สมัยที่เรายังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ต้องนั่งรถเมล์จากหนองแขม มาเรียนที่วงเวียนใหญ่ ตอนนั้นชีวิตลำบากมาก เงินทองก็ไม่ค่อยพอใช้ เพราะทำงานด้วย เรียนด้วย ส่งทางบ้าน ส่งน้องเรียนด้วย วันหนึ่งขณะที่นั่งรถเมล์ไปเรียนตามปกติหลังเลิกงาน รถเมล์วิ่งมาถึงบางแค มีคุณยายท่านหนึ่ง ท่านเก็บของเก่า ( พูดง่ายๆ ท่านเก็บขยะนั่นแหละค่ะ ) พอรถจอดที่ป้าย ท่านก็พยายามจะขึ้นมาบนรถเมล์ คงจะกลับบ้านเพราะตอนนั้นก็เย็นมากแล้ว ด้วยความที่ชรา ขยะที่พอจะขายได้ ขวดพลาสติก กระดาษที่เก็บมาก็เยอะอยู่พอสมควร ท่านหาบมาค่ะ เรานั่งอยู่ด้านหลังรถเมล์เบาะเกือบสุดท้าย กระเป๋ารถเมล์ก็ตะคอกแกให้รีบขึ้น เพราะคนขับก็จะออกรถ ตามสไตล์รถเมล์เมืองไทยค่ะ ด้วยความที่ข้าวของพะรุง พะรัง แกก็ช้า กระเป่ารถเมล์แทนที่จะช่วยพยุงขึ้นมา ช่วยถือของก็ยังดี แต่กลับตะคอก เราจะวิ่งไปช่วย แกก็ขึ้นได้พ้นมาพอดี ก็ยังดีที่ขึ้นมาแล้วยังมีคนลุกให้นั่ง อ้อ ตรงนั้นมันที่นั่งสำหรับคนแก่ ลืมไป
คุณยายเลยมีเวลาจัดการกับสัมภาระ เรานั่งมอง สงสารท่านจับใจ คิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เราเดินเอาเงินไปให้คุณยาย 100 บาท แล้วบอกว่า "หนูให้ค่ะ เก็บไว้ซื้อข้าว ซื้อยานะคะ ยาย" คุณยายงง มองหน้าเราด้วยความแปลกใจ และขอบคุณ เรากลัวว่าคุณยายจะลงก่อน เพราะเรายังต้องนั่งรถไปอีกไกล พอกลับมานั่งที่เบาะ ทุกคนบนรถเมล์มองมาที่เรา เราไม่ได้สนใจ เพราะตอนนนั้น น้ำตาคลอเบ้า เราคิดว่าทำไมลูกหลานใจร้ายให้คุณยายมาทำงาน ทอดทิ้งท่าน หรือไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ เราจะไม่ให้พ่อ แม่ เรา มาลำบากแบบนี้เด็ดขาด ถ้าตกรถเมล์บาดเจ็บจะเป็นยังไง นั่งร้องให้จนถึงป้ายมหา'ลัย มาเข้าชั้นเรียน ยังเศร้าอยู่เลย เพื่อนๆ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมตาแดงๆ ? พอเล่าให้มันฟัง มันก็หัวเราะเรากันใหญ่ ว่าเราบ้าไปแล้ว เซนซีทีฟ เหลือเกินนะแกน่ะ
ทุกวันนี้ก็ยังถามตัวเองอยู่เลย ว่าเราบ้าหรือเปล่าวะ? คนอื่นๆ เค้าจะมองเราว่าประหลาดไหม ?
แต่เชื่อไหม เราว่าอานิสงฆ์ ในการทำดี ความกตัญญู ความมีเมตตา มันกำลังส่งผลให้ชีวิตเราดีขึ้น ธุรกิจก็ไม่ตกต่ำ ถึงแม้ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเจ๊ง เหมือนมีอะไรมาทำให้เหตุการณ์ดีขึ้นเสมอๆ เราไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะจากคนจนคนหนึ่ง จากคนที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีรายได้ต่อเดือนเป็นแสนๆ มันเป็นไปได้ไง? มาถึงจุดนี้ได้ นอกจากความมานะ พยายามแล้ว เราเชื่อในผลบุญของการทำดี ถึงแม้ว่าอาจจะส่งผลช้า เร็ว ตามเวรกรรมของเรา แต่ทุกวันนี้เราสบายแล้วค่ะ เขียนมาซะยาวเลย บางทีการทำดี เล็กน้อยๆ ดูๆ แล้วมันเหมือนกับการฝากธนาคารแบบสะสมทรัพย์นะ 555555 ไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไง สะสมไปเรื่อยๆ มันก็ได้เยอะนะ อย่าคิดว่าทำบุญ ทำทาน 5 บาท 10 บาท แล้วจะได้บุญน้อย จบแล้วค่ะ ไม่รู้ว่ากระทู้จะไร้สาระหรือเปล่า ต้องขออภัยหากใครเข้ามาอ่านแล้ว ไม่ชอบใจค่ะ เจ้าของกระทู้แท็กไม่ถูกห้องโปรดอย่าได้เคืองกัน เพราะจริงๆ ก็อยากแบ่งปันกันอ่านน่ะค่ะ
เคยไหม? ที่สงสารคนบางคนจนจับหัวใจ น้ำตาไหล ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักมาก่อน ไม่ใช่ญาติ
ทุกวันนี้ก็ยังถามตัวเองอยู่เลย ว่าเราบ้าหรือเปล่าวะ? คนอื่นๆ เค้าจะมองเราว่าประหลาดไหม ?
แต่เชื่อไหม เราว่าอานิสงฆ์ ในการทำดี ความกตัญญู ความมีเมตตา มันกำลังส่งผลให้ชีวิตเราดีขึ้น ธุรกิจก็ไม่ตกต่ำ ถึงแม้ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเจ๊ง เหมือนมีอะไรมาทำให้เหตุการณ์ดีขึ้นเสมอๆ เราไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะจากคนจนคนหนึ่ง จากคนที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีรายได้ต่อเดือนเป็นแสนๆ มันเป็นไปได้ไง? มาถึงจุดนี้ได้ นอกจากความมานะ พยายามแล้ว เราเชื่อในผลบุญของการทำดี ถึงแม้ว่าอาจจะส่งผลช้า เร็ว ตามเวรกรรมของเรา แต่ทุกวันนี้เราสบายแล้วค่ะ เขียนมาซะยาวเลย บางทีการทำดี เล็กน้อยๆ ดูๆ แล้วมันเหมือนกับการฝากธนาคารแบบสะสมทรัพย์นะ 555555 ไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไง สะสมไปเรื่อยๆ มันก็ได้เยอะนะ อย่าคิดว่าทำบุญ ทำทาน 5 บาท 10 บาท แล้วจะได้บุญน้อย จบแล้วค่ะ ไม่รู้ว่ากระทู้จะไร้สาระหรือเปล่า ต้องขออภัยหากใครเข้ามาอ่านแล้ว ไม่ชอบใจค่ะ เจ้าของกระทู้แท็กไม่ถูกห้องโปรดอย่าได้เคืองกัน เพราะจริงๆ ก็อยากแบ่งปันกันอ่านน่ะค่ะ