พอดีชมพู่เป็นสาว ผมยาวเร็วมากเว่อร์ปกติเข้าร้านทำผมเป็นชีวิตจิตใจ แล้วก็เข้าทุกร้านก็นอยทุกร้านเพราะไม่เคยเจอร้านไหนถูกใจสักที
แต่ก็ต้องจำใจเพราะตัดผมเองไม่เป็น ก็เลยต้องปลง ไปร้านทำผมแล้วก็คิดซะว่าก็เหมือนไปกินข้าวตามร้านอาหาร
คือ ถ้าไม่กินก็ตาย นี้ถ้าไม่ตัดผมก็ปิดหน้าเดี๋ยวไม่สวยไม่มั่นใจกลัวหน้าป่วย จะทำอะไร หรือจะแชทหน้ากล้องก็กลัวคนอื่นจะหาว่าสายตรงกับวิญญาณ ก็เลยไปเสาะหาข้อมูลร้านทำผมชื่อดังจะได้ออกไปช๊อปปิ้งทำผมเบาๆ ตามประสาผู้หญิงลั๊ลลา
เผอิญอะไรมาดลใจก็ไม่รู้อยู่ดีๆ ก็นึกถึงร้านชลาชลจ้า ตอนแรกนึกในใจเลยว่า ร้านนี้ดังนะ แต่ดังตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ แถมตอนเด็กๆ พ่อกะแม่เราก็เคยไปตัด แต่พักหลังไม่ได้ไปละเห็นท่านบ่นว่าช่างป่วย บริการก็แย่ แล้วเราก็เป็นสาวไซเบอร์ด้วย ยิ่งเห็นกระทู้ติด่าเยอะอย่างโน้นอย่างนี้ ประมาณว่าช่างมั่นเว่อร์ ค่าตัดไม่คุ้มกับทรงผมที่ได้แล้วก็อีกหลายสิ่งมากมายก่ายกอง
ก็เลยแอบคิดว่าช่างในร้านที่มาตัดผมให้คงมีแต่คนอายุรุ่นราวคราวแม่ ทรงผมคงออกมาย้อนยุค อิงเทรนด์โบราณชัวร์ป๊าบ 5 5 5+
ก็เลยลองค้นข้อมูลไปอีกสักพักก็ไปเจอWebsite ชลาชล กับ Facebook ร้านชลาชล จ้า... เลยแอบเข้าไปตามๆ อ่านดูว่าจะมีไรบ้าง
แต่ในเฟสภาพแฟชงแฟชั่นแน่นมาก แถมยังมีกิจกรรมลูกค้าสมาชิกเรื่อยๆ
เราก็เอะใจ เอ๊ะยังไงดูจากภาพก็ยังดูดีไม่เห็นเหมือนที่พูดแถมลูกค้าก็ยังดูไม่แก่ด้วย ดูรุ่นเดียวกะเรา (เราอายุ 23 นะ)
แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะร้านทำผมที่เก๋ๆ เดี๋ยวนี้ก็มีเฟสกันหมดละ จนไปเห็นรูปช่างก็ผิดกับที่คิดไว้เลยค่ะ
เพราะช่างแต่งตัวดู Professional มาก ดูมีสไตล์มีเทสที่ดี อ๊ะ.. ก็เลยลองกลืนน้ำลายตัวเอง โทรเข้าออฟฟิศชลาชลเลยจ้า
เพราะอยากให้เขาแนะนำว่า ช่างเก่งๆ อยู่สาขาไหน จะได้ลองไปใช้บริการดู แล้ว Call Center ก็บอกว่าช่างเก่งทุกคน
แต่อยู่ที่สไตล์ว่าเราจะถูกใจคนไหน (แอบคิดในใจ โอโหคำตอบสวยมาก) แต่ก็เอาเถอะลองละกัน
ทางชลาชลก็แนะนำสาขาใกล้บ้านนะค่ะ เป็นชลาชลสาขาสยามเซ็นเตอร์
พอไปถึงที่ร้าน ก็แอบตกใจนิดหนึ่ง เพราะร้านสวยมาก ลูกค้าก็แน่น ตอนแรกแถบไม่กล้าเข้า เพราะแวบแรกที่อ่านมา
เห็นบอกเป็นร้านราคาแพง แต่ก็กัดฟันกลัวจะเสียเที่ยวก็เลยเข้าไปหาพนักงานหน้าร้าน
ก็ยิ้มให้นะดูเป็นมิตร พูดจาดีตามมาตรฐานร้านดังๆ แต่แอบนอยที่ไปตอนบ่าย 2
ทางร้านบอกช่างไม่พอ คิวช่างเต็มลูกค้าต่อคิวอีกเยอะ ให้จองไว้แล้วมาอีกที 4 โมงเย็นค๊าคุณ...
