بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ
บทความสั้น ๆ นี้อยากเขียนขึ้นเพื่อตักเตือนตนเองผู้ต่ำต้อยอีกทั้งมีบาป แต่ก็อาจจะมีประโยชน์แก่พี่น้องผู้อ่านน่ะครับ อินชาอัลเลาะฮ์
ท่านอิบนุอะฏออิลและห์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
اَلرَّجَاءُ مَا قَارَنَهُ الْعَمَلُ ، وَإِلَّا فَهُوَ أُمْنِيَّةٌ
"ความหวังที่แท้จริง คือความหวังที่อยู่พร้อมกับการปฏิบัติ , หากมิเช่นนั้น มันก็เป็นแค่ความเพ้อฝัน"
มุสลิมที่กระทำบาป เขาต้องมีความหวังต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา ให้พระองค์ทรงอภัยโทษแก่เขา พร้อมทำการเตาบะฮ์กลับเนื้อกลับตัวอย่างจริงใจ
ท่านอัชชัดดาด บิน เอาส์ ได้รายงานว่า ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
الْكَيِّسُ مَنْ دَانَ نَفْسَهُ وَعَمِلَ لِمَا بَعْدَ الْمَوْتِ وَالْعَاجِزُ مَنْ أَتْبَعَ نَفْسَهُ هَوَاهَا وَتَمَنَّى عَلَى اللَّهِ
"ผู้มี ชาญฉลาดรู้แจ้งเห็นจริงนั้น คือผู้ที่คิดใคร่ครวญตัวเขาเองและปฏิบัติสิ่งที่มี(คุณประโยชน์)หลังความตาย และผู้ที่บกพร่องนั้น คือผู้ที่ตามอารมณ์ของตนเองและเพ้อฝันต่ออัลเลาะฮ์" รายงานโดยอัตติรมีซีย์ (2383)
ดังนั้นผู้กระทำความผิด เขาต้องทำการเตาบะฮ์ หวังการอภัยโทษ และความเมตตาของพระองค์ ด้วยการปฏิบัติสิ่งที่พระองค์ทรงบัญชาใช้และละทิ้งสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม แน่แท้พระองค์ทรงเป็นผู้เมตตาเอ็นดูแก่เรายิ่งกว่ามารดาที่มีต่อบุตรของนาง
ท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
قَالَ لَنَا النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَتُرَوْنَ هَذِهِ طَارِحَةً وَلَدَهَا فِي النَّارِ قُلْنَا لَا وَهِيَ تَقْدِرُ عَلَى أَنْ لَا تَطْرَحَهُ فَقَالَ لَلَّهُ أَرْحَمُ بِعِبَادِهِ مِنْ هَذِهِ بِوَلَدِهَا
"ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่เราว่า พวกท่านคิดหรือไม่ว่าผู้หญิงที่กำลังให้นมทารกนี้จะโยนบุตรของนางลงในกองไฟ? พวกเราตอบว่า ไม่แน่นอน นางไม่สามารถที่จะโยนทารกลงกองไฟได้หรอก ดังนั้นท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า ขอยืนยันอัลเลาะฮ์ทรงเมตตาต่อปวงบ่าวของพระองค์ยิ่งกว่าผู้หญิงคนนี้ที่มี ต่อบุตรของนาง" รายงานโดยบุคอรี(5540)
ดังนั้นเมื่อบรรดาลูก ๆ มีความดื้อดึงต่อบิดามารดาของพวกเขา จากนั้นพวกเขาฝ่าฝืนคำสั่งทั้งสองอย่างได้ใจ พวกเขายังคงกระทำเช่นนั้นโดยไม่กลัวการลงโทษมาประสบแก่พวกเขาเลย แต่เมื่อมีความหวาดกลัวและอันตรายย่างใกล้เข้ามายังพวกเขา ความกลัวก็ยังคงมีอยู่จนกว่าพวกเขาได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของบิดามารดาซึ่งเป็นสิ่งพักพิงที่ไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้เลย
ฉันใดฉันนั้น ในขณะที่มนุษย์ได้ทำการดื้อดึงฝ่าฝืนคำสั่งของอัลเลาะฮ์ตะอาลา เมื่อเขาได้รับความทุกข์และสำนึกผิดทำการเตาบะฮ์ไปยังพระองค์นั้น แน่นอนพระองค์ทรงเอ็นดูเมตตาและให้การพักพึงแก่เรายิ่งกว่ามารดาที่เอ็นดูเมตตาแก่บุตรของนางเสียอีก
แล้วเราได้ลิ้มรสความเมตตาของอัลเลาะฮ์แล้วหรือยัง? หรือว่าจะหวังในความเมตตาของพระองค์ทั้งที่เรายังฝ่าฝืนพระองค์กระนั้นหรือ?
