มายาตวัน ตอนที่ 9 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Drama/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046043
เวลาต่อเนื่องมา สาระวารียืนกอดอกจ้องหน้าษมาที่นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้สยามสาร ษมายิ้มกวนๆ บอก
“ผมรับปากพี่สาวคุณแล้วว่าจะพาคุณไปส่งบ้าน”
“ละเมอรึเปล่า รับปากไปตั้งแต่วันไหนแล้ว”
ษมาหน้าตาย
“อ้าว เหรอ คนแก่ก็งี้แหละ”
สาระวารีค้อนใส่เจ็บใจที่เจอลูกกระล่อน มัทนาเดินสะพายเป้ออกมาจากลิฟท์
“อ้าว มัท ไปทำข่าวเหรอ”
มัทนายิ้มขี้เล่น
“บอกอให้บอกว่างั้น”
สาระวารีรู้ทัน หมั่นไส้
“ไปไหนก็ไปเลยย่ะ”
ษมารีบลุก
“อ้าวคุณ จะไม่แนะนำเพื่อนคุณให้ผมรู้จักมั่งเหรอ”
มัทนายิ้มๆ เดินปรี่เข้ามาหาพร้อมยกมือไหว้ษมา เขารับไหว้
สาระวารีแขวะเพื่อน
“ปรี่มาเลยนะยะ...นี่มัทนา”
สาระวารีกอดคอพูดพร้อมล็อกแรงๆ แกล้งก่อนปล่อย
“เพื่อนและน้องรักของฉันเองค่ะ”
ษมายิ้มให้
“นี่คุณษมา เจ้าของเกาะยานกที่พี่ไปทำข่าวมาไงจ๊ะ”
มัทนายิ้มกรุ้มกริ่ม
“ดีใจจังได้เจอตัวจริงซะที พี่วารีเคยเล่าเรื่องคุณให้ฟังบ่อยๆ”
สาระวารีสวนทันที ก่อนทำตาดุใส่มัทนา
“ไม่บ่อยหรอกจ้ะ”
ษมายิ้มบอก
“หวังว่าที่วารีเล่า คงมีเรื่องดีๆ ของผมปนอยู่มั่งนะครับ”
มัทนาจะอ้าปากพูด สาระวารีรีบขัด
“ถ้าไม่อยากให้ทั้งกองบอกอรู้ว่า เธอได้อภิสิทธิ์โดดงาน ก็รีบไปให้พ้นๆ เลย”
มัทนาจ๋อย ยิ้มแหยๆให้ษมา
“คงมีโอกาสได้เจอกันใหม่นะคะ”
สาระวารีสวนปิดทาง
“ไม่มีหรอกจ้ะ เดี๋ยวก็กลับเกาะไปแล้ว”
มัทนายกมือไหว้ษมา เขารับไหว้ยิ้มให้
“ไปได้แล้ว”
สาระวารีจับตัวมัทนาหันกลับออกไป มัทนาเดินออกไป ษมายิ้มบอก
“เพื่อนคุณนี่น่ารักดีเหมือนกันนะ”
ษมามองตามมัทนาออกไป สาระวารีหางตาเหล่มองษมาเล็กน้อย
ผู้ชายสองคนซ้อนมอเตอร์ไซค์จอดซุ่มอยู่หน้าตึกสยามสาร ทำเป็นโทรศัพท์ ค้นหาเอกสารไปมา รอจังหวะจนมัทนาเดินออกมาที่หน้าตึก คนซ้อนสะกิดคนขับ..
