~~321 คาเฟ่~~ คาเฟ่นี้มี...หลอน (หลอน 3. : ลอง : จบตอน)

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ พี่ๆเพื่อนๆ ทุกท่าน
วันนี้มีตอนจบของ 'ลอง' มาฝากค่ะ

หลอนตอนที่ 3.2 : ลอง
http://ppantip.com/topic/30391389

หลอนตอนที่ 3.1 : ลอง
http://ppantip.com/topic/30371216

หลอนตอนที่ 2.2 : เงา (จบตอน)
http://ppantip.com/topic/30360317

หลอนตอนที่ 2.1 : เงา
http://ppantip.com/topic/30340591

หลอนตอนที่ 1 : รอคอย
http://ppantip.com/topic/30303497

***********************************************************************

~~ 321 คาเฟ่ ~~
      3.3 : ลอง : จบตอน


ความสุขที่แท้จริง..ไม่ได้อยู่ที่ความงามไม่งาม
ไม่ได้อยู่ที่มีเงินไม่มีเงิน..
สุขอยู่เพียงแต่ที่ใจเรา..เท่านั้น..




21.30 น.

ท่ามกลางความเงียบจนอึดอัดภายในร้านไพ่ยิปซีตีระกา มีเพียงกลิ่นของเทียนหอมและกำยานตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ เทียนสีน้ำเงินพร่องไปกว่าครึ่ง บนโต๊ะกลมที่ปูผ้ากำมะหยี่สีดำมีสำรับไพ่ยิปซีที่ยังไม่ถูกจัดเรียงเป็นระเบียบ เบื้องหน้าของตีระกาคือไพ่ยิปซีสามใบ ที่เปิดวางไว้เพื่อเตรียมการทำนายทายทัก

สีหน้าเคร่งเครียดหน้านิ่วคิ้วขมวดของตีระกา ทำให้ดารารายอดที่จะกังวลไม่ได้ สายตาคมปราบมองจ้องหญิงสาวที่ก้มหน้าดูไพ่อย่างคิดหนัก จนในที่สุดตีระกาก็จับไพ่ The Moon ไพ่ใบสุดท้ายที่ดารารายเลือกกลับเข้ากองไพ่ที่เหลือแล้วสับไพ่ใหม่อีกครั้ง

“ฉันคิดว่าอาจจะมีอะไรผิดพลาด ใช้มือซ้ายของคุณหยิบไพ่ขึ้นมาอีกหนึ่งใบค่ะ”

ดารารายเหลือบมองตีระกาด้วยแววตาสงสัยเคลือบแคลง แต่ก็ยอมหยิบไพ่ขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งใบส่งให้ตีระกาที่รับมาเปิดดู แล้วหญิงสาวก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อปรากฏว่าไพ่ใบใหม่ที่จับมาแทนใบเก่าก็ยังคงเป็นไพ่ The Moon อยู่ดี ตีระกาวางไพ่ใบใหม่ไว้ข้างกับ The Death อย่างคิดหนัก จนดารารายอดใจไม่ไหวต้องเอ่ยเสียงขุ่น

“ฉันคงจะมาหาคนผิดซะแล้ว ดูเหมือนเธอจะไม่มีความสามารถ”

คำพูดเยาะหยันจากดาราราย ทำเอาตีระกานึกฉุนที่คิดกังวลเรื่องดารารายอยู่ถึงกับตอบไปเสียงขุ่นเช่นกัน

“ทำไมคุณถึงคิดว่าฉันไม่มีความสามารถคะ”

ตีระกาจ้องตอบแววตาคมกริบของดาราร ายอย่างไม่หวั่นไหว มือเริ่มสั่นเล็กน้อยเมื่อโดนดูถูกเข้าอย่างจัง

“จากเท่าที่เห็น ดูเหมือนว่าฉันควรจะกลับดีกว่า เท่าไหร่ล่ะค่าเสียเวลา”

ดารารายลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมทั้งเปิดกระเป๋าเพชรระยับ นับธนบัตรในกระเป๋าแล้วหยิบออกมาสองใบโยนลงบนกองไพ่บนโต๊ะของตีระกาอย่างเยาะหยัน แล้วหมุนตัวกลับออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เพียงแค่เปิดประตูร้านยังไม่ทันจะก้าวเท้าออกไป ตีระกาก็ถามอะไรบางอย่างที่หยุดดารารายได้ชะงัดนัก

“คุณเคยทำแท้งรึเปล่า”

ตีระกาลุกขึ้นยืนหน้าโต๊ะ มือกำแน่นวางบนโต๊ะอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ที่โดนดูถูก

“อะไรนะ!!  เธอคิดว่าฉัน..ดารารายผู้โด่งดังจะทำอย่างนั้นรึ”

ดารารายเชิดหน้ามองสบตาตีระกาที่ลุ้นรอคำตอบอยู่  หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนพูดประโยคถัดมา

“ถ้าคุณไม่อยากฟังคำทำนายไพ่ ฉันก็อยากจะเตือนคุณเป็นการตอบแทนสำหรับค่าเสียเวลาที่มีค่าเท่ากับแบงค์สีเทาสองใบนี่”

ตีระกาหยิบธนบัตรสีเทาสองใบที่ดารารายโยนมันต่อหน้าหล่อนขึ้นมาโบกอย่างยียวน

“ว่ามาสิ ฉันจะกลับแล้ว น่ารำคาญ”

ดารารายปล่อยมือจากลูกบิดประตู โดยที่ประตูยังคงปิดไม่สนิท แล้วยืนฟังอย่างเสียไม่ได้และนึกสนใจอยู่นิดๆ

“ฉันขอแนะนำให้คุณเข้าวัดทำบุญ ปฏิบัติธรรมอย่างน้อยสักเจ็ดวัน และทำพิธีสวดบังสุกุลให้ตัวเองโดยเร็วที่สุด อาจจะเป็นการผ่อนหนักเป็นเบาได้”

ดารารายได้ฟังดังนั้นถึงกับหน้าถอดสีอย่างนึกหวั่นอยู่ลึกๆ แต่ความถือดีก็ยังพาให้หล่อนดื้อแพ่งและสวนกลับความหวังดีของตีระกาด้วยคำพูดสุดแสบ

“อาจจะ งั้นเหรอ อ๋อ อยากได้เงินค่าทำพิธีพวกนั้นล่ะสิ ขอบใจที่เตือนแต่ฉันคงไม่ทำ ดารารายผู้โด่งดังไม่มีวันทำอะไรโง่งมงายอย่างนั้นแน่ หมดเรื่องแล้วใช่มั๊ย งั้นฉันขอตัว”

ดารารายเปิดประตูร้านที่ปิดไม่สนิทดึงเข้าหาตัวอย่างแรงก่อนจะจ้ำออกไปโดยเร็วไม่สนใจใครบางคนที่ยืนพิงกำแพงนิ่งฟังอย่างตั้งใจ ดารารายเหลือบมองใครคนนั้นอยู่ชั่วพริบตาก่อนจะเดินจ้ำไปยังรถสปอร์ตสีแดงสดของตนเอง แล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

ชาญ..มองตามรถสปอร์ตสีแดงสดของนักแสดงชื่อดังไปอย่างนึกฉงนใจ เพราะตอนที่จอดรถที่ลานหน้าคอนโดเขาจอดข้างรถสปอร์ตสีแดงคันนั้น แต่ไม่เห็นใครอื่นในรถ พอรถแล่นออกไปกลับมีเงาตะครุ่มของใครบางคนที่ตัวเล็กคล้ายเด็กยืนอยู่ระหว่างเบาะหน้าหลังตรงกลางคอนโซลรถพร้อมทั้งหันมามองเขาและยิ้มให้ แต่รอยยิ้มนั้นกลับเย็นยะเยือกจนเขารู้สึกขนลุก

