมตรงนี้เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ ขอละไว้ก่อนค่ะ) ใครเป็นคุณชาย น่าจะยิ่งลำพองว่ามีคนให้ท้ายแล้ว แต่คุณชายกลับเลือกที่จะพูดตัดว่า ตนเองเชื่อว่าคุณย่าอ่อนรักตนไม่น้อยไปกว่าพี่น้องคนอื่นๆ การพูดแบบนี้ ใครเป็นคุณย่าอ่อนถ้ายังแข็งขืนดึงดันก็ไม่ใช่คุณย่าแล้วค่ะ ประเด็นนี้แหละที่น่าเรียนรู้ ถือว่า วิธีการเจรจาแบบนักการทูตก็ว่าได้ คือการใช้ไม้อ่อนเข้าหา นอบน้อมถ่อมตน แต่ยืนยันในจุดของตนเอง ที่เรียกว่า strong but polite
เราถือว่า ฉากนี้สอนอะไรได้มากเลยนะคะ
สรุปง่ายๆ เราไม่ได้มองว่า ละครเรื่องนี้ สมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซนต์ มีบางส่วนที่ยังขาดๆเกินๆบ้าง แต่โดยรวมๆก็ถือเป็นละครที่ดี ดูแล้วสบายตา สบายใจค่ะ
แสดงความคิดเห็น
คุณคิดยังไง กับการใช้ชีวิตและลักษณะนิสัยของตัวละคร ใน สุภาพบุรุษ จุฑาเทพ สะท้อนสังคมปัจจุบันอย่างไร