(30 เมษายน) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอัมส์เตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ว่าสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์ทรงลงพระปรมาภิไธยในเอกสารสละราชสมบัติ พร้อมกับทรงสถาปนาพระอิสริยยศให้
เจ้าฟ้าชายวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ พระราชโอรสพระองค์โตและมกุฎราชกุมารพระองค์ปัจจุบัน ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนเธอร์แลนด์พระองค์แรกในรอบ 123 ปี
สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์เสด็จออก ณ พระบรมมหาราชวัง ในกรุงอัมสเตอร์ดัม พร้อมด้วยเจ้าฟ้าชายวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ และเจ้าฟ้าหญิงแม็กซิมา พระชายา เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยในเอกสารสละราชสมบัติ ถือเป็นการสิ้นสุดรัชสมัยของพระองค์ที่ยาวนาน 33 ปีเต็มอย่างเป็นทางการ โดยมีนายกรัฐมนตรีมาร์ค รัตเต และคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯเพื่อร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งช่วงเวลาสำคัญดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของเนเธอร์แลนด์
เนื้อหาในเอกสารมีใจความระบุให้เจ้าฟ้าชายวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ เป็นผู้สืบทอดราชสันตติวงศ์นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้พระองค์จะทรงขึ้นครองราชสมบัติโดยมีพระนามว่า
สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ ขณะที่เจ้าฟ้าหญิงแม็กซิมา พระชายา ซึ่งเป็นชาวอาร์เจนตินา จะทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีพระองค์ใหม่ ส่วนสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์จะทรงเปลี่ยนพระอิสริยยศเป็น
"เจ้าฟ้าหญิงเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์" (Her Royal Highness Princess Beatrix of the Netherlands)
หลังจากนั้นสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ได้ทรงประกอบพระราชพิธีทางศาสนาก่อนการเสด็จขึ้นครองราชสมบัติอย่างเป็นทางการ ภายในวิหารใหม่ ที่อยู่ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง ท่ามกลางพระบรมวงศานุวงศ์จากทั่วโลก ที่เสด็จมาทรงร่วมเป็นสักขีพยาน เช่น เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ พร้อมด้วยคามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายา เจ้าฟ้าชายโฮกุน มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ และเจ้าฟ้าหญิงเมตเต-มาริต พระชายา เจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น พร้อมด้วยเจ้าฟ้าหญิงมะซะโกะ พระชายา ซึ่งเสด็จฯ เยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี
ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงร่วมในพระราชพิธีสำคัญครั้งนี้ด้วย
พระราชประวัติ
สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ กษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซา เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1967 เป็นพระราชโอรสพระองค์โตในสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ และเจ้าชายเคลาส์ พระสวามีชาวเยอรมัน และทรงมีพระอนุชา 2 พระองค์ คือเจ้าฟ้าชายฟริโซ (ซึ่งยังประทับรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลจากเหตุหิมะถล่ม) และเจ้าฟ้าชายคอนสแตนติน
พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้านประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยไลเดน สถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ สถาบันราชนาวีแห่งชาติ และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ปัจจุบันทรงดำรงยศนาวาอากาศโทแห่งกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ และ พลจัตวาแห่งกองทัพบกเนเธอร์แลนด์ พระองค์ทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับนางสาวแม็กซิมา ซอร์เรกิเอตา หญิงสามัญชนชาวอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 และมีพระราชธิดา 3 พระองค์
ที่มา:
http://www.dailynews.co.th/world/201084
พระบรมฉายาลักษณ์อย่างเป็นทางการของสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์
พระราชพิธีราชาภิเษกสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์แรกแห่งเนเธอร์แลนด์ในรอบ 123 ปี
สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์เสด็จออก ณ พระบรมมหาราชวัง ในกรุงอัมสเตอร์ดัม พร้อมด้วยเจ้าฟ้าชายวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ และเจ้าฟ้าหญิงแม็กซิมา พระชายา เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยในเอกสารสละราชสมบัติ ถือเป็นการสิ้นสุดรัชสมัยของพระองค์ที่ยาวนาน 33 ปีเต็มอย่างเป็นทางการ โดยมีนายกรัฐมนตรีมาร์ค รัตเต และคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯเพื่อร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งช่วงเวลาสำคัญดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของเนเธอร์แลนด์
เนื้อหาในเอกสารมีใจความระบุให้เจ้าฟ้าชายวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ เป็นผู้สืบทอดราชสันตติวงศ์นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้พระองค์จะทรงขึ้นครองราชสมบัติโดยมีพระนามว่า สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ ขณะที่เจ้าฟ้าหญิงแม็กซิมา พระชายา ซึ่งเป็นชาวอาร์เจนตินา จะทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีพระองค์ใหม่ ส่วนสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์จะทรงเปลี่ยนพระอิสริยยศเป็น "เจ้าฟ้าหญิงเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์" (Her Royal Highness Princess Beatrix of the Netherlands)
หลังจากนั้นสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ได้ทรงประกอบพระราชพิธีทางศาสนาก่อนการเสด็จขึ้นครองราชสมบัติอย่างเป็นทางการ ภายในวิหารใหม่ ที่อยู่ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง ท่ามกลางพระบรมวงศานุวงศ์จากทั่วโลก ที่เสด็จมาทรงร่วมเป็นสักขีพยาน เช่น เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ พร้อมด้วยคามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายา เจ้าฟ้าชายโฮกุน มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ และเจ้าฟ้าหญิงเมตเต-มาริต พระชายา เจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น พร้อมด้วยเจ้าฟ้าหญิงมะซะโกะ พระชายา ซึ่งเสด็จฯ เยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี
ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงร่วมในพระราชพิธีสำคัญครั้งนี้ด้วย
พระราชประวัติ
สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ กษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซา เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1967 เป็นพระราชโอรสพระองค์โตในสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ และเจ้าชายเคลาส์ พระสวามีชาวเยอรมัน และทรงมีพระอนุชา 2 พระองค์ คือเจ้าฟ้าชายฟริโซ (ซึ่งยังประทับรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลจากเหตุหิมะถล่ม) และเจ้าฟ้าชายคอนสแตนติน
พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้านประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยไลเดน สถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ สถาบันราชนาวีแห่งชาติ และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ปัจจุบันทรงดำรงยศนาวาอากาศโทแห่งกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ และ พลจัตวาแห่งกองทัพบกเนเธอร์แลนด์ พระองค์ทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับนางสาวแม็กซิมา ซอร์เรกิเอตา หญิงสามัญชนชาวอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 และมีพระราชธิดา 3 พระองค์
ที่มา: http://www.dailynews.co.th/world/201084
พระบรมฉายาลักษณ์อย่างเป็นทางการของสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์