มิสเตอร์กวง (ตอนที่หนึ่งเกริ่นนำ)
http://ppantip.com/topic/30314575
เอถ ปสฺสถิมํ โลกํ จิตฺตํ ราชรถูปมํ
ยตฺถ พาลา วิสีทนฺติ นตฺถิ สงฺโค วิชานตํ
สูทั้งหลาย จงมาดูโลกนี้อันตระการดุจราชรถ ที่คนเขลาหมกอยู่แต่ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่
โลกวัคค ธัมมบท
____________________________________________________________________________________________________
“Hello มิสเตอร์กวง สบายดีไหมครับ?” ผมถามนำ
“Hello! คุณจันใช่ไหม?” มิสเตอร์กวงถามกลับ
“ใช่ครับ ผมจัน”
“ผมจำเสียงคุณได้ คิดแล้วว่าเป็นจัน ผมสบายดี” มิสเตอร์กวงตอบพร้อมไขข้อที่คิดว่าผมอาจสงสัยทำให้เราทั้งสองหัวเราะชอบใจเว้นจังหวะสนทนานิดหน่อยแกจึงถามต่อ
“คุณเพิ่งมาถึงเหรอ?”
“ผมมาอยู่ที่นี่ใกล้จะสามอาทิตย์แล้ว เพิ่งจะโทรหาคุณ...เอ่อผม....” ผมอ้ำอึ้งขัดเขินที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาตรงๆ
“คุณต้องการเพื่อนคลายเหงาใช่ไหม?” แกถามอย่างรู้ใจ แกคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเพราะว่าแกต้อนรับผู้บริหารโรงงานชาวเกาหลีที่มาพักโรงแรมแล้วโทรหาแกเช่นเดียวกับผมบ่อย ๆ อาการแบบผมแกจึงเดาได้ไม่ยาก
“Yes….. Sir.” ผมตอบได้แค่นั้น แล้วเราทั้งสองก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ การหัวเราะครั้งนี้กินเวลาพอให้รู้ได้ว่าคุณกับผมใจตรงกันเป๊ะเลยนะครับ
“ตอนนี้เวลาสิบโมงเช้า เดี๋ยวซักบ่ายสองผมจะไปรับคุณ”
“วันนี้ วันเสาร์คุณพักผ่อนให้เต็มที่ เดี๋ยวพอไปถึงผมจะโทรหาคุณ โอเคมั้ย” แกออกความคิดมุ่งไปที่จุดหมายในใจของเราทั้งคู่ แล้วแกก็อดหัวเราะคิกคิกไม่อยู่
“โอเค แล้วเจอกันครับ” ผมตอบเสร็จก็หัวเราะคลอไปกับแก
“เจอกันครับ” แกตอบรับ แกยังคงหัวเราะอยู่พร้อมกับวางสาย
มิสเตอร์กวง ตอนที่ 2
เอถ ปสฺสถิมํ โลกํ จิตฺตํ ราชรถูปมํ
____________________________________________________________________________________________________ยตฺถ พาลา วิสีทนฺติ นตฺถิ สงฺโค วิชานตํ
สูทั้งหลาย จงมาดูโลกนี้อันตระการดุจราชรถ ที่คนเขลาหมกอยู่แต่ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่
โลกวัคค ธัมมบท
“Hello มิสเตอร์กวง สบายดีไหมครับ?” ผมถามนำ
“Hello! คุณจันใช่ไหม?” มิสเตอร์กวงถามกลับ
“ใช่ครับ ผมจัน”
“ผมจำเสียงคุณได้ คิดแล้วว่าเป็นจัน ผมสบายดี” มิสเตอร์กวงตอบพร้อมไขข้อที่คิดว่าผมอาจสงสัยทำให้เราทั้งสองหัวเราะชอบใจเว้นจังหวะสนทนานิดหน่อยแกจึงถามต่อ
“คุณเพิ่งมาถึงเหรอ?”
“ผมมาอยู่ที่นี่ใกล้จะสามอาทิตย์แล้ว เพิ่งจะโทรหาคุณ...เอ่อผม....” ผมอ้ำอึ้งขัดเขินที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาตรงๆ
“คุณต้องการเพื่อนคลายเหงาใช่ไหม?” แกถามอย่างรู้ใจ แกคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเพราะว่าแกต้อนรับผู้บริหารโรงงานชาวเกาหลีที่มาพักโรงแรมแล้วโทรหาแกเช่นเดียวกับผมบ่อย ๆ อาการแบบผมแกจึงเดาได้ไม่ยาก
“Yes….. Sir.” ผมตอบได้แค่นั้น แล้วเราทั้งสองก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ การหัวเราะครั้งนี้กินเวลาพอให้รู้ได้ว่าคุณกับผมใจตรงกันเป๊ะเลยนะครับ
“ตอนนี้เวลาสิบโมงเช้า เดี๋ยวซักบ่ายสองผมจะไปรับคุณ”
“วันนี้ วันเสาร์คุณพักผ่อนให้เต็มที่ เดี๋ยวพอไปถึงผมจะโทรหาคุณ โอเคมั้ย” แกออกความคิดมุ่งไปที่จุดหมายในใจของเราทั้งคู่ แล้วแกก็อดหัวเราะคิกคิกไม่อยู่
“โอเค แล้วเจอกันครับ” ผมตอบเสร็จก็หัวเราะคลอไปกับแก
“เจอกันครับ” แกตอบรับ แกยังคงหัวเราะอยู่พร้อมกับวางสาย