กรณีผมขับรถยนต์บนถนนที่เป็นแบบ ไปหนึ่งมาหนึ่ง เลียบเส้นเหลือง เพื่อจะรอเลี้ยวเข้าซอยทางด้วนขวา(ฝั่งตรงข้าม) แต่ต้องรอให้รถผ่านไปให้หมดก่อน ประมาณ สามสี่คัน ผมจึงจอดเปิดไฟเลี้ยวแล้ว หมุนล้อรอที่จะเลี้ยว หลังจากรถผ่านไปหมด ผมก็ปล่อยครัชปล่อยแบกเพื่อเลี้ยว แต่จังหวะนั้น มีมอไซค์ แซงมาทางด้านขวา เฉียวชนรถผมแล้วล้มลง ผมจึงหยุดรถและลงไปประคองเข้าลุกให้นำรถไปจอดข้างทางเพราะกลัวรถที่สวนมาจะทับ และผมก็ย้ายรถผมไปจอดริมฟุตบาทฝั่งขวา (โดยที่ลืมถ่ายรูปก่อน เคสแรกในชีวิตจริง ๆ) หลังจากเรียกประกันมา ก็สอบถามทั้งผมทั้งคู่กรณี ประกันชี้ว่า ยังไงเขาก็ประมาท ทั้ง ๆ ที่บอกว่าเห็นรถผมเปิดไฟเลี้ยวและหันล้อรอที่จะเลี้ยว แต่เข้าก็ยังแซงขวามา โดยอ้างว่าผมอยู่ริมซ้ายสุดและก่อนหน้าที่เขาจะขับแซงได้มีรถเก๋งแซงขวาไปก่อนแล้ว พอร้อยเวรมาก็ปักใจเชื่อฝั่งเขาโดยที่ไม่สงสัยเลยว่าทำไม คู่กรณีผมถึงเจ็บแค่เล็กน้อย เฟรมข้างไม่แตกยับ แค่พักเท้าและเกียร์ งงผุบเข้าไปด้านใน จากนั้นพอไปโรงพัก็บอกว่าผมเสียเปรียบในคดีนี้แน่นอน ผมเครียดมาก วันต่อมาก็ไปตรวจบาดแผลจุดปะทะของรถสองคัน ที่กองพิสูทหลักฐาน ตอนแรกเขาก็แนะนำให้ไกล่เกลี่ย ตัวผมเองก็ไม่อยากเสียเวลา เลยจะยอมรับจ่ายค่าซ่อมรถ แต่ทางแฟนของคู่กรณี (ที่บาดเจ็บข้อเท้าเล็กน้อย พันผ้าพันแผลมาเหมือนคนขาหัก) ก็โต้ขึ้นมาว่าแล้วค่าเสียเวลาข ฉันล่ะ ทั้งๆ ที่เขาเป็นลูกจ้างถือบัตรแข็งสีเหลืองแต่ผมเป็น เจ้าของร้านอาหาร ผมจึงให้ทางหน่วยพิสูทหลักฐานจัดการตรวจ ผลออกมาคือ แฮนรถมอไซค์ด้านซ้ายครูดกับไฟหน้ารถผม สันนิฐานว่าด้วยความตกใจจึงหักรถหนี ไปทางขวา ทำให้ป้ายทะเบียนเกี่ยวกับกันชนรถ เกิดแรงกะชากรถกลับ ทำให้รถล้มลงทางด้านขวา จุดตก อยู่ไม่ไกลกับรถผมมาก
จากกรณีนี้ ผมอยากให้ท่านทั้งหลายช่วยดูหน่อยว่าทิศทางของรูปคดีจะเป็นไปให้ทิศทางใด ขอบคุณล่วงหน้าครับ ผมเครียดมากช่วงนี้ อากาศก็ร้อนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ช่วยหน่อยนะครับ
รถเฉี่ยวชน
จากกรณีนี้ ผมอยากให้ท่านทั้งหลายช่วยดูหน่อยว่าทิศทางของรูปคดีจะเป็นไปให้ทิศทางใด ขอบคุณล่วงหน้าครับ ผมเครียดมากช่วงนี้ อากาศก็ร้อนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ช่วยหน่อยนะครับ