ความเห็นเจ้าสัวเริ่มออกมา ถึงอนาคตของ CPALL และ MAKRO ไม่ว่าจะเพื่อพยุงหุ้น CPALL หรือไม่ก็ตาม
เราลองมาวิเคราะห์ตามกันดูหน่อยครับ
1. ไม่เพิ่มทุน
ผมเชื่อ 100% ว่าในระยะอันใกล้นี้ ไม่เพิ่มทุนแน่นอน เพราะว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CPALL ทั้งสอง
คือ CPF และ CPG ต่างไม่มีปัญญาจ่ายเงินเพิ่มทุนแน่นอน
CPF ผลประกอบการปกติ แย่มากๆ อาจถึงติดลบ ปีที่ผ่านมาต้องขายหุ้น CPALL ออกมาเพื่อทำกำไร ตกแต่งบัญชี หาเงินจ่ายผู้ถือหุ้น
CPG เพิ่ง ผ่านดีลผิงอัน ยังต้องขายหุ้น CPALL ออกมาหลายครั้งเพื่อชำระหนี้
สภาพคล่องของทั้งสองบริษัท อยู่ในขั้นแย่ ไม่มีเงินมาช่วย CPALL แน่นอน
2. ตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์
ตรงนี้ ยังไม่แน่ว่าในทางปฏิบัติจะทำอย่างไร แต่โดยทั่วไปก็คือ ตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อซื้อสิทธิการเช่าบนพื้้นที่ที่ MAKRO ตั้งอยู่
โดย MAKRO จะขายสิทธิการเช่านี้ให้กองทุน กองทุนนำเงินจากนักลงทุนที่ต้องการซื้อกองทุนมาจ่ายให้ MAKRO
และ MAKRO จะต้องจ่ายค่าเช่าให้ให้กองทุนนี้ไป ตามจำนวนปีที่กำหนด
ถ้าเป็นไปตามสมมุติฐานนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ MAKRO คือ จะได้กำไรพิเศษออกมาก้อนหนึ่ง จากการขายสิทธิการเช่านี้
ซึ่งผมว่า น่าจะเยอะพอสมควร เพราะ MAKRO ซื้อที่ดินหลายๆผืนมาหลายสิบปีแล้ว อยู่ในทำเลที่ดีด้วย พอนำมาประเมินมูลค่าใหม่ น่าจะได้ส่วนต่างจากต้นทุนที่ซื้อที่ค่อนข้างเยอะ บางผืน อาจจะไปถึง 10 เท่า (เดาเอานะครับ เพราะราคาที่ดิน 20 ปีผ่านไป บางที่ไป 10 เท่าจริงๆ)
ใน book ของ MAKRO ที่ดินราคาทุนตอนนี้มีอยู่ประมาณ 8000 ล้านบาท กองทุนที่จะตั้ง น่าจะได้เงินหลายหมื่นล้านบาท
ตรงนี้ เป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือได้เงินขึ้นมามาก ก็จะต้องมีการจ่ายปันผลพิเศษให้ผู้ถือหุ้น เพื่อที่ CPALL จะรับเงินปันผลพิเศษนี้
ไปจ่ายหนี้ หรือ ทำอะไรก็สุดแล้วแต่ ดังนั้น ผถห. MAKRO ที่ไม่ทำ tender ก็รอรับเงินปันผลพิเศษนี้ ได้เลย
แต่ในระยะยาวแล้ว MAKRO จะต้องจ่ายค่าเช่าให้กองทุน เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นมา ตรงนี้จะกระทบกับผลการดำเนินงานในระยะยาว ดังนั้นผทห.ต้องชั่งใจแล้วว่า จะทิ้งดีหรือไม่ดี
ส่วน CPALL เมื่อได้เงินจากปันผลพิเศษนี้มา คาดว่าจะนำไปชำระหนี้ แต่ถ้าเสี่ยแกรุกจริงๆ อาจะเอาเงินบางส่วนไปขยายสาขา MAKRO ในตปท. ซึ่งคาดว่า จะตั้งบริษัทขึ้นมาจัดการตรงนี้ ไม่เกี่ยวกับ MAKRO เพราะสิทธิการใช้ trademark MAKRO ใน asia เป็นของ CPALL ไม่ใช่ตัว MAKRO เอง
สรุป
CPALL ซื้อ ครับ ไม่มีราคาเป้าหมาย เพราะไม่รู้ ปัจจัยเสี่ยงคือ อัตราดอกเบี้ย ค่าเงินบาท(เพราะเห็นว่าจะกู้สกุลเงินตปท.)
