ทักษิณประหารอำนาจรัฐไทย?

กระทู้สนทนา
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย ทุกวันอังคาร ทักษิณ ชินวัตร มักจะสไกป์เข้ามาแสดงความเห็น ชี้นำ สั่งการ ร่วมประชุมด้วย

ประชาชนภายนอกได้รับทราบเรื่องนี้อยู่เป็นระยะๆ ซึ่งแกนนำพรรคไม่ปลื้มกับข่าวที่รั่วไหลออกไปเลย

ล่าสุด จึงเป็นเหตุให้แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ขอความร่วมมือจากตำรวจสันติบาล เพื่อมาเฝ้าระวัง ส.ส.บางคนที่น่าสงสัย ผ่านทางระบบกล้องวงจรปิด และอีกส่วนหนึ่งเข้ามาปะปนสังเกตพฤติกรรมของ ส.ส. ทั้งก่อนและระหว่างการประชุม โดยเพ่งเล็งไปยัง ส.ส.ที่เข้าข่ายน่าจะให้ข้อมูลกับบุคคลภายนอก

มีการคาดโทษ หากรู้ว่าใครคาบข่าวข่าวไปบอกนักข่าว ก็จะมีการเรียกไปว่ากล่าวตักเตือน และถ้ายังไม่หยุด ก็จะส่งให้คนดูไบพิจารณาไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้าด้วย


1) เรื่องนี้ เป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่น่าสังเวชใจอย่างยิ่ง

ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ร้ายหลบหนีอาญาแผ่นดิน หนีโทษจำคุก หนีหมายจับคดีทุจริตโกงกิน แต่กลับมีข่าวว่าเข้ามามีส่วนร่วมสั่งการการทำหน้าที่ของ ส.ส.พรรครัฐบาล

เปรียบเทียบกับกรณีนักโทษในคุกโทรศัพท์สั่งซื้อขายยาเสพติด หรือนักโทษในคุกเล่นเฟซบุ๊ค จะเห็นว่ากรณีนักโทษหลบหนีคดีสไกป์เข้ามาบงการ ส.ส.พรรครัฐบาลอุกฉกรรจ์กว่ากันเยอะ

การที่ สส.ตกอยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงำของทักษิณ ชินวัตร น่าจะขัดต่อมาตรา 122 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และน่าจะเข้าข่ายเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ น่าจะละเมิดบทบัญญัติมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน

2) บ่ายวันอังคารที่ 30 เมษายน 2556 นักข่าวรายงานว่า ในการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยกับแกนนำพรรค ทักษิณ ชินวัตร ได้สไกป์มายังห้องประชุมด้วย เนื้อความบางตอน บอกว่า

“วันนี้ ส.ส.ทุกคนต้องร่วมกันแสดงจุดยืนเพื่อเป็นหลักให้แก่บ้านเมือง การแก้ไขรัฐธรรมนูญตอนแรกก็แก้ไม่ได้ มาคราวนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั่งพิจารณากันเพียง 5 คน แล้วก็รับเรื่องไว้อีก เห็นได้ชัดว่าเป็นการละเมิดหลักการแบ่งแยกอำนาจ พวกเราทุกคนต้องใกล้ชิดประชาชน พร้อมทุกสถานการณ์ อย่าไปกลัวการเลือกตั้ง เกิดอะไรขึ้นก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เราถอยมามากแล้ว วันนี้ต้องเป็นหลักให้บ้านเมือง”

ทักษิณยังพูดถึง ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่าตนได้คุยและขอบคุณท่านเฉลิมแล้ว เห็นด้วย จะทำอะไรควรทำอะไรให้มันสุดซอย ร่างของวรชัยเหมือนเดินไปครึ่งๆ กลางๆ มันไม่สุดซอย เมื่อจะทำแล้วก็ทำให้มันสุดซอย แต่ถ้าจะให้เร่งเอาเข้าสมัยประชุมวิสามัญ 3 วาระรวด ไม่เห็นด้วย จะถูกฝ่ายค้านโจมตีอีก ขณะนี้ยังไม่มีการชี้แจงเหตุผลรายละเอียดทั้งหมด อยากให้เอาเข้าสมัยประชุมหน้า ไม่เป็นอะไร ตนรอได้

“ขอให้ ส.ส.สามัคคีกันไว้ให้แน่น ให้นึกถึงผมบ้าง ยังลอยคอในทะเล อย่าให้ลอยคอนาน มันหนาว จะเป็นปอดบวมตายอยู่แล้ว อยากกลับบ้าน” ทักษิณกล่าวผ่านการสไกป์

