ปู จิตกร บุษบา
Go So Big .. พลิกตาลปัตร กลับไปกลับมาจริงๆ สำหรับ มหากาพย์ข้อพิพาท ไทย – เขมร กรณีเขาพระวิหาร ณ ศาลโลก ที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เฒ่าฮอร์ นัมฮง นำทีมทนายความฝ่ายเขมร ที่รวมสัญชาตินักล่าอาณานิคมไว้ครบทั้ง ทนายฝรั่งเศส ทนายอังกฤษ และ ทนายอเมริกา ออกมาไล่บี้ ราวี โยนขี้ โยนบาป โจมตีฝ่ายไทย อย่างสนุกสนานปาก ..
ทว่า ผ่านมา 2 วัน มาวันนี้ โดน ท่านทูตวีรชัย หัวหน้าทีมกฎหมายฝ่ายไทย ไล่ตบปากเรียงหน้ากระดานเป็นฉากๆ พร้อมๆกับ เสริมเพิ่มเติม ความรู้ความเข้าใจใหม่ๆ ให้กับ คนไทยทั้งประเทศ ต่อ กรณี ข้อพิพาทเขตแดนไทย-เขมร ที่เข้าใจผิดๆกันมาช้านาน ..
โดยเฉพาะ..ต่อ ประเด็นที่ คนไทยหัวใจเขมรทั้งหลาย ต่างพากันเชื่อแบบเสียชาติเกิดกันมาช้านานนมเนว่า ..
เขาพระวิหาร ศาลโลกตัดสิน ให้เป็น ของเขมรมาตั้งแต่ ปี 2505 หมดแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ 4.6 ตร.กม. !!..
ไงล่ะ ? .. พอหัวหน้าทีมกฎหมายฝ่ายไทย ไล่เรียงออกมาเป็นฉากๆ มันคนละเรื่องเดียวกันจริงๆ คำว่าอธิปไตยเหนือตัวปราสาท กับ บริเวณใกล้เคียง ที่รวมซากหักพัง มันไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับ พื้นที่ 4.6 ตร.กม. ที่เป็นอธิปไตยดินแดนของไทยเลย ไทยปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลกมาโดยตลอด แต่เป็น เขมรขี้โลภ ได้คืบเอาศอกนั่นแหละ ที่
..อยากขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ..จึงมามาบิดเบือนข้อมูลต่างๆ ถึงขั้นปลอมแปลงเอกสาร และ หาเรื่องใส่ร้ายไทย เพื่อแหกตาศาลโลก !!..
เลยงานนี้ .. พนมเปญ แทบแตก ดูไบแทบกระอักเลือด ..
ฮุนเซน ป่านนี้คง เมาไวน์ และ นั่งครางหงิงๆ อยู่ที่ไหนสักแห่ง ?!..
โดนสาธยาย ธาตุแท้เขมรถ่อย กลางศาลโลกขนาดนี้ หากยังหน้าด้านต่อเนี่ย ..มีหวัง
หนักกว่านี้ โดยเฉพาะ ประเด็น หนามยอกเอาหนามบ่ง เรื่องกรณีบริเวณใกล้เคียง ที่เขมรทำไขสือว่า ไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมรับ แต่ไม่มีหลักฐานอันใดว่า ..มันคัดค้าน มันไม่ยอมรับ มีแต่หลักฐานที่มันแสดงความพึงพอใจทั้งนั้น ไม่ว่าจะหลักฐานจาก กษัตริย์สีหนุ ผู้ล่วงลับ ตอนไปทำพิธีครอบครองปราสาทพระวิหารอย่างเป็นทางการ หรือ กรณีหัวหน้าทูตแสดงความพึงพอใจต่อที่ประชุม สมัชชาสหประชาชาติ !!..
เรียกว่า .. ปิดปากกู กูก็ปิดปาก และ ตบหัวกระบาลคืนมั่ง ..
เจอแบบนี้เข้าไป .. ศาลโลกหัวใจเขมรทั้งหลาย .. จะว่าไงล่ะทีเนี่ย ??..
วันนี้ เห็นได้ชัดว่า MOU 2543 ข้อตกลงร่วม ระหว่าง ไทย – เขมร ในเรื่องของการปักปันเขตแดนทางบกร่วมกัน โดยใช้หลักฐานของแต่ละฝ่าย โดยปราศจากคำสั่งศาลโลกปี 2505 นั้น เป็นเอกสารพยานหลักฐาน ที่สร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศไทยมหาศาลมากๆจริงๆ ..
