ผมเห็นคนต่อคิวจ่ายเงินค่าปรับ ณ.ตรงด่านยาวเป็นหางว่าวทุกวัน
- ช่วงกลางวัน หากตั้งด่าน 1แยก เช้า-บ่ายช่วงละ 2 ชม. จะคิดเป็น 240 นาที/วัน
ความเร็วเฉลี่ยในการดำเนินการ 1นาที/1คน คิดค่าปรับต่ำสุด 200บาท/คน
    รายได้ค่าปรับ 1 แยก/วัน = 240*200 = 48,000 บาท/วัน

- ช่วงกลางคืน เป้าหมายตรวจวัดแอลกอฮอล์เกินวันละ 40 ราย/แยก
   แยกคิดเป็นจักรยานยนต์ 20 ราย และ รถยนต์ 20 ราย ค่าปรับ ณ.ด่าน จยย.=7,000บาท รถยนต์ =10,000 บาท
    รายได้ค่าปรับวัดปริมาณแอลกอฮอล์/วัน = (20*7,000)+(20*10,000) = 340,000บาท/วัน

***รวมรายได้หัวปิงปองตั้งด่านทั้งกลางวัน+กลางคืน/1แยก = 388,000 บาท/วัน
       รายได้รวมต่อเดือน(คิดเพียงเดือนละ30วัน) = 388,000*30= 11,640,000 บาท/เดือน
       รายได้รวมต่อแยกต่อปี  11,640,000*12= 139,680,000 บาท/ปี (หนึ่งร้อยสามสิบเก้าล้านหกแสนแปดหมื่นบาทถ้วน โอ๊วแม่เจ้า!!!)

เม็ดเงินหายไปจากระบบเศรษฐกิจในภาพรวม เข้าหลวงเท่าไหร่?  เข้ากระเป๋าตัวเองเท่าไหร่?  วาน ปปช. ตรวจสอบด้วยครับ

ปล.จับข้อหาปกติเช่น เมาแล้วขับ ใบขับขี่-ทะเบียนหมดอายุ ไม่สวมหมวกนิรภัย บรรทุกเกิน ฯลฯ ผมไม่ว่า แต่จับข้อหารถไม่ล้าง กระจกไม่เงา บังโคลนไม่สะอาด ไม่เอาที่เหยียบคนซ้อนขึ้น ซ้อนเด็ก3ขวบคิดเป็นซ้อน3 ฯลฯ ข้อหาหมาๆแบบนี้กรูรับไม่ได้นะครับ แม้จะไม่เคยเจอกับตัวเองก็ตาม แต่ลูกน้องผม เพื่อนบ้านผมเจอมาหมดแล้ว เลยเอามาแชร์ให้ฟัง  ระวังประชาชนจะทนไม่ไหวเหมือนนครศรีธรรมราชนะครับ
(จะว่าไปรายได้ต่อแยกต่อปีมันเยอะขนาดนี้ ถ้าคิดทุกแยกรวมกันทั่วประเทศ มหาศาลนะครับ แต่ทำไมโรงพักตัวเองไม่มีปัญญาสร้างเองต่อ)