ขอพินที่ระบาย - เครียดค่ะ อายุจะ 18 แล้ว แต่แม่เอาไม้เรียวมาขู่

สวัสดีค่ะ เราเกิดปี 38 ค่ะ  ปีนี้อยู่ ม.6 แล้ว กำลังเตรียมตัวแอดมิสชั่นค่ะ

พ่อกับแม่เคยตีเราสมัยเด็ก ๆ ค่ะ  เลิกตีไปตั้งแต่ขึ้นประถมมาซักพัก  เราเป็นคนที่มีอิสระทางความคิดสูงค่ะ  คือเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยตัวเองได้  คือจริง ๆ ก็เป็นสาวมั่นคนหนึ่งอะค่ะ  เรื่องการเรียนดีมาตลอดค่ะ  พ่อกับแม่ภูมิใจ  ไม่ทำตัวเหลวไหล  เป็นคนร่าเริงเฮฮา  มีเพื่อนเยอะค่ะ  

ทีนี้ตั้งแต่เราโตมาจนรู้ความเราต่อต้านระบบการตีของพ่อแม่มาก ๆ  เราค่อนข้างชอบไอเดียการทำโทษเด็กด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่ตีค่ะ  

เรารู้สึกว่าการตีหากจำเป็นก็ควรใช้เฉพาะกับเด็กที่อยู่ในวัยพึ่งพาสัญชาตญาณดิบ  คือยังไม่สามารถพูดคุยกันรุ้เรื่องด้วยตรรกะเหตุผล  

ทีนี้เราเป็นคนไม่พับผ้าห่มค่ะ  เรื่องมันเกิดจากเมื่อก่อนตื่นสายรีบไปเรียนรีบไปเรียนพิเศษ  แล้วก็ติดมาจนโตค่ะ (มีห้องนอนของตัวเอง)

แล้วอยู่มาวันหนึ่งคุณแม่เดินเข้ามาในห้องแล้วบอกว่าถ้าไม่พับผ้าห่มจะตีแล้ว  แล้วก็เดินไปเอาไม้เรียวขึ้นมาขู่เราแล้วก็เก็บไว้ในห้องค่ะ  ตอนนั้นเรายิ้มแย้มอยู่ดี ๆ ยิ้มก็หุบทันทีเลยค่ะ  เราเป็นคนที่ซื่อตรงมากจนไม่สามารถเก็บอารมณ์ทางสีหน้าได้ค่ะ  คือถ้าไม่มุ่งมั่นเก็บอารมณ์จริง ๆ มันออกหมดเลย  แล้วก็เดิมทีครอบครัวเราน่ารักค่ะ  คุณพ่อคุณแม่อินเทรนด์  แต่มาวันนี้เราขำไม่ออก  ยิ้มไม่ออกเลย

จากที่ปกติอยู่บ้านจะร่าเริงพูดไม่หยุด  เราเริ่มพูดน้อยลงค่ะ  ทุกอย่างมันเป็นไปเองโดยไม่ได้ตั้งใจจะประชดอะไร  แต่มันเป็นความรู้สึกเบื่อหน่าย  วันแรกเราก็ไม่อะไรเท่าไร  พยายามคิดเล่น  ๆ ว่าพ่อแม่คงเล่นขำ ๆ  ปรากฎว่าเช้าวันต่อมาแม่เข้ามาตรวจจริง ๆ ค่ะ  ตอนนั้นเรายังไม่ได้พับผ้าห่ม  เราก็พับต่อหน้าแม่  แม่ก็ขู่ว่าจะตีเราค่ะ  เราก็ยิ้ม ๆ อยู่ก็หุบทันทีเหมือนเดิม  เช้าวันต่อมาเราพับผ้าห่มเรียบร้อย  แม่เดินเข้ามาตรวจหน้าเคร่ง ๆ เหมือนเดิมค่ะ  ผ้าห่มพับแล้วแต่แม่ก็พูดประมาณว่า  นึกว่าไม่พับ  ไม่พับจะโดนไม้เรียว  คุณพ่อก็แลสนับสนุนค่ะ  คอยแซวเราตลอด...ไม้เรียวนะ ไม้เรียว โดนดีแน่ ประมาณนี้ค่ะ  

ซึ่งวันนั้นเราก็ยิ้มน้อยลง  อยู่ ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิด  ต่อต้านไม่อยากคุยกับพ่อแม่  รู้สึกแย่ ๆ แล้วก็ไม่ค่อยพูดค่ะ  
(เราเป็นคนเครียดง่ายค่ะ  เคยเครียดหนัก ๆ เรื่องสังคมที่โรงเรียนตอนเด็ก ๆ จนฟุ้งซ่านสติกระเจิง  แต่ไม่ถึงขั้นพบจิตแพทย์ค่ะ)      