คนขับมอเตอร์ไซค์เริ่มขับรถวนมาให้ได้จังหวะ คนซ้อนท้ายล้วงปืนที่เหน็บไว้ด้านในแจ็คเก็ตออกมากระชับในมือ จับตามองไปที่มัทนาอย่างไม่ละสายตา
ษมามองตามมัทนาออกไป ขณะที่สาระวารีพูดของเธอไป
“คุณจะรออยู่ที่นี่ทำไมให้เสียเวลา กลับไปพักที่โรงแรม ทำงานของคุณดีกว่า”
ษมามีสีหน้าตกใจบอก
“หมอบลง”
ษมาพุ่งตัวออกไปอย่างเร็วทันที สาระวารีตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น รีบตามษมาออกไป
คนร้ายวนรถมอเตอร์ไซค์มาในจังหวะที่ยิงแล้วชิ่งหนีได้ทัน คนร้าย2 เล็งปืนมาทางมัทนา แต่การพุ่งตัวของษมาออกมาพร้อมตะโกนทำให้เสียจังหวะ
ษมาตะโกนลั่น ซ้ำอีก
“หมอบลง”
มัทนาตกใจมาก หน้าตางงจัด คนร้าย2 คน แม้จะเสียจังหวะแต่ต้องตัดสินใจยิง ษมากระโดดเข้ารวบตัวมัทนาแล้วล้มไปด้วยกันพร้อมเสียงปืนดังสนั่นลั่นตึก คนร้ายซิ่งมอเตอร์ไซค์หนีออกไปโดยมีสาระวารีวิ่งไล่กวด
“อย่าหนีนะ”
สาระวารีวิ่งกวดตาม พยายามมองทะเบียนรถ แต่ป้ายทะเบียนถูกถุงดำคลุมผูกไว้อย่างดี...มอเตอร์ไซค์ซิ่งตะบึงหนีไปอย่างเร็ว เธอหมดแรงจะวิ่งกวด หยุดพักเหนื่อย ก่อนจะปั้นหน้ายักษ์ หันกลับไปจ้องรปภ.หน้าขาวที่ยืนถือกระบองมองมาทางเธอ
สาระวารีเดินดิ่งเข้าไปวีนโวยวายใส่รปภ.
“ยืนมองอยู่ทำไม ทำไมไม่จับมัน เค้าจ้างคุณมารักษาความปลอดภัยไม่ใช่เหรอะ”
รปภ.ยิ้มแหย
“มันมีปืนนะคุณ ผมมีแค่กระบองท่อนเดียว ขืนเข้าไปขวาง มันก็ยิงผมตายสิครับ”
สาระวารีโมโห หงุดหงิด
“ก็เอากระบองเนี่ยแหละปาหัวกบาลมัน ไม่ใช่มายืนบื้ออยู่ยังงี้”
ษมาตะโกนมา
“วารี มานี่เร็วเข้า”
สาระวารีค่อยได้สติรีบวิ่งกลับไปหาษมา ตกใจเผลอร้องออกมา ใจหายที่เห็นษมามีเลือดเปื้อนเสื้อแดงฉาน เขาประคองมัทนาที่ไม่ได้สติอยู่ในอ้อมแขน
“คุณถูกยิงเหรอ”
“ผมเปล่า เพื่อนคุณตะหาก”
สาระวารีตกใจมาก จับเนื้อตัวเพื่อน น้ำตารื้นด้วยความเป็นห่วง
“มัท”
“แต่ไม่ได้ถูกยิงตรงๆหรอกนะ กระสุนโดนพื้นก่อน รีบไปโรงพยาบาลเถอะ...”
ษมาอุ้มมัทนาไปที่รถ สาระวารีจะรีบตามไปช่วย
ไชยวัฒน์และเหล่าพนักงานออกมาจากบริษัทหลังเห็นทุกอย่างสงบ
“วารี มีเรื่องอะไร”
สาระวารีตอบพร้อมรีบเดินตามษมาไป
“มัทถูกยิงค่ะ บ.ก.ช่วยแจ้งความทีนะคะ วารีพามัทไปโรงพยาบาลก่อน”
สาระวารีรีบวิ่งนำษมาไปช่วยเปิดประตูรถ รปภ.รีบวิ่งเข้ามารายงานเรื่องราวทั้งหมดให้ไชยวัฒน์ฟัง
สาระวารีเข้ามานั่งนำในรถอีกด้านแล้วช่วยประคองมัทนาที่ษมาอุ้มเข้ามาในรถมานอนพิงตน
ษมาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา
“ผมยังไม่ได้ใช้ กดแถวๆ แผลไว้ก่อน”
สาระวารีรับผ้าเช็ดหน้ามากดที่หัวมัทนาทันที ษมาตกใจรีบห้าม
“โอ๊ย เบาๆ สิ ครับ ไม่ต้องแรงมากแค่ห้ามเลือด”
สาระวารีหน้าแหยบอก
“ขอโทษนะมัท”
ษมารีบวิ่งไปขึ้นรถขับออกไป สาระวารีอุดแผลห้ามเลือดให้มัทนา สีหน้าร้อนใจเป็นห่วงมาก