ตรงนี้ อาจมองได้ว่า ทักษิณกำลังขู่ ส.ส. ว่าถ้าไม่เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เดินหน้าชนศาลรัฐธรรมนูญตามมติของพรรคต่อไป ก็อาจจะต้องยุบสภา ซึ่งทักษิณจะส่งใครลงเลือกตั้งหรือไม่ก็ยังไม่รู้

และที่แสดงออกอย่างเปิดเผย คือ การแสดงความต้องการของตนเองอย่างโจ่งแจ้ง สั่งการต่อ ส.ส.ในที่ประชุมพรรค เกี่ยวกับการเสนอกฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมในแนวทางที่จะทำให้ตนเองได้ผลประโยชน์จากการล้างผิด ล้มล้างคดี และขอเงินคืน 46,000 ล้านบาท ตามร่างกฎหมายที่ ร.ต.อ.เฉลิมนำเสนอก่อนหน้านี้

ปรากฏว่า ท่าทีของ ส.ส.แสดงอาการตอบรับ และพรรคเพื่อไทยก็มีมติไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ส่งคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมออกจดหมายเปิดผนึก 12 หน้า ปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ และห้ามมิให้ ส.ส.ทำหนังสือไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในกรณีที่รับคำร้องเรื่องแก้รัฐธรรมนูญไว้พิจารณาในขณะนี้

เรียกว่า ท้าชนศาล งัดข้อกับศาล

เป็นไปตามอาณัติ สั่งการ หรือบงการ ตามแนวทางสไกป์ของทักษิณ ชินวัตร


3) ที่น่าสังเวชและชวนให้สมเพทมากขึ้นไปอีก คือ เมื่อมีข่าวเช่นนี้ แทนที่จะให้มีการป้องกัน ห้ามปรามทักษิณ ชินวัตร มิให้กระทำพฤติการณ์เยี่ยงนี้ เพราะอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญร้ายแรง

กลับกลายเป็นว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยได้เรียกใช้ตำรวจสันติบาล มิใช่เพื่อจะสอบสวนเอาผิดทักษิณ หรือห้ามปรามทักษิณ แต่กลายเป็นจะห้ามปรามและเอาผิดบุคคลที่นำความจริงออกมาบอกนักข่าว!

ประเทศนี้ กลายเป็นอะไรไปเสียแล้ว

เปรียบเสมือนมีการตั้งวงเล่นไฮโล ผิดกฎหมาย ปรากฏว่า เจ้าของบ่อนเรียกตำรวจ ใช้ให้มาทำหน้าที่เฝ้าประตูบ่อน หรือคอยจับคนเล่นโกง ทั้งๆ ที่ ตำรวจจะต้องจับกุมเอาผิดเจ้าของบ่อนและวงไฮโล

เปรียบเสมือนมีการซื้อเสียงเลือกตั้ง ผิดกฎหมาย ปรากฏกว่า นักการเมืองเรียกตำรวจให้มาปิดล้อม ป้องปราม เพื่อมิให้มีการแอบถ่ายคลิปซื้อเสียง หรือนำเรื่องที่กระทำผิดนั้นออกไปบอกกล่าวสื่อมวลชนหรือดำเนินคดี



4) หากไม่มีการดำเนินคดีกับการบงการ สั่งการ หรือบริหารพรรคเพื่อไทยของคนทางไกล จะเป็นการสะท้อนชัดเจนว่า ทักษิณ ชินวัตร ได้ประหารรัฐประเทศไทย ผ่านการยึดอำนาจ การกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

โดยที่ตำรวจสามารถไม่ดำเนินคดี แต่พรรคเพื่อไทยสามารถจะใช้สันติบาลมาช่วยจับผิดคนที่นำข้อเท็จจริงดังกล่าวออกมาปูดต่อสังคมเสียอีก

พฤติกรรมของพรรครัฐบาลวันนี้ ประกาศตัวไม่อยู่ใต้อาณัติแห่งอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่กลับยอมตกอยู่ใต้อาณัติของนักโทษหลบหนีคดีทุจริต ผู้กำลังลอยคอ กดดันสั่งการให้ ส.ส.ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดให้ตนเอง ก่อนจะปอดบวมตายไปเสียก่อน

ทักษิณได้ประหารอำนาจรัฐไทยไปเสียแล้ว?


ปล.ไหน ปลวก บอกว่าไม่ชอบเผด็จการ งัยครับ...โดนไอ้แม้วคุม ซะแล้ว...เอิ๊ก ๆ ๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่