وَاللهُ سُبْحَانَه وَتَعَالى أَعْلَي وَأَعْلَمُ
http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php/topic,4732.0.html
จงอย่าได้แต่เพ้อฝัน
บทความสั้น ๆ นี้อยากเขียนขึ้นเพื่อตักเตือนตนเองผู้ต่ำต้อยอีกทั้งมีบาป แต่ก็อาจจะมีประโยชน์แก่พี่น้องผู้อ่านน่ะครับ อินชาอัลเลาะฮ์
ท่านอิบนุอะฏออิลและห์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
اَلرَّجَاءُ مَا قَارَنَهُ الْعَمَلُ ، وَإِلَّا فَهُوَ أُمْنِيَّةٌ
"ความหวังที่แท้จริง คือความหวังที่อยู่พร้อมกับการปฏิบัติ , หากมิเช่นนั้น มันก็เป็นแค่ความเพ้อฝัน"
มุสลิมที่กระทำบาป เขาต้องมีความหวังต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา ให้พระองค์ทรงอภัยโทษแก่เขา พร้อมทำการเตาบะฮ์กลับเนื้อกลับตัวอย่างจริงใจ
ท่านอัชชัดดาด บิน เอาส์ ได้รายงานว่า ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
الْكَيِّسُ مَنْ دَانَ نَفْسَهُ وَعَمِلَ لِمَا بَعْدَ الْمَوْتِ وَالْعَاجِزُ مَنْ أَتْبَعَ نَفْسَهُ هَوَاهَا وَتَمَنَّى عَلَى اللَّهِ
"ผู้มี ชาญฉลาดรู้แจ้งเห็นจริงนั้น คือผู้ที่คิดใคร่ครวญตัวเขาเองและปฏิบัติสิ่งที่มี(คุณประโยชน์)หลังความตาย และผู้ที่บกพร่องนั้น คือผู้ที่ตามอารมณ์ของตนเองและเพ้อฝันต่ออัลเลาะฮ์" รายงานโดยอัตติรมีซีย์ (2383)
ดังนั้นผู้กระทำความผิด เขาต้องทำการเตาบะฮ์ หวังการอภัยโทษ และความเมตตาของพระองค์ ด้วยการปฏิบัติสิ่งที่พระองค์ทรงบัญชาใช้และละทิ้งสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม แน่แท้พระองค์ทรงเป็นผู้เมตตาเอ็นดูแก่เรายิ่งกว่ามารดาที่มีต่อบุตรของนาง
ท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
قَالَ لَنَا النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَتُرَوْنَ هَذِهِ طَارِحَةً وَلَدَهَا فِي النَّارِ قُلْنَا لَا وَهِيَ تَقْدِرُ عَلَى أَنْ لَا تَطْرَحَهُ فَقَالَ لَلَّهُ أَرْحَمُ بِعِبَادِهِ مِنْ هَذِهِ بِوَلَدِهَا
"ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่เราว่า พวกท่านคิดหรือไม่ว่าผู้หญิงที่กำลังให้นมทารกนี้จะโยนบุตรของนางลงในกองไฟ? พวกเราตอบว่า ไม่แน่นอน นางไม่สามารถที่จะโยนทารกลงกองไฟได้หรอก ดังนั้นท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า ขอยืนยันอัลเลาะฮ์ทรงเมตตาต่อปวงบ่าวของพระองค์ยิ่งกว่าผู้หญิงคนนี้ที่มี ต่อบุตรของนาง" รายงานโดยบุคอรี(5540)
ดังนั้นเมื่อบรรดาลูก ๆ มีความดื้อดึงต่อบิดามารดาของพวกเขา จากนั้นพวกเขาฝ่าฝืนคำสั่งทั้งสองอย่างได้ใจ พวกเขายังคงกระทำเช่นนั้นโดยไม่กลัวการลงโทษมาประสบแก่พวกเขาเลย แต่เมื่อมีความหวาดกลัวและอันตรายย่างใกล้เข้ามายังพวกเขา ความกลัวก็ยังคงมีอยู่จนกว่าพวกเขาได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของบิดามารดาซึ่งเป็นสิ่งพักพิงที่ไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้เลย
ฉันใดฉันนั้น ในขณะที่มนุษย์ได้ทำการดื้อดึงฝ่าฝืนคำสั่งของอัลเลาะฮ์ตะอาลา เมื่อเขาได้รับความทุกข์และสำนึกผิดทำการเตาบะฮ์ไปยังพระองค์นั้น แน่นอนพระองค์ทรงเอ็นดูเมตตาและให้การพักพึงแก่เรายิ่งกว่ามารดาที่เอ็นดูเมตตาแก่บุตรของนางเสียอีก
แล้วเราได้ลิ้มรสความเมตตาของอัลเลาะฮ์แล้วหรือยัง? หรือว่าจะหวังในความเมตตาของพระองค์ทั้งที่เรายังฝ่าฝืนพระองค์กระนั้นหรือ?
وَاللهُ سُبْحَانَه وَتَعَالى أَعْلَي وَأَعْلَمُ
http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php/topic,4732.0.html