การตั้งนิยามความสวย จุดเริ่มต้นที่จะทำให้สาวสวยหรือหนุ่มหล่อต้องเริ่มมาจากการตอบคำถามให้ได้ว่า อะไรคือความสวย อะไรที่เรียกว่าหล่อ จริงๆแล้ว สวยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนมอง ในสายตาของแต่ละคนความสวยอาจมีความแตกต่างกัน ดาวมหาลัยอาจไม่ใช่สาวน้อยที่มีหน้าตาตรงกับนิยามความสวยเหมือนแองเจลิน่า โจลี เธอกลับกลายเป็นสาวปอปปูลาที่มีหน้าตาหน้าเอ็นดูตาตี่เล็กชั้นเดียวแต่ผิวหน้าเนียนใสไร้สิวฝ้า  หรือดาราบางคนไม่ได้เกิดมาสวยตามตำรา แต่ทำไมงานล้นมือ มีเสน่ห์หน้ามอง เป็นต้น ด้วยนิยามความสวยมีหลากหลาย ทางการแพทย์จึงได้มีการศึกษาเรื่องของความสวยของชนชาติต่างๆ และคุณเชื่อหรือไม่ว่าไม่ว่าชาติไหนๆ ทั่วโลก ผิวสีใด ฝรั่งหรือจีนหรือเกาหลี นิยามความสวยพื้นฐานไม่ได้แตกต่างกันเลยค่ะ ละพบว่า ใบหน้าที่ดูดีสวยหล่อนั้นมีพื้นฐานอยู่ที่ 3 อย่างด้วยกันคือ ความสมดุล ได้สัดส่วนที่เท่ากัน และมีองค์ประกอบที่เหมาะสม
    
     กฎแรก ได้แก่ Rule of Third (กฎสามข้อ) โดยทั่วไปนิยามความสวยกำหนดด้วยการแบ่งใบหน้าออกเท่าๆ กันสามส่วน บริเวณไรผมถึงบริเวณระหว่างคิ้ว บริเวณระหว่างคิ้วจนกระทั่งถึงบริเวณฐานจมูก และบริเวณฐานจมูกจนถึงคาง ทั้งสามส่วนต้องได้สัดส่วนเท่ากันพอดี ตามกฎของศิลปินชื่อดังก้องโลก ลีโอนาโด ดาวินชี่
    
     กฏที่สองได้แก่องค์ประกอบที่เหมาะสม ได้แก่ Rule of Five (กฎห้าข้อ) โดยแบ่งองค์ประกอบส่วนต่างๆ ของใบหน้าเป็น 5 ส่วน โดยอาศัยความยาวบริเวณดวงตาเป็นหลักสามารถแบ่งออกเป็นสัดส่วน 5 ส่วนเท่าๆ กันบนใบหน้า นอกจากนี้หญิงและชายก็มีความแตกต่างกันที่โครงสร้างของหน้า โครงหน้าผู้หญิงสวยต้องเป็นรูปไข่ ขณะที่โครงหน้าชายหล่อเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ชายต้องหน้าเหลี่ยมถึงจะดูแมนเซ็กซี่ ขณะที่หญิงต้องโค้งมนเหมือนรูปไข่คว่ำหรือรูปหัวใจ มีปลายมนแหลมอยู่ด้านล่างจึงจะดูสวยเรียวหน้ามอง ส่วนประกอบของอวัยวะต่างๆ บนใบหน้าก็ต้องได้สัดส่วน บริเวณโซนกลางของใบหน้าเป็นโซนสำคัญ จมูกต้องไม่เบี้ยวไม่คด ไม่บานไม่กางเกินไป ความยาวของช่วงดั้งต้องเท่ากับความยาวของตา ริมฝีปากบนต้องบางลงเล็กน้อยในสัดส่วน 1:1:6 เมื่อเทียบกับริมฝีปากล่างหรือความยาวของริมฝีปากบนเท่ากับริมฝีปากล่างและคางรวมกัน จึงจะสวยพอดี หน้าผากต้องแบนพองาม คิ้วโค้งได้รูป ผิวหน้าเนียนใส ไร้ฝ้า ไร้ร่องรอยจุดด่างดำ  แก้มนูนโค้ง ขากรรไกรได้สัดส่วน เป็นต้น ที่สำคัญแพทย์และคนไข้ต้องจับเข่าคุยกัน ให้สวยฉันกับสวยเธอเหมือนกัน จะได้ไม่ตบตีกันทีหลังประเภทหมอว่าสวยคนไข้ว่าไม่ อันนี้ก็สวยไม่เสร็จ ปวดหัวกันทั้งสองฝ่าย ประเภทกางแมกกาซีนแบบสวยเลียนแบบ แล้วบอกว่าหนูจะเอาหน้านี้ จมูกนี้ คางแบบนี้ อันนี้ก็ต้องขอคุยกันยาว ขอบอก เพราะหน้าคนนะไม่ใช่หน้าตุ๊กตาจะให้ออกมาเหมือนกันเด๊ะก็ยังไงอยู่ แถมจมูกชมพู่ ปากอั้มหรือตาแอ๊บ เมื่อมาอยู่บนหน้าคุณอาจไม่ได้ทำให้คุณสวยขึ้น สวยใครสวยมันค่ะ มันต้องสวยเฉพาะคุณจึงจะถูก ยีนคนละคู่ ไข่ก็คนละฝาจะให้สวยเหมือนกันโลกก็คงจะแบนและมีด้านเดียวผิดธรรมชาติค่ะ
    
     สวยกอบปี้คงไม่ใช่คำตอบสุดท้าย กระบวนท่าที่หนึ่งที่สำคัญ คือ แพทย์ต้องสวมบทศิลปินมองให้ขาดว่าจะดึงความสวยให้ปรากฏได้อย่างไร หากจะใช้กระบวนท่าสวยไร้เทียมทานแพทย์ต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ ต้องมีความรู้ว่าสวยคืออะไรและต้องมีดวงตาศิลป์ที่จะมองว่าทำให้สวยได้อย่างไร แล้วจึงประกอบกันเป็นกระบวนท่าหรือวิธีทำสวยด้วยเทคนิกที่แตกต่างกันจึงจะทำให้คุณสวยพอดีแบบธรรมชาติ คุณคงต้องไว้ใจและปล่อยให้เป็นหน้าที่แพทย์ที่คุณเลือก ก่อนวางแผนสวย อย่าลืมถามคำถามให้หมดสงสัย เอาให้หายคาใจ จะได้สวยแบบสบายๆ อย่าลืมถามถึงทางหนีที่ไล่ถ้าเกิดปัญหา ถามถึงทางเลือกอื่นๆ และงบในกระเป๋า จัดกระบวนทำให้สอดคล้องกับปัจจัยทั้งเวลา สถานการณ์ทำงานและอื่นๆ ช่วยให้คุณสวยธรรมชาติได้อย่าไร้เทียมทาน


     ต้องการออกรบให้ชนะ ก้าวแรกคือสิ่งสำคัญ ถ้าเริ่มต้นด้วยการก้าวผิดข้างอาจทำให้คุณทุกข์ถนัดถ้าอยากสวยไร้เทียมทาน สุดยอดคือสวยแบบไร้กระบวนท่าผลิกผันตามสถานการณ์นั้นคือ สวยอย่างตัวคุณแบบที่คุณควรจะเป็น ปรึกษาหาวิธีสวยไร้กระบวนท่า เข้ามาพูดคุยเรื่องความสวยความงาม สุขภาพ ได้ที่แฟนเพจของหมอค่ะ