ตอนเราหนุ่มสาวใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สวยงาม เปล่งปล่ง รูปหน้าตึงกระชับได้รูป แต่พออายุมากขึ้นใบหน้าเราก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ ทางการแพทย์เราจัดให้คนสวยมีรูปหน้าเหมือนไข่คว่ำลง นั่นคือด้านบนส่วนหน้าผากจะกว้างกว่าส่วนด้านล่างที่ค่อยๆแคบเว้าเป็นคางมนได้รูป เมื่ออายุมากขึ้นรูปโครงหน้าของคนจะเปลี่ยนไป กลายเป็นคางหมูที่มีฐานกว้างกว่าหรือไข่ป้านที่มีบริเวณคางกางออกเพราะความหย่อนคล้อยของผิวนั่นเอง อย่ามัวแต่โทษแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างเดียวเลยค่ะ เพราะจริงๆแล้วความเสื่อมของผิว ไม่ได้เกิดเฉพาะผิวด้านบนเท่านั้น แต่เกิดขึ้นในระดับเซลล์ของเซลล์ทุกเซลล์ ตั้งแต่ชั้นของกระดูกที่เป็นโครงสร้างของกะโหลกศีรษะ ไล่มาที่ชั้นกล้ามเนื้อ ชั้นไขมันส่วนประกอบล่างสุดของผิวหนัง ถัดมาที่ชั้นหนังแท้ที่ประกอบด้วยสารให้ความยืดหยุ่นตึงตัวของคอลลาเจนและไฮยารูลอนิก จนกระทั่งผิวหนังชั้นบนสุด นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่คุณเห็นได้ชัด คือ การเปลี่ยนโครงสร้างของใบหน้า สูญเสียความสมดุล และสัดส่วนที่สวยงามของใบหน้าและผิวพรรณภายนอกที่เสื่อมสภาพไป เอาเวอร์ชั่นแบบละเอียด มีดังนี้ค่ะ

     - ชั้นกะโหลกศีรษะ หลายคนคงเคยคิดว่า กะโหลกศีรษะเป็นส่วนของกระดูกที่มีความคงทน ไม่น่าจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าเมื่ออายุมากขึ้น แต่พระพุทธเจ้าสอนให้มนุษย์รู้จักที่จะปลงสังขาร เพราะเป็นสิ่งอนิจจังไม่เที่ยง ขนาดเจ้ากระดูกที่เราเข้าใจว่าแข็งสุดๆ ยังสามารถที่จะหดตัวลงได้ เช่น กระดูกบริเวณโหนกแก้ม กระดูกดั้งจมูก กระดูกบริเวณแนวฟันบนและล่าง กระดูกบริเวณหัวคิ้ว ซึ่งเป็นโครงสร้างส่วนสำคัญที่ทำให้ใบหน้าคุณดูอ่อนเยาว์ เมื่อกระดูกส่วนนี้หายไป คุณจึงเกิดริ้วรอยระหว่างคิ้ว โหนกแก้มลดต่ำลง ขมับบุ๋ม โหนกหน้าผากลดขนาดลง หรือสูญเสียความคมชัดของใบหน้า
    
     - ชั้นของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อของใบหน้าไม่แตกต่างอะไรกับกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆของร่างกาย เมื่ออายุมากขึ้น ความแข็งแรงและความตึงตัว หรือแม้กระทั่งขนาดของกล้ามเนื้อเองก็จะลดลง ถ้าคุณไม่ได้มีการออกกำลังกายกล้ามเนื้อบนใบหน้าของคุณอยู่ตลอด คุณก็อาจจะมีใบหน้าที่นิ่มเหลว ไร้ความตึงกระชับได้
    
     - ชั้นของไขมัน เรื่องยังไม่หมดง่ายๆค่ะ เวลาที่เราแก่ตัวลง ชั้นไขมันก็มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการจัดเรียงตัวใหม่ เกิดการแบ่งแยกของชั้นไขมัน เห็นได้ชัดเป็นร่องแยกของแก้มทั้งสองข้าง หรือเกิดการคล้อยตัวของไขมันจากแก้มบนลงมาอยู่บริเวณกรามล่าง กลายเป็นหน้าคางหมูตามธรรมชาติที่ไม่มีใครต้องการ
    
     - ชั้นของผิวหนัง เกิดการสูญเสียปริมาตรในส่วนของหนังแท้ มีการลดลงของสารคอลลาเจน อีลาสตินและไฮยารูลอนิก ชั้นหนังแท้นี้จะบางตัวลง ขณะที่ชั้นผิวหนังด้านบนสุดกลับหนาตัวขึ้น เพราะชั้นขี้ไคลหนาตัว ไม่ยอมหลุดลอกตามเวลา ใบหน้าจึงดูหมองคล้ำและเหี่ยวย่น ผิวจึงเกิดริ้วรอย ร่องลึก สูญเสียความเต่งตึงเปล่งปลั่ง

    การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ผิวหนังที่เสื่อมสภาพจากเซลล์ที่เสื่อมลง จากการใช้ชีวิตอย่างโชกโชน เซลล์ก็จะยิ่งเสื่อมเร็วและรุนแรงมากขึ้นแต่ถ้าคุณดูแลและบำรุงรักษาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ คุณก็จะสามารถรักษาและฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพไว้ได้ ประเภทรู้ก่อนได้เปรียบ ชิงลงมือก่อนคือผู้ชนะ

ถ้าหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผิวพรรณ ความสวยความงาม การทำเลเซอร์ หรือปัญหาสุขภาพ สอบถามหมอมาได้นะคะ