แต่พนักงานมารยาทดีมากประหนึ่งผ่านกองประกวดนางงามมา (ไม่ได้อวยนะ แต่พูดดีจริงๆ) เราก็เลยเดินเล่นช๊อปปิ้งไป
พอถึงเวลาก็มาตัด ลูกค้าก็ยังแน่นนะ แต่ตรงเวลามากค่ะ 4 โมงก็เป๊ะจริงๆ
พนักงานต้อนรับเรียก ผู้ช่วยมาเชิญเราไปขึ้นเตียงสระผมค่ะ แอบเม้าท์... น้องที่พาไปขึ้นเตียงสระผมหล่อมาก ผิวดี ดูสุขภาพดี
พูดจาดี ตอนสระเขาก็ชวนเราพูดนั้นนี้ไปเรื่อยนะ บ่องตงว่าชอบที่อัธยาศัย พอสระเสร็จก็เช็ดหัวพันผ้าแล้วก็พาไปนั่งโต๊ะ
เตรียมตัดผม แต่ตอนนี้รอนานประมาณ 10 นาทีได้ ก็เข้าใจแหละว่าลูกค้าแน่นมาก แต่ดีนะมีไอแพทให้จิ้มดูนั้นดูนี้แก้เซง
สักพักช่างก็มาค่ะ เป็นผู้ชาย (แต่น่าจะชอบผู้ชายด้วยกัน) มีไหว้สวัสดีทักทายตามมารยาท พูดจาดีมีลูกเล่นหยอกล้อ
แต่ที่ชอบที่สุด คือ แต่งตัวดีเว่อร์จริงๆ เชื่อเลยว่าเจ้ต้องแฟชั่นจ๋าแน่ๆ แล้วเค้าถามว่าเราอยากได้ทรงแบบไหน
เราก็แอบแรงนะบอกเค้าไปตรงๆว่า ชอบผมสั้น แต่อย่าฆ่าหนูด้วยกรรไกรนะค่ะพี่ เจ้แกพอได้ยินก็หัวเราะค่ะ
แล้วก็จัดให้ ตอนตัดผม ช่างตัดละเอียดมากค่ะ หน้าจริงจังแต่ยิ้มดูมีความสุข แถมชวนเราคุยตลอดด้วย
ถามตลอดเลยว่า โอเคไหมดูเทคแคร์เราสุดฤทธิ์สุดเดช
พอตัดเสร็จผลงานที่ออกมาอลังมาก เราชอบมาก บอกได้เลยว่าถูกใจจริงๆ แบบว่าราคาแพงนะ แต่ก็โอเคเลย
ก็เลยขอบคุณเขา แต่ใจก็อยากทำสีโทนแดงแต่กลัวจะดูแรงเกิน ก็เลยถามช่าง ช่างก็แนะนำดีนะว่า
ลุคเราและสไตล์ของเราทำได้ แต่ต้องใช้การผสมสีที่ดูซอฟท์ ไม่แรงจนเกินไป คล้ายๆ ผู้หญิงแอบเปรี้ยว
วินาทีที่ได้ยินคำนี้ ก็เชื่อสนิทเลยค่ะว่า ชลาชลเขาเริ่ดเลอสมคำล่ำลือมาก นี้ถ้าไม่ได้ตัดผมด้วยกัน คงนึกว่าหมอดู
แบบว่าฝีมือดี ใจก็ตรงกัน พนักงานก็พูดจาดีมีมารยาท ไม่เห็นเหมือนกับที่อ่านๆ มาเลย
นี้ถ้าตอนแรกไม่ตัดสินใจมาลองกับตัว คงต้องตะลอนไปตัดอีกหลายทีแน่เลย
เลยอยากบอกเพื่อนๆ นะค่ะ นี้ความคิดเห็นกับประสบการณ์ส่วนตัวที่ไปเจอมาเอง แต่สำหรับคนอื่นเราไม่รู้นะ อิอิ