ไม่แปลกใจว่า เหตุใด ..เขมรมันพยายามละเมิด MOU 2543 มาตลอด และ มาขี้ตู่ เอาดื้อๆว่า บริเวณใกล้เคียงตัวปราสาท ตามคำสั่งของศาลโลก ปี 2505 นั้น คือ พื้นที่ 4.6 ตร.กม. ซึ่งความจริงแล้ว .. มันไม่ใช่ มันมั่วข้อมูลของมันเอง !!..
ทูตวีรชัย หัวหน้าทีมกฎหมายฝ่ายไทย ที่อัดเขมรทุกดอก และ ตอกหน้าเขมรยับในเรื่องของการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อมา
แหกตาชาวโลก พร้อมๆกับ ยืนยันเจตนารมณ์ของฝ่ายไทย ที่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลก ปี 2505 มาโดยตลอด แต่ฝ่ายเขมร นั่นแหละ เป็นตัวการบิดเบือน ทำลายล้าง และ สร้างปัญหามาโดยตลอด !! ..
ต้องยอมรับว่า คำชี้แจงของ ทูตวีรชัย หักล้าง คำชี้แจงของ ทีมกฎหมาย ฝ่ายเขมร ได้ถึงไส้จริงๆ !!..
ทำให้เราคนไทย ..ได้ตาสว่าง และ หายโง่กันไปทั้งบาง โดยเฉพาะ ไอ้พวกนักวิชาการประวัติศาสตร์ระยะสั้น
แถวๆธรรมศาสตร์ จานแดงหัวหงอกบางตัว ที่มามั่วข้อมูลว่า .. 4.6 ตร.กม. ก็คือ พื้นที่ตาม แผนที่ 1 : 200,000 ที่ศาลโลกตัดสินให้เป็นของเขมรไปแล้ว ตั้งแต่ ปี 2505 แต่ฝ่ายไทย และ นักวิชาการฝ่ายไทย ไม่ยอมรับเอง และ ตีขลุม ตีความเข้าข้างตัวเองว่า ศาลโลกยังไม่ตัดสิน ..
หลายๆเรื่อง แทบไม่น่าเชื่อว่า เขมรจะกล้าบิดเบือน แต่มันก็บิดเบือนมาแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่ เขมรมันอ้างว่า พื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร ไม่อยู่ภายใต้การบังคับใช้ของ MOU 2543 แต่อยู่ภายใต้ คำสั่งศาลโลก ปี 2505 ที่ต้องปักเขตแดนไปตามแผนที่ภาคผนวก 1 ที่เขมรอ้างเองว่า ศาลโลกตัดสินให้มันไปแล้ว โดยเขมรมันไม่ได้ไปแหกตาดูพื้นที่ภูมิประเทศจริงๆเลยว่ามันเป็นอย่างไร ? .. และ เนื้อหาสาระ ของ MOU 2543 ไม่ได้มีการระบุ คำสั่งศาลโลก ปี 2505 ไว้แต่อย่างใด แต่ เขมรอ้างคำสั่งศาลโลกเพื่อที่จะลิดรอนและละเมิดอธิปไตยของไทย !! ..
สรุปคือ MOU 2543 เป็น หลักฐานมัดปากเขมรชั้นดีจริงๆว่าเป็นเขมรนั่นแหละไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลก และ พยายามที่จะละเมิดเขตแดนไทยมาโดยตลอด พร้อมกับการทึกทักเอาเองว่า 4.6 ตร.กม. เป็น พื้นที่ตามแผนที่ 1 : 200,000 ที่ศาลโลกตัดสินชี้ขาดให้เป็นของเขมรไปแล้วตั้งแต่ปี 2505 .. ทั้งๆที่มันคนละเรื่อง !!..
ดังนั้น งานนี้ MOU 2543 จึงมีความสำคัญ เหนือคำพิพากษาของศาลโลก ปี 2505 ..ในทางปฏิบัติจริง !!..
หากว่า..ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอภิสิทธิ์บ้าเยี่ยว ไปยกเลิก MOU 2543 ไปนะ ..
เลยนะเนี่ย !!..
