ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โพสต์อะไรใน Facebook มาพอสมควรแล้ว
และก็รู้สึกว่าหลายๆ คนที่ผมเคยเห็นโพสต์อะไรอยู่บ่อยๆ เริ่มหายหน้าหายตาไปเรื่อยๆ
เอ หรือพวกเค้าจะเริ่มเบื่อ facebook แล้วเหมือนผม
เมื่อก่อน face book คือโลกใบใหญ่ในสังคมออนไลน์ ที่เปิดเข้ามาแล้วจะเห็นความหลากหลายของข้อมูลมาก และพอจับกระแสได้ว่าสังคมออนไลน์เต้ากำลังสนใจอะไรกัน
แต่วันนี้โลกของ Faceb...ook มันแคบลงสนิทใจ เหลือข้อมูลข่าวสารอยู่เพียงของผู้คนหยิบมือเดียว คือ กลุ่มคนที่เราเคยกด Like แล้วไอ้ Facebook มันก็เหมาเอาว่าเราคงสนใจข้อมูลของคนๆ นี้มาก มันเลย Feed ข้อมูลมาให้ ส่วนคนอื่นที่เราไม่เคยกด Like มันก็ไม่ Feed ข้อมูลให้เราอีกเลย
ความน่าสนใจ เสน่ห์ และจุดขายทางการตลาด ที่ทำให้ Facebook ประสบความสำเร็จ คือ Feed ข้อมูลของคนที่เป็นเพื่อนเราทุกคนมาให้เรารู้ ทำให้เราอยากมีเพื่อนเยอะๆ เพื่อที่จะมีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น
แต่วันนี้จุดขาย ที่เด่นที่สุดของ Facebook กับถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ด้วยกฏการ Feed ข้อมูลที่คุณดพสต์ ไปสู่คนแค่ 30% ของเพื่อนที่เรามีอยู่ และที่บ้าไปกว่านั้น คือ ถ้ามัน feed มาแล้ว เราไม่กด like มันก็จะไม่ feed ข้อมูลของคนๆ นั้นมาให้เราอีกเลย
จุดขายหลัก กำลังจะกลับมาฆ่า facebook เอง ด้วยกฏแบบไร้วิชั่นของทีมงานในปัจจุบัน
สิ่งนี้มันขัดกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในสังคม ที่อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง แม้ไม่ใช่เรื่องของคนที่เรารู้จักก็ตาม
แต่วันนี้ facebook มันมาบังคับและมาทำเป็นแสนรู้ว่าเราควรรู้เรื่องของใครและไม่ควรรู้เรื่องของใคร โดยการใช้วิธีการจับสถิติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ดูการพฤติกกรมการกด Like ของเรา
ไม่ปลกใจเลยว่าวันนี้ทำไมหลายๆ คนที่เคยโพสต์อะไรใน Facebook จะเริ่มหายไป และลดน้อยลงเรื่อยๆ
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผมถึงเริ่มเบื่อ Facebook เพราะมันไม่ใช่โลกใบใหญ่ของผมอีกต่อไป
และไม่แปลกใจเลย ที่หลายๆ คนอาจจะเลิกสนใจและเลิกเล่น Facebook ภายในระยะเวลาไม่ช้าไม่นานนี้
และไม่แปลกใจเลยที่ Facebook จะตกกระแสไปจากสังคมไทยในเร็วๆ วันนี้ ผมว่าช้าสุดคงไม่เกินสิ้นปีนี้ ที่ Facebook อาจะจะกลายเป็นตำนาน เช่นเดียวกับ Hi5, MSN และ BB chat ที่เราเคยคลั่งไคล้กันเมื่อหลายปีก่อน
ในสายตานักการตลาดอย่างผม Facebook พลาดอย่างมหันต์ ที่เอาจุดแข็งและจุดขายของตน มาเปลี่ยนแปลงอย่างไร้เหตุผล และขาดความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้ใช้เยี่ยงนี้ ด้วยการกำหนดกฏบ้าๆ บอๆ มาจำกัดจุดขายจุดเดียวของตัวเองที่มีอยู่
และเมื่อสังคมโลกออนไลน์อันยิ่งใหญ่ กลายเป็นสังคมเล็กๆ ที่ถูกจำกัดด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ว่าเราควรรู้อะไรและไม่รู้อะไร อย่างส่งๆ เดชๆ และไร้เหตุผล ...จุดจบของ Facebook ก็คงจะมาถึงแล้ว
บายๆ facebook เพราะเราคงจะอยู่เห็นหน้ากันอีกไม่นาน