ผ่านเวลาเล็กน้อย ษมาขับรถไปอย่างร้อนใจ สาระวารีกดแผลให้มัทนา และช่วยดูทางไปด้วย
“เลี้ยวขวาแยกหน้าใช่มั้ยครับ”
“ใช่ค่ะ เลี้ยวแล้วชิดซ้ายเลยนะคะ”
มัทนาได้สติตื่นขึ้นมา
มัทนางง
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่วารี โอ๊ย”
สาระวารีสีหน้าเป็นห่วงมาก น้ำตารื้นๆ ด้วยความเป็นห่วง
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนะ มัทถูกยิง เรากำลังจะไปโรงพยาบาลกัน รู้สึกยังไงมั่งมัท เจ็บมากมั้ย”
“มันชาๆ น่ะค่ะ”
“คุณไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ แผลไม่ใหญ่ กระสุนไม่ได้เข้าตรงๆ แค่แฉลบสะท้อนขึ้นมา”
สาระวารีร้อนใจเป็นห่วง
“แต่เลือดออกมากเลยนะ คุณขับเร็วๆ เถอะ”
ไฟเขียวกำลังจะหมด ษมารอไม่ไหว เปิดไฟฉุกเฉินแล้วตัดสินใจขับรถเลี้ยวฝ่าหัวไฟแดงไปทันที
ษมาอุ้มมัทนาฝ่าผู้คนไปที่ห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาล พร้อมพูดบอกขอทาง
“ขอทางด้วยครับ คนถูกยิงครับ”
ผู้คนที่หนาตาหน้าห้องฉุกเฉินรีบหลีกทางให้ สาระวารีเดินตามมาติดๆ ชะเง้อมองตามเป็นห่วง
พยาบาลตามประกบษมาไป
“ขอทางด้วยครับ ขอบคุณครับ”
ษมาช่วยมัทนาสุดความสามารถเหมือนญาติของตัวเอง พาเข้าไปในห้องฉุกเฉินจนได้เสื้อผ้าเปื้อนเลือดก็ไม่ได้ใส่ใจทั้งที่เป็นคนติดหล่อเนี๊ยบ
สาระวารีหยุดเดินได้แต่มองตามไปอย่างหมดห่วงที่มัทนาถึงมือหมอแล้ว เธอได้แต่ยิ้มชื่นชมในความมีน้ำใจของษมาต่อเพื่อนรักของเธอ
บริเวณล็อบบี้โรงพยาบาล สาระวารีพยายามโทรศัพท์มือถือหามีคณา แต่ติดต่อไม่ได้ เธอบ่นอบ่างหงุดหงิด
“ลืมทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่ไหนอีกล่ะป้าแว่น”
สาระวารีกดตัดสายพร้อมถอนใจพรวดออกมา ษมาเดินออกมามองหาสาระวารีๆ แล้วรีบลุกไปหา
“มัทเป็นยังไงมั่งคะ”
“โอเคแล้ว คุณหมอเย็บแผลให้แล้ว น่าจะซักสิบเข็ม”
สาระวารีหน้าแหย เจ็บแทน
“ต้องโกนผมหมดเลยมั้ยคะ”
“หนักกว่านี้ยังไม่ต้องโกนเลยคุณ ปล่อยผมลงมาปิดก็มองไม่เห็นแล้ว”
สาระวารีช้อนตามองษมาอย่างซึ้งใจ
“ค่อยยังชั่ว...ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยมัทแบบทุ่มสุดตัวขนาดนี้”
ษมายิ้มบอก
“น้องรักคุณนี่ครับ แต่ถึงจะเป็นคนอื่น ถ้าผมอยู่ในเหตุการณ์ผมก็ช่วยอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ทุ่มสุดตัวขนาดนี้”
ษมาส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้ สาระวารีเหยียดปากใส่ ตัดบทเปลี่ยนเรื่อง
“ตกลงมัทได้ห้องพักรึยังครับ”
“มัทไม่ยอมนอน จะกลับบ้านให้ได้ ตอนนี้ไม่เจ็บเพราะได้ยาแก้ปวดเข้าไป เดี๋ยวยาหมดฤทธิ์จะรู้สึก เพื่อนกันดื้อเหมือนกันไม่มีผิด”
“ผู้หญิงดื้อนี่แหละมีเสน่ห์”
สาระวารีค้อนใส่แล้วรีบเดินไปหามัทนาที่ห้องฉุกเฉิน ษมายิ้มขำๆ แล้วเดินตามสาระวารีไป
(มีต่อ)
(เจ้าพ่อษมา + สาระวารี) มาอ่านเรื่องย่อในมายาตวันกันค่ะ...
