มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แบ่งปันกันด้วยนะครับ
พอดีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2556  คุณแม่ผมได้นำสมุดบัญชีไปอัพเดตที่ SCB สาขาโลตัสบางกะปิ
จากนั้นมีพนักงาน SCB เป็นผู้หญิง ขอสงวนนามสกุลนะครับ รหัสพนักงาน 5203012016 ได้มาแนะนำการฝากเงินแบบสะสมทรัพย์เป็นการออมระยะยาวโดยจ่ายปีละ 31,100 บาท
ซึ่งคุณแม่ผมอายุ 62 ปีด้วยความอยากเก็บเงินไว้ให้ลูกๆ ซึ่งได้ตกลงฝากเงิน

จากนั้นมา1 เดือนมีพนักงานจากไทยพานิชย์ประกันชีวิตโทรมาให้แม่ผมไปตรวจเลือด ตรวจร่างกาย แม่ผมถึงกับงง ซึ่งพนักงานได้มีการย้อนความไปถึงการฝากเงินสะสมทรัพย์ที่พนักงารผู้หญิงมาให้แม่ผมฝากที่กล่าวไว้ข้างต้น ผมถามคุณแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านบอกว่าพนักงานขายบอกว่าเป็นการฝากสะสมทรัพย์ทุกปี ปีละ 31,100 บาท และจะได้รับเงินปีละ 4,000 บาท ไม่ได้บอกว่ามีประกันมาเกี่ยวข้องแม้แต่นิดเดียว
ประเด็นของผมคือ
1. พนักงานขายพูดแต่เพียงว่าเป็นการฝากสะสมทรัพย์ระยะยาว แต่จริงๆมันคือการขายประกันชีวิต ต่อให้พูดว่าก็ลูกค้าไม่อ่านเอง แต่แม่ผมอายุ 62 ปี สายตาก็ไม่ดี ภามว่าพนักงงานมีจรรยาบรรณพอหรือไม่ อีกทั้งไม่ได้มีการบอกให้ทางคุณแม่ผมศึกษารายละเอียดให้ดี แบบนี้คนแก่ใจดีทุกคนคงโดนหลอกแน่ๆ
2. พนักงานผู้ชายที่โทรจากไทยพานิชย์ประกันชีวิตนั้นชื่อคุณเกียรติ เบอร์โทร 0891286229 ได้มีการพูดคุยกับทางพี่สาวผมและมีการโต้เถียงถึงกาารตรวจร่างกาย จากนั้นพนักงานคนนั้นก็ว่างสายทิ้งพร้อมปิดเครื่อง
ผมอยากทราบจังเลยว่า SCB ทำแบบนี้กับลูกค้าแล้วคิดว่าองค์กรจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่ทำให้ธรรมภิบาลของบริษัทดีขึ้นเลยเหรอ ทั้งๆที่องค์กรคุณเคลื่อนไหวได้ก็ด้วยประชาชน แต่คุณกับให้บริการด้วยการฉ้อฉล อะไรที่ตอบคำถามไม่ได้ก็ว่างหูหนีแล้วปิดเครื่อง

โดยส่วนตัวผมชื่นชม MD ที่มาจากทางยูนิลิเวอร์นะครับ สามารถนำพาองค์กรให้ยิ่งใหญ่ได้มาถึงทุกวันนี้
แต่พอเจอการให้บริการที่ฉ้อฉลแล้วอย่แบบนี้รู้สึกไม่ดีเลย เป็นธนาคารแห่งการฉ้อฉล

ในฐานะที่ผมก็ทำงานในแวดวงการเงินเหมือนกัน เรื่องเงินๆทองๆผมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนนะครับ ถ้าคิดจะฉ้อฉลให้คนมาทำประกันไปวันๆมันอยู่ไมได้อย่างยั่งยืนหลอกครับ

ใครมีวิธีจัดการปัญญานี้ยังไงได้บ้างมาช่วยแชร์ด้วยนะครับ เพราะผมก็เพิ่งเคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้

ถ้ายกเลิกแล้วเงินจะได้คืนเท่าไร แล้วจะเสียเปรียบอะไรยังไงบ้าง

ขอบคุณครับ