รถใช้ทางด่วนเกือบ 2ล้านคันเกินขีดความสามารถรองรับ

วันนี้ (26 เม.ย.)  ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ เขตหลักสี่ นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จัดประชุมเชิงปฎิบัติการ (เวิคร์ชอป) "การแก้ไขปัญหารถติดหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ" โดยมีพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. เป็นประธาน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ร่วมแสดงความเห็นและข้อเสนอแนะในการพัฒนาแก้ปัญหาจราจรหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางด่วน

ที่ผ่านมา กทพ.ได้สำรวจความเห็นประชาชนผู้ใช้ทางพิเศษ ให้ความเห็นว่า สาเหตุที่ทำให้รถติดหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางมากที่สุด คือ เจ้าหน้าที่ทอนเงินช้า ประมาณ 33% รองลงมาคือ รถไม่มีบัตรอีซี่พาส เข้าไปในช่องอีซี่พาส 15% ขับรถเบียดช่องจ่ายค่าผ่านทาง 9% เป็นต้น โดยเสนอแนะให้ทำประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ทางเตรียมเงินให้พอดีกับค่าผ่านทาง เพื่อไม่ต้องเสียเวลาทอนเงิน ประชาสัมพันธ์ให้ใช้ช่องทางให้ถูกต้อง จัดระเบียบหน้าด่าน เปิดช่องเก็บค่าผ่านทางให้ครบ
นายอัยยณัฐ กล่าวว่า ปริมาณจราจรบนทางด่วนปัจจุบันมีเฉลี่ยวันละ 1.6 ล้านคัน โดยเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมามีสูงถึง 1.9 ล้านคัน และเฉพาะวันที่ 29 มี.ค. ปริมาณจราจรเพิ่มเป็น 1.99 ล้านคัน  ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่ประมาณการณ์ไว้ และคาดว่าปริมาณจราจรบนทางด่วนจะเกิน  2 ล้านคันต่อวันภายในกลางปีนี้แน่นอน ในขณะที่โครงข่ายทางด่วนมี 7 สายทาง 3 ทางเชื่อมต่อ ระยะทาง 207.9 กม.เท่าเดิม ทั้งนี้ กทพ.มีแผนแก้ปัญหาการจราจรระยะเร่งด่วน คือ เพิ่มจำนวนช่องอีซี่พาสเป็น 50%ของช่องเก็บค่าผ่านมาในทุกด่าน โดยปัจจุบันมีผู้ใช้บัตรอีซี่พาสประมาณ 6 แสนใบ  หากใช้ใบละ 2 เที่ยว เท่ากับ 1.2 ล้านเที่ยวต่อวัน จะช่วยลดปัญหารถติดสะสมหน้าด่านได้มาก เพิ่มจำนวนพนักงานเก็บเงิน จากตู้ละ 1 คน เป็น 2 คน ในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งทำไปแล้วที่ด่านดาวคนองและได้ผลดี ใช้ระบบตั๋วร่วมกับทางด่วนอื่นๆ ปรับปรุงระบบยกเลิกไม้กั้นอีซี่พาส ทำตู้เก็บค่าผ่านทางแบบ 2 ระบบ ผ่านได้ทั้งเงินสดและอีซี่พาส ใช้ระบบรีเวิร์สซิเบิ้ลเลนเพื่อระบายรถในเส้นทางที่หนาแน่น เช่น จากด่านดาวคนอง-ท่าเรือ ช่วงเช้าขาเข้ามีรถมาก ให้ปรับใบ้ขาออกวิ่งเข้าได้อีก 1 ช่องทาง เป็นต้น

นอกจากนี้จะเร่งปรับปรุงทางขึ้นลง เพื่อระบายรถบนทางด่วน ให้ลงถนนด้านล่างได้เร็วขึ้น เช่น บริเวณทางลงถนนทางรถไฟสายเก่า รองรับรถจากคลองเตย กล้วยน้ำไทให้ใช้ทางด่วนได้สะดวกขึ้น  ปรับปรุงทางลงทางด่วนขั้นที่ 1 บริเวณถนนสุขุมวิท 50 เป็นต้น

นายอัยยณัฐ กล่าวว่า ในอนาคตมีแผนก่อสร้างทางด่วนเพิ่มอีก 9 โครงการประกอบด้วย 1. ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N1 N2 N3 (บางใหญ่-เกษตร-มอเตอร์เวย์) ระยะทางประมาณ 40 กม. ขณะนี้กระทรวงคมนาคมให้กทพ.ปรับการศึกษาแนวที่เหมาะสม 2. โครงการทางด่วนสาย ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 8.8 กม. อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสม ทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม และอนาคตจะขยายไปถึงปากท่อ 3. โครงการทางด่วนศรีรัช-ดาวคะนอง ระยะทาง 6.1 กม.โดยจะเชื่อมจากบางโคล่ เป็นทางด่วนคู่ขนานกับสะพานพระราม9 –ถนนพระราม 2 เพื่อลดภาระสะพานพระราม 9 โดยอยู่ระหว่างศึกษาทบทวนโครงการ

4. โครงการทางด่วนบูรพาวิถี-พัทยา ระยะทาง 57 กม. อยู่ระหว่างคัดเลือกที่ปรึกษา ศึกษาความเหมาะสมโครงการ โดยจะมีทางเชื่อมเข้าท่าเรือแหลมฉบังได้สะดวก  5. โครงการทางด่วนอุดรรัถยา-อยุธยา ระยะทาง 35 กม. อยู่ระหว่างทำทีโออาร์คัดเลือกที่ปรึกษา 6. โครงการทางด่วนฉลองรัฐ-สระบุรี ระยะทาง 63 กม. เชื่อมต่อจากบริเวณจตุโชติ -อำเภอบ้านนา-วิหารแดงรองรับปริมาณรถจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสูู่กรุงเทพฯ โดยอยู่ระหว่างเสนอของบศึกษาในปี 2557  7. โครงการทางด่วนสายกระทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 30.7 กม. อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นการมีส่วนร่วมของประชาชน 8. โครงการทางด่วนแก้ปัญหาจราจรจังหวัดเชียงใหม่และ 9. โครงการทางด่วนแก้ญหาจราจรจังหวัดขอนแก่น อยู่ระหว่างของบศึกษาความเหมาะสมในปี 2557

http://www.dailynews.co.th/bkk/200121

อีกไม่นานอาจเห็นรถติดจนคนต้องทิ้งรถเดินกลับบ้านแทน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่