เขมรงานนี้ ยังโดนทูตวีรชัย ตอกหน้ากลางศาลโลกอีกว่า ฝ่ายเขมรหน้าด้านปลอมแปลงเอกสารเพื่อแหกตาศาลโลกอีก ตั้ง 10 ประเภท ที่ ทูตวีรชัย บอกว่าเป็นการตกแต่งเอกสารเท็จขึ้นมาเอง .. เขมร นี่มันเข้าข่าย ประเทศ 18 มงกุฎจริงๆ ทุเรศมากๆ ปลอมแปลงเอกสารขึ้นมาเองได้เนี่ย ถือว่า..สุดโสโครก !!..
แบบนี้ หากศาลโลกชุดปัจจุบันนี้ ไปบ้าเยี่ยวตัดสินตามความต้องการของเขมรมันอีกนะ ..
บ่องตง ..สงครามไทยสั่งสอนขแมร์ ได้เกิดขึ้นจริงๆ แน่ๆ ..
และ ศาลโลก จะได้เป็น ศาลพระภูมิ !!..
วินเซนต์ 17 เมษายน 2556
Go So Big .. พลิกตาลปัตร
Go So Big .. พลิกตาลปัตร กลับไปกลับมาจริงๆ สำหรับ มหากาพย์ข้อพิพาท ไทย – เขมร กรณีเขาพระวิหาร ณ ศาลโลก ที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เฒ่าฮอร์ นัมฮง นำทีมทนายความฝ่ายเขมร ที่รวมสัญชาตินักล่าอาณานิคมไว้ครบทั้ง ทนายฝรั่งเศส ทนายอังกฤษ และ ทนายอเมริกา ออกมาไล่บี้ ราวี โยนขี้ โยนบาป โจมตีฝ่ายไทย อย่างสนุกสนานปาก ..
ทว่า ผ่านมา 2 วัน มาวันนี้ โดน ท่านทูตวีรชัย หัวหน้าทีมกฎหมายฝ่ายไทย ไล่ตบปากเรียงหน้ากระดานเป็นฉากๆ พร้อมๆกับ เสริมเพิ่มเติม ความรู้ความเข้าใจใหม่ๆ ให้กับ คนไทยทั้งประเทศ ต่อ กรณี ข้อพิพาทเขตแดนไทย-เขมร ที่เข้าใจผิดๆกันมาช้านาน ..
โดยเฉพาะ..ต่อ ประเด็นที่ คนไทยหัวใจเขมรทั้งหลาย ต่างพากันเชื่อแบบเสียชาติเกิดกันมาช้านานนมเนว่า ..
เขาพระวิหาร ศาลโลกตัดสิน ให้เป็น ของเขมรมาตั้งแต่ ปี 2505 หมดแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ 4.6 ตร.กม. !!..
ไงล่ะ ? .. พอหัวหน้าทีมกฎหมายฝ่ายไทย ไล่เรียงออกมาเป็นฉากๆ มันคนละเรื่องเดียวกันจริงๆ คำว่าอธิปไตยเหนือตัวปราสาท กับ บริเวณใกล้เคียง ที่รวมซากหักพัง มันไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับ พื้นที่ 4.6 ตร.กม. ที่เป็นอธิปไตยดินแดนของไทยเลย ไทยปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลกมาโดยตลอด แต่เป็น เขมรขี้โลภ ได้คืบเอาศอกนั่นแหละ ที่ ..อยากขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ..จึงมามาบิดเบือนข้อมูลต่างๆ ถึงขั้นปลอมแปลงเอกสาร และ หาเรื่องใส่ร้ายไทย เพื่อแหกตาศาลโลก !!..
เลยงานนี้ .. พนมเปญ แทบแตก ดูไบแทบกระอักเลือด ..
ฮุนเซน ป่านนี้คง เมาไวน์ และ นั่งครางหงิงๆ อยู่ที่ไหนสักแห่ง ?!..
โดนสาธยาย ธาตุแท้เขมรถ่อย กลางศาลโลกขนาดนี้ หากยังหน้าด้านต่อเนี่ย ..มีหวัง หนักกว่านี้ โดยเฉพาะ ประเด็น หนามยอกเอาหนามบ่ง เรื่องกรณีบริเวณใกล้เคียง ที่เขมรทำไขสือว่า ไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมรับ แต่ไม่มีหลักฐานอันใดว่า ..มันคัดค้าน มันไม่ยอมรับ มีแต่หลักฐานที่มันแสดงความพึงพอใจทั้งนั้น ไม่ว่าจะหลักฐานจาก กษัตริย์สีหนุ ผู้ล่วงลับ ตอนไปทำพิธีครอบครองปราสาทพระวิหารอย่างเป็นทางการ หรือ กรณีหัวหน้าทูตแสดงความพึงพอใจต่อที่ประชุม สมัชชาสหประชาชาติ !!..