http://www.manager.co.th/Drama/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046043
เวลาต่อเนื่องมา สาระวารียืนกอดอกจ้องหน้าษมาที่นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้สยามสาร ษมายิ้มกวนๆ บอก
“ผมรับปากพี่สาวคุณแล้วว่าจะพาคุณไปส่งบ้าน”
“ละเมอรึเปล่า รับปากไปตั้งแต่วันไหนแล้ว”
ษมาหน้าตาย
“อ้าว เหรอ คนแก่ก็งี้แหละ”
สาระวารีค้อนใส่เจ็บใจที่เจอลูกกระล่อน มัทนาเดินสะพายเป้ออกมาจากลิฟท์
“อ้าว มัท ไปทำข่าวเหรอ”
มัทนายิ้มขี้เล่น
“บอกอให้บอกว่างั้น”
สาระวารีรู้ทัน หมั่นไส้
“ไปไหนก็ไปเลยย่ะ”
ษมารีบลุก
“อ้าวคุณ จะไม่แนะนำเพื่อนคุณให้ผมรู้จักมั่งเหรอ”
มัทนายิ้มๆ เดินปรี่เข้ามาหาพร้อมยกมือไหว้ษมา เขารับไหว้
สาระวารีแขวะเพื่อน
“ปรี่มาเลยนะยะ...นี่มัทนา”
สาระวารีกอดคอพูดพร้อมล็อกแรงๆ แกล้งก่อนปล่อย
“เพื่อนและน้องรักของฉันเองค่ะ”
ษมายิ้มให้
“นี่คุณษมา เจ้าของเกาะยานกที่พี่ไปทำข่าวมาไงจ๊ะ”
มัทนายิ้มกรุ้มกริ่ม
“ดีใจจังได้เจอตัวจริงซะที พี่วารีเคยเล่าเรื่องคุณให้ฟังบ่อยๆ”
สาระวารีสวนทันที ก่อนทำตาดุใส่มัทนา
“ไม่บ่อยหรอกจ้ะ”
ษมายิ้มบอก
“หวังว่าที่วารีเล่า คงมีเรื่องดีๆ ของผมปนอยู่มั่งนะครับ”
มัทนาจะอ้าปากพูด สาระวารีรีบขัด
“ถ้าไม่อยากให้ทั้งกองบอกอรู้ว่า เธอได้อภิสิทธิ์โดดงาน ก็รีบไปให้พ้นๆ เลย”
มัทนาจ๋อย ยิ้มแหยๆให้ษมา
“คงมีโอกาสได้เจอกันใหม่นะคะ”
สาระวารีสวนปิดทาง
“ไม่มีหรอกจ้ะ เดี๋ยวก็กลับเกาะไปแล้ว”
มัทนายกมือไหว้ษมา เขารับไหว้ยิ้มให้
“ไปได้แล้ว”
สาระวารีจับตัวมัทนาหันกลับออกไป มัทนาเดินออกไป ษมายิ้มบอก
“เพื่อนคุณนี่น่ารักดีเหมือนกันนะ”
ษมามองตามมัทนาออกไป สาระวารีหางตาเหล่มองษมาเล็กน้อย
ผู้ชายสองคนซ้อนมอเตอร์ไซค์จอดซุ่มอยู่หน้าตึกสยามสาร ทำเป็นโทรศัพท์ ค้นหาเอกสารไปมา รอจังหวะจนมัทนาเดินออกมาที่หน้าตึก คนซ้อนสะกิดคนขับ..