วาระสุดท้าย ของ facebook (กำลังจะมาถึง)
และก็รู้สึกว่าหลายๆ คนที่ผมเคยเห็นโพสต์อะไรอยู่บ่อยๆ เริ่มหายหน้าหายตาไปเรื่อยๆ
เอ หรือพวกเค้าจะเริ่มเบื่อ facebook แล้วเหมือนผม
เมื่อก่อน face book คือโลกใบใหญ่ในสังคมออนไลน์ ที่เปิดเข้ามาแล้วจะเห็นความหลากหลายของข้อมูลมาก และพอจับกระแสได้ว่าสังคมออนไลน์เต้ากำลังสนใจอะไรกัน
แต่วันนี้โลกของ Faceb...ook มันแคบลงสนิทใจ เหลือข้อมูลข่าวสารอยู่เพียงของผู้คนหยิบมือเดียว คือ กลุ่มคนที่เราเคยกด Like แล้วไอ้ Facebook มันก็เหมาเอาว่าเราคงสนใจข้อมูลของคนๆ นี้มาก มันเลย Feed ข้อมูลมาให้ ส่วนคนอื่นที่เราไม่เคยกด Like มันก็ไม่ Feed ข้อมูลให้เราอีกเลย
ความน่าสนใจ เสน่ห์ และจุดขายทางการตลาด ที่ทำให้ Facebook ประสบความสำเร็จ คือ Feed ข้อมูลของคนที่เป็นเพื่อนเราทุกคนมาให้เรารู้ ทำให้เราอยากมีเพื่อนเยอะๆ เพื่อที่จะมีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น
แต่วันนี้จุดขาย ที่เด่นที่สุดของ Facebook กับถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ด้วยกฏการ Feed ข้อมูลที่คุณดพสต์ ไปสู่คนแค่ 30% ของเพื่อนที่เรามีอยู่ และที่บ้าไปกว่านั้น คือ ถ้ามัน feed มาแล้ว เราไม่กด like มันก็จะไม่ feed ข้อมูลของคนๆ นั้นมาให้เราอีกเลย
จุดขายหลัก กำลังจะกลับมาฆ่า facebook เอง ด้วยกฏแบบไร้วิชั่นของทีมงานในปัจจุบัน
สิ่งนี้มันขัดกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในสังคม ที่อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง แม้ไม่ใช่เรื่องของคนที่เรารู้จักก็ตาม
แต่วันนี้ facebook มันมาบังคับและมาทำเป็นแสนรู้ว่าเราควรรู้เรื่องของใครและไม่ควรรู้เรื่องของใคร โดยการใช้วิธีการจับสถิติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ดูการพฤติกกรมการกด Like ของเรา
ไม่ปลกใจเลยว่าวันนี้ทำไมหลายๆ คนที่เคยโพสต์อะไรใน Facebook จะเริ่มหายไป และลดน้อยลงเรื่อยๆ
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผมถึงเริ่มเบื่อ Facebook เพราะมันไม่ใช่โลกใบใหญ่ของผมอีกต่อไป
และไม่แปลกใจเลย ที่หลายๆ คนอาจจะเลิกสนใจและเลิกเล่น Facebook ภายในระยะเวลาไม่ช้าไม่นานนี้
และไม่แปลกใจเลยที่ Facebook จะตกกระแสไปจากสังคมไทยในเร็วๆ วันนี้ ผมว่าช้าสุดคงไม่เกินสิ้นปีนี้ ที่ Facebook อาจะจะกลายเป็นตำนาน เช่นเดียวกับ Hi5, MSN และ BB chat ที่เราเคยคลั่งไคล้กันเมื่อหลายปีก่อน
ในสายตานักการตลาดอย่างผม Facebook พลาดอย่างมหันต์ ที่เอาจุดแข็งและจุดขายของตน มาเปลี่ยนแปลงอย่างไร้เหตุผล และขาดความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้ใช้เยี่ยงนี้ ด้วยการกำหนดกฏบ้าๆ บอๆ มาจำกัดจุดขายจุดเดียวของตัวเองที่มีอยู่
และเมื่อสังคมโลกออนไลน์อันยิ่งใหญ่ กลายเป็นสังคมเล็กๆ ที่ถูกจำกัดด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ว่าเราควรรู้อะไรและไม่รู้อะไร อย่างส่งๆ เดชๆ และไร้เหตุผล ...จุดจบของ Facebook ก็คงจะมาถึงแล้ว
บายๆ facebook เพราะเราคงจะอยู่เห็นหน้ากันอีกไม่นาน