หลังจากตั้งกองอสังหา ต้องดูว่าเอาเงินไปทำอะไร ค่อยว่ากันอีกที
ส่วนผทห. MAKRO ถ้าไม่ tender อาจจะรอจนกว่าจะได้ปันผลพิเศษนี้ หลังจากนั้น ก็น่าจะขายมั้ง เพราะกำไร MAKRO อาจจะตกลง
CPALL กับ MAKRO ยังไงต่อ
เราลองมาวิเคราะห์ตามกันดูหน่อยครับ
1. ไม่เพิ่มทุน
ผมเชื่อ 100% ว่าในระยะอันใกล้นี้ ไม่เพิ่มทุนแน่นอน เพราะว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CPALL ทั้งสอง
คือ CPF และ CPG ต่างไม่มีปัญญาจ่ายเงินเพิ่มทุนแน่นอน
CPF ผลประกอบการปกติ แย่มากๆ อาจถึงติดลบ ปีที่ผ่านมาต้องขายหุ้น CPALL ออกมาเพื่อทำกำไร ตกแต่งบัญชี หาเงินจ่ายผู้ถือหุ้น
CPG เพิ่ง ผ่านดีลผิงอัน ยังต้องขายหุ้น CPALL ออกมาหลายครั้งเพื่อชำระหนี้
สภาพคล่องของทั้งสองบริษัท อยู่ในขั้นแย่ ไม่มีเงินมาช่วย CPALL แน่นอน
2. ตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์
ตรงนี้ ยังไม่แน่ว่าในทางปฏิบัติจะทำอย่างไร แต่โดยทั่วไปก็คือ ตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อซื้อสิทธิการเช่าบนพื้้นที่ที่ MAKRO ตั้งอยู่
โดย MAKRO จะขายสิทธิการเช่านี้ให้กองทุน กองทุนนำเงินจากนักลงทุนที่ต้องการซื้อกองทุนมาจ่ายให้ MAKRO
และ MAKRO จะต้องจ่ายค่าเช่าให้ให้กองทุนนี้ไป ตามจำนวนปีที่กำหนด
ถ้าเป็นไปตามสมมุติฐานนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ MAKRO คือ จะได้กำไรพิเศษออกมาก้อนหนึ่ง จากการขายสิทธิการเช่านี้
ซึ่งผมว่า น่าจะเยอะพอสมควร เพราะ MAKRO ซื้อที่ดินหลายๆผืนมาหลายสิบปีแล้ว อยู่ในทำเลที่ดีด้วย พอนำมาประเมินมูลค่าใหม่ น่าจะได้ส่วนต่างจากต้นทุนที่ซื้อที่ค่อนข้างเยอะ บางผืน อาจจะไปถึง 10 เท่า (เดาเอานะครับ เพราะราคาที่ดิน 20 ปีผ่านไป บางที่ไป 10 เท่าจริงๆ)
ใน book ของ MAKRO ที่ดินราคาทุนตอนนี้มีอยู่ประมาณ 8000 ล้านบาท กองทุนที่จะตั้ง น่าจะได้เงินหลายหมื่นล้านบาท
ตรงนี้ เป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือได้เงินขึ้นมามาก ก็จะต้องมีการจ่ายปันผลพิเศษให้ผู้ถือหุ้น เพื่อที่ CPALL จะรับเงินปันผลพิเศษนี้
ไปจ่ายหนี้ หรือ ทำอะไรก็สุดแล้วแต่ ดังนั้น ผถห. MAKRO ที่ไม่ทำ tender ก็รอรับเงินปันผลพิเศษนี้ ได้เลย
แต่ในระยะยาวแล้ว MAKRO จะต้องจ่ายค่าเช่าให้กองทุน เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นมา ตรงนี้จะกระทบกับผลการดำเนินงานในระยะยาว ดังนั้นผทห.ต้องชั่งใจแล้วว่า จะทิ้งดีหรือไม่ดี
ส่วน CPALL เมื่อได้เงินจากปันผลพิเศษนี้มา คาดว่าจะนำไปชำระหนี้ แต่ถ้าเสี่ยแกรุกจริงๆ อาจะเอาเงินบางส่วนไปขยายสาขา MAKRO ในตปท. ซึ่งคาดว่า จะตั้งบริษัทขึ้นมาจัดการตรงนี้ ไม่เกี่ยวกับ MAKRO เพราะสิทธิการใช้ trademark MAKRO ใน asia เป็นของ CPALL ไม่ใช่ตัว MAKRO เอง
สรุป
CPALL ซื้อ ครับ ไม่มีราคาเป้าหมาย เพราะไม่รู้ ปัจจัยเสี่ยงคือ อัตราดอกเบี้ย ค่าเงินบาท(เพราะเห็นว่าจะกู้สกุลเงินตปท.)
หลังจากตั้งกองอสังหา ต้องดูว่าเอาเงินไปทำอะไร ค่อยว่ากันอีกที
ส่วนผทห. MAKRO ถ้าไม่ tender อาจจะรอจนกว่าจะได้ปันผลพิเศษนี้ หลังจากนั้น ก็น่าจะขายมั้ง เพราะกำไร MAKRO อาจจะตกลง