คนขับมอเตอร์ไซค์เริ่มขับรถวนมาให้ได้จังหวะ คนซ้อนท้ายล้วงปืนที่เหน็บไว้ด้านในแจ็คเก็ตออกมากระชับในมือ จับตามองไปที่มัทนาอย่างไม่ละสายตา
ษมามองตามมัทนาออกไป ขณะที่สาระวารีพูดของเธอไป
“คุณจะรออยู่ที่นี่ทำไมให้เสียเวลา กลับไปพักที่โรงแรม ทำงานของคุณดีกว่า”
ษมามีสีหน้าตกใจบอก
“หมอบลง”
ษมาพุ่งตัวออกไปอย่างเร็วทันที สาระวารีตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น รีบตามษมาออกไป
คนร้ายวนรถมอเตอร์ไซค์มาในจังหวะที่ยิงแล้วชิ่งหนีได้ทัน คนร้าย2 เล็งปืนมาทางมัทนา แต่การพุ่งตัวของษมาออกมาพร้อมตะโกนทำให้เสียจังหวะ
ษมาตะโกนลั่น ซ้ำอีก
“หมอบลง”
มัทนาตกใจมาก หน้าตางงจัด คนร้าย2 คน แม้จะเสียจังหวะแต่ต้องตัดสินใจยิง ษมากระโดดเข้ารวบตัวมัทนาแล้วล้มไปด้วยกันพร้อมเสียงปืนดังสนั่นลั่นตึก คนร้ายซิ่งมอเตอร์ไซค์หนีออกไปโดยมีสาระวารีวิ่งไล่กวด
“อย่าหนีนะ”
สาระวารีวิ่งกวดตาม พยายามมองทะเบียนรถ แต่ป้ายทะเบียนถูกถุงดำคลุมผูกไว้อย่างดี...มอเตอร์ไซค์ซิ่งตะบึงหนีไปอย่างเร็ว เธอหมดแรงจะวิ่งกวด หยุดพักเหนื่อย ก่อนจะปั้นหน้ายักษ์ หันกลับไปจ้องรปภ.หน้าขาวที่ยืนถือกระบองมองมาทางเธอ
สาระวารีเดินดิ่งเข้าไปวีนโวยวายใส่รปภ.
“ยืนมองอยู่ทำไม ทำไมไม่จับมัน เค้าจ้างคุณมารักษาความปลอดภัยไม่ใช่เหรอะ”
รปภ.ยิ้มแหย
“มันมีปืนนะคุณ ผมมีแค่กระบองท่อนเดียว ขืนเข้าไปขวาง มันก็ยิงผมตายสิครับ”
สาระวารีโมโห หงุดหงิด
“ก็เอากระบองเนี่ยแหละปาหัวกบาลมัน ไม่ใช่มายืนบื้ออยู่ยังงี้”
ษมาตะโกนมา
“วารี มานี่เร็วเข้า”
สาระวารีค่อยได้สติรีบวิ่งกลับไปหาษมา ตกใจเผลอร้องออกมา ใจหายที่เห็นษมามีเลือดเปื้อนเสื้อแดงฉาน เขาประคองมัทนาที่ไม่ได้สติอยู่ในอ้อมแขน
“คุณถูกยิงเหรอ”
“ผมเปล่า เพื่อนคุณตะหาก”
สาระวารีตกใจมาก จับเนื้อตัวเพื่อน น้ำตารื้นด้วยความเป็นห่วง
“มัท”
“แต่ไม่ได้ถูกยิงตรงๆหรอกนะ กระสุนโดนพื้นก่อน รีบไปโรงพยาบาลเถอะ...”
ษมาอุ้มมัทนาไปที่รถ สาระวารีจะรีบตามไปช่วย
ไชยวัฒน์และเหล่าพนักงานออกมาจากบริษัทหลังเห็นทุกอย่างสงบ
“วารี มีเรื่องอะไร”
สาระวารีตอบพร้อมรีบเดินตามษมาไป
“มัทถูกยิงค่ะ บ.ก.ช่วยแจ้งความทีนะคะ วารีพามัทไปโรงพยาบาลก่อน”
สาระวารีรีบวิ่งนำษมาไปช่วยเปิดประตูรถ รปภ.รีบวิ่งเข้ามารายงานเรื่องราวทั้งหมดให้ไชยวัฒน์ฟัง
สาระวารีเข้ามานั่งนำในรถอีกด้านแล้วช่วยประคองมัทนาที่ษมาอุ้มเข้ามาในรถมานอนพิงตน
ษมาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา
“ผมยังไม่ได้ใช้ กดแถวๆ แผลไว้ก่อน”
สาระวารีรับผ้าเช็ดหน้ามากดที่หัวมัทนาทันที ษมาตกใจรีบห้าม
“โอ๊ย เบาๆ สิ ครับ ไม่ต้องแรงมากแค่ห้ามเลือด”
สาระวารีหน้าแหยบอก
“ขอโทษนะมัท”
ษมารีบวิ่งไปขึ้นรถขับออกไป สาระวารีอุดแผลห้ามเลือดให้มัทนา สีหน้าร้อนใจเป็นห่วงมาก