ตีระกานั่งมองไพ่ทั้งสามใบที่ดารารายเลือกไว้ด้วยแววตาสับสนคิดหนัก ทำให้ไม่ทันได้รู้ตัวว่าชาญเข้ามาภายในร้านและมานั่งลงตรงหน้าในตำแหน่งที่ดารารายเมื่อครู่ แต่ดูเหมือนหล่อนจะยังไม่รู้ตัว

ภายในรถสปอร์ตหรูสีแดงของดาราราย หญิงสาวกำลังง่วนอยู่กับการควานหาแผ่นซีดีเพลงโปรดฟังตามความเคยชิน อารมณ์ยังกรุ่นอยู่บ้าง แต่เมื่อนึกถึงของโปรดที่จะกลับไปลิ้มชิมรสในคืนนี้หญิงสาวถึงกับกระหยิ่มยิ้มย่อง เครื่องเล่นซีดีเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติหลังจากดารารายสอดแผ่นเข้าไป

ชั่วอึดใจจนนึกฉงนใจแต่แล้วเสียงเพลงบรรเลงก็เริ่มดังขึ้น เสียงเพลงนั้นทำเอาดารารายถึงกับขมวดคิ้วเพราะไม่ใช่เพลงโปรดของหล่อน แต่กลับเป็นเพลงคล้ายเพลงสวดศพ และไม่นานก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น

“เอามาาาา...เอาของหนูคืนมาาาาา...”

ดารารายถึงกับสะดุ้งเฮือก มองซ้ายมองขวาแล้วสะบัดหน้าอย่างแรงเรียกสติ

“ฉันคงหูแว่ว แล้วเพลงทำไมเป็นอย่างนี้เนี่ย”

เสียงเพลงบรรเลงงานศพยังคงดังต่อไป ดารารายถึงกับทนฟังไม่ไหวรีบปิดในทันทีพร้อมทั้งถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่แล้วเสียงเพลงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมเสียงพูดของเด็กเมื่อครู่

“เอาคืนมาาาาา...เอาเลือดของหนูคืนมาาาาา”

เสียงแว่วข้างหู ดารารายถึงกับขนลุกวาบ รีบเร่งคันเร่งเครื่องยนต์เร็วขึ้นเพื่อจะไปให้ถึงบ้านโดยเร็วที่สุด พร้อมมือข้างหนึ่งก็พยายามกดปิดเครื่องเล่นซีดีไม่หยุด แต่เสียงเพลงบรรเลงงานศพก็ยังคงดังอยู่และมีแต่จะโหยหวนขึ้นเรื่อยๆ

“เอาคืนมาาาาา...เลือดของหนู....เอามาาาา”

“เลือดอะไร!! ใครกัน!!”

ในที่สุดก็ทนไม่ไหว หญิงสาวสบถเสียงดังลั่นรถที่กำลังเร่งความเร็วมาอย่างเร็วได้ที่ ทันใดนั้นสายตาก็เหลือบมองกระจกมองหลัง แล้วหญิงสาวก็ถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่อมองสบเข้ากับดวงตากลมโตสีดำสนิทใบหน้าขาวซีดเข้าพอดี

“ฮะ..ฮะ..ฮะ..ฮะ..ฮะ...คิ..คิ...คิ....คิ”

เสียงหัวเราะที่ดังหลายๆเสียงปะปนกันไม่ใช่แค่เสียงเดียวกำลังรายล้อมเข้าหาร่างของหล่อนและเสียงนั้นยิ่งดังกรอกหูดารารายที่ตกตะลึงสุดขีด จนหญิงสาวถึงกับหลับตาปี๋ ไม่ทันสังเกตรถที่แล่นสวนมาอย่างสะเปะสะปะเช่นกัน...


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่