เช้าวันนี้เราสาย  เรารีบวิ่งลงจากบ้าน  คุณพ่อคุณแม่รออยู่ที่หน้าบ้านแล้ว  พอเราวิ่งลงมาคุณแม่ก็ถามเสียงเข้ม ๆ ว่า  พับผ้าห่มรึยัง  ไหนขึ้นไปตรวจซิ  เราลืมก็เลยรีบวิ่งขึ้นไปข้างบน  พ่อกับแม่ก็พูดไล่หลังมาตลอดว่าโดนไม้แน่ โดนไม้เรียวแน่  พอเราพับเสร็จคราวนี้เราเงียบไปเลยค่ะ  รู้สึกพูดไม่ออก  รู้สึกแย่ขีดสุดมาก  จนตอนนี้เราแทบไม่พูดเลย  เรายิ้มไม่ออก  ไม่อยากมองหน้าใครเลย  เราอยากตื่นไปเรียน  ไปอยู่ที่เรียนพิเศษ  อยู่กับพวกเพื่อนแล้วเรารุ้สึกดี  ใจเย็นลงมาก  แต่พอกลับบ้าน  มันไม่อยากทำอะไรเลยค่ะ  ได้แต่นั่งมองผ้าห่ม  แล้วก็มองไม้เรียวในห้องแม่  ใจมันหดหู่ไปหมด  เหมือนจะร้องไห้  พอปรึกษาเพื่อนเพื่อนก็บอกเรื่องแค่นี้เอง  ไม่ชอบก็บอกพ่อแม่ไปสิ  แต่เรารุ้ว่าถ้าบอกไปทะเลาะกันแน่่นอน  พ่อแม่เราเป็นคนไม่ยอมใครทั้งคู่ยิ่งให้ลูกมาสั่งสอนนี่รับไม่ได้แน่ ๆ

คือ  เราเรียนอยู่ห้องนักเรียนห้องเรียนพิเศษในโรงเรียนชื่อดังของภาคตะวันออกค่ะ  และเพื่อนเราในห้องทั้งสามสิบคน  ตั้งแต่โตมาไม่มีใครถูกพ่อแม่ตีเลย  เราไม่คิดว่าการตีจะทำให้เด็กเรียนเก่งหรือฉลาดขึ้นค่ะ  เราเชื่อว่าที่ทุกวันนี้สมองด้านสร้างไอเดียหรือความกล้าแสดงความคิดเห็นของเด็กไทยบอดเพราะการตีค่ะ  เช่น  ตอบไม่ได้โดนตี  ท่องไม่ได้โดนตี  
ซึ่งเพื่อนเราทุกคนที่หัวดีไม่เคยมีใครโดนตีเลยตั้งแต่โตมา  เรารู้สึกว่าคนอายุเท่าเราที่โดนตีอยู่ทุกวันนี้ส่วนมากคือพ่อแม่ใช้อารมณ์ตีจริง ๆ หรือไม่ก็เลวร้ายจริง ๆ เพราะวัยนี้ทุกคนต่างคุยกันด้วยเหตุผลได้แล้วแน่ ๆ แหละค่ะ  ซึ่งคนที่ยังโดนตีอยู่มีแต่เด็กมีปัญหาทั้งนั้น(จากที่เห็นเฉพาะในโรงเรียนเรานะคะ) แล้วเราก็ไม่เคยคิดเลยว่าในที่สุดมันจะเกิดกับตัวเอง

เราเห็นมาตลอดที่พ่อกับแม่ยกไม้เรียวขู่สุนัขที่เลี้ยงในบ้าน  ว่าอยากโดนใช่มั้ย  อยากโดนใช่มั้ย  เดี๋ยวเหอะ  เราไม่เคยคิดเลยว่าสุดท้ายพวกท่านจะใช้คำพูดนั้นกับเรา  ส่วนไม้เรียวที่เอามาขู่เรามันก็ดูคุ้นตาเหลือเกิน

เราอดไม่ได้ค่ะที่จะคิดว่า  เฮ้ย...นี่เราเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ  เราไปถึงขั้นนั้นแล้วเหรอ  เราคิดมากฟุ้งซ่านไปหมดจนอยู่บ้านอ่านหนังสือไม่ได้เลยค่ะ  

พักนี้ไม่ค่อยหิวข้าว  กินได้นิดเดียว  ไม่รุ้เหมือนกันว่าเกี่ยวกับความเครียดรึเปล่า  เราเครียดมากจริง ๆ เพราะงั้นขอยืมพื้นที่ระบายหน่อยนะคะ  ขอบคุณค่ะ

++อัพเดท++

ห้องนอนของเราสะอาดดีค่ะ  เพิ่งรีโรเวทห้องไปหมาด ๆ ปกติจะรกเพราะหนังสือล้นตู้เลยต้องตั้ง ๆ ไว้ที่พื้น  ตอนนี้ซื้อตู้หนังสือสูง ๆ มาใหม่จากอีเกีย  แล้วก็ตู้หนังสือเล็กอีกตู้หนึ่ง ห้องสะอาดดีค่ะ

เหลือแต่เตียง  ที่ไม่ค่อยพับผ้าห่ม  คุณแม่ก็เลยหันมาใช้วิธีนี้  ไม่ถงไม่ถามถึงสุขภาพกันซักคำ  555+
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่