ผ่านเวลาเล็กน้อย ษมาขับรถไปอย่างร้อนใจ สาระวารีกดแผลให้มัทนา และช่วยดูทางไปด้วย
“เลี้ยวขวาแยกหน้าใช่มั้ยครับ”
“ใช่ค่ะ เลี้ยวแล้วชิดซ้ายเลยนะคะ”
มัทนาได้สติตื่นขึ้นมา
มัทนางง
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่วารี โอ๊ย”
สาระวารีสีหน้าเป็นห่วงมาก น้ำตารื้นๆ ด้วยความเป็นห่วง
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนะ มัทถูกยิง เรากำลังจะไปโรงพยาบาลกัน รู้สึกยังไงมั่งมัท เจ็บมากมั้ย”
“มันชาๆ น่ะค่ะ”
“คุณไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ แผลไม่ใหญ่ กระสุนไม่ได้เข้าตรงๆ แค่แฉลบสะท้อนขึ้นมา”
สาระวารีร้อนใจเป็นห่วง
“แต่เลือดออกมากเลยนะ คุณขับเร็วๆ เถอะ”
ไฟเขียวกำลังจะหมด ษมารอไม่ไหว เปิดไฟฉุกเฉินแล้วตัดสินใจขับรถเลี้ยวฝ่าหัวไฟแดงไปทันที
ษมาอุ้มมัทนาฝ่าผู้คนไปที่ห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาล พร้อมพูดบอกขอทาง
“ขอทางด้วยครับ คนถูกยิงครับ”
ผู้คนที่หนาตาหน้าห้องฉุกเฉินรีบหลีกทางให้ สาระวารีเดินตามมาติดๆ ชะเง้อมองตามเป็นห่วง
พยาบาลตามประกบษมาไป
“ขอทางด้วยครับ ขอบคุณครับ”
ษมาช่วยมัทนาสุดความสามารถเหมือนญาติของตัวเอง พาเข้าไปในห้องฉุกเฉินจนได้เสื้อผ้าเปื้อนเลือดก็ไม่ได้ใส่ใจทั้งที่เป็นคนติดหล่อเนี๊ยบ
สาระวารีหยุดเดินได้แต่มองตามไปอย่างหมดห่วงที่มัทนาถึงมือหมอแล้ว เธอได้แต่ยิ้มชื่นชมในความมีน้ำใจของษมาต่อเพื่อนรักของเธอ
บริเวณล็อบบี้โรงพยาบาล สาระวารีพยายามโทรศัพท์มือถือหามีคณา แต่ติดต่อไม่ได้ เธอบ่นอบ่างหงุดหงิด
“ลืมทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่ไหนอีกล่ะป้าแว่น”
สาระวารีกดตัดสายพร้อมถอนใจพรวดออกมา ษมาเดินออกมามองหาสาระวารีๆ แล้วรีบลุกไปหา
“มัทเป็นยังไงมั่งคะ”
“โอเคแล้ว คุณหมอเย็บแผลให้แล้ว น่าจะซักสิบเข็ม”
สาระวารีหน้าแหย เจ็บแทน
“ต้องโกนผมหมดเลยมั้ยคะ”
“หนักกว่านี้ยังไม่ต้องโกนเลยคุณ ปล่อยผมลงมาปิดก็มองไม่เห็นแล้ว”
สาระวารีช้อนตามองษมาอย่างซึ้งใจ
“ค่อยยังชั่ว...ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยมัทแบบทุ่มสุดตัวขนาดนี้”
ษมายิ้มบอก
“น้องรักคุณนี่ครับ แต่ถึงจะเป็นคนอื่น ถ้าผมอยู่ในเหตุการณ์ผมก็ช่วยอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ทุ่มสุดตัวขนาดนี้”
ษมาส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้ สาระวารีเหยียดปากใส่ ตัดบทเปลี่ยนเรื่อง
“ตกลงมัทได้ห้องพักรึยังครับ”
“มัทไม่ยอมนอน จะกลับบ้านให้ได้ ตอนนี้ไม่เจ็บเพราะได้ยาแก้ปวดเข้าไป เดี๋ยวยาหมดฤทธิ์จะรู้สึก เพื่อนกันดื้อเหมือนกันไม่มีผิด”
“ผู้หญิงดื้อนี่แหละมีเสน่ห์”
สาระวารีค้อนใส่แล้วรีบเดินไปหามัทนาที่ห้องฉุกเฉิน ษมายิ้มขำๆ แล้วเดินตามสาระวารีไป
(มีต่อ)