เรียกว่า .. ปิดปากกู กูก็ปิดปาก และ ตบหัวกระบาลคืนมั่ง ..
เจอแบบนี้เข้าไป .. ศาลโลกหัวใจเขมรทั้งหลาย .. จะว่าไงล่ะทีเนี่ย ??..
วันนี้ เห็นได้ชัดว่า MOU 2543 ข้อตกลงร่วม ระหว่าง ไทย – เขมร ในเรื่องของการปักปันเขตแดนทางบกร่วมกัน โดยใช้หลักฐานของแต่ละฝ่าย โดยปราศจากคำสั่งศาลโลกปี 2505 นั้น เป็นเอกสารพยานหลักฐาน ที่สร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศไทยมหาศาลมากๆจริงๆ ..
ไม่แปลกใจว่า เหตุใด ..เขมรมันพยายามละเมิด MOU 2543 มาตลอด และ มาขี้ตู่ เอาดื้อๆว่า บริเวณใกล้เคียงตัวปราสาท ตามคำสั่งของศาลโลก ปี 2505 นั้น คือ พื้นที่ 4.6 ตร.กม. ซึ่งความจริงแล้ว .. มันไม่ใช่ มันมั่วข้อมูลของมันเอง !!..
ทูตวีรชัย หัวหน้าทีมกฎหมายฝ่ายไทย ที่อัดเขมรทุกดอก และ ตอกหน้าเขมรยับในเรื่องของการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อมาแหกตาชาวโลก พร้อมๆกับ ยืนยันเจตนารมณ์ของฝ่ายไทย ที่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลก ปี 2505 มาโดยตลอด แต่ฝ่ายเขมร นั่นแหละ เป็นตัวการบิดเบือน ทำลายล้าง และ สร้างปัญหามาโดยตลอด !! ..
ต้องยอมรับว่า คำชี้แจงของ ทูตวีรชัย หักล้าง คำชี้แจงของ ทีมกฎหมาย ฝ่ายเขมร ได้ถึงไส้จริงๆ !!..
ทำให้เราคนไทย ..ได้ตาสว่าง และ หายโง่กันไปทั้งบาง โดยเฉพาะ ไอ้พวกนักวิชาการประวัติศาสตร์ระยะสั้น แถวๆธรรมศาสตร์ จานแดงหัวหงอกบางตัว ที่มามั่วข้อมูลว่า .. 4.6 ตร.กม. ก็คือ พื้นที่ตาม แผนที่ 1 : 200,000 ที่ศาลโลกตัดสินให้เป็นของเขมรไปแล้ว ตั้งแต่ ปี 2505 แต่ฝ่ายไทย และ นักวิชาการฝ่ายไทย ไม่ยอมรับเอง และ ตีขลุม ตีความเข้าข้างตัวเองว่า ศาลโลกยังไม่ตัดสิน ..
หลายๆเรื่อง แทบไม่น่าเชื่อว่า เขมรจะกล้าบิดเบือน แต่มันก็บิดเบือนมาแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่ เขมรมันอ้างว่า พื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร ไม่อยู่ภายใต้การบังคับใช้ของ MOU 2543 แต่อยู่ภายใต้ คำสั่งศาลโลก ปี 2505 ที่ต้องปักเขตแดนไปตามแผนที่ภาคผนวก 1 ที่เขมรอ้างเองว่า ศาลโลกตัดสินให้มันไปแล้ว โดยเขมรมันไม่ได้ไปแหกตาดูพื้นที่ภูมิประเทศจริงๆเลยว่ามันเป็นอย่างไร ? .. และ เนื้อหาสาระ ของ MOU 2543 ไม่ได้มีการระบุ คำสั่งศาลโลก ปี 2505 ไว้แต่อย่างใด แต่ เขมรอ้างคำสั่งศาลโลกเพื่อที่จะลิดรอนและละเมิดอธิปไตยของไทย !! ..
สรุปคือ MOU 2543 เป็น หลักฐานมัดปากเขมรชั้นดีจริงๆว่าเป็นเขมรนั่นแหละไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลก และ พยายามที่จะละเมิดเขตแดนไทยมาโดยตลอด พร้อมกับการทึกทักเอาเองว่า 4.6 ตร.กม. เป็น พื้นที่ตามแผนที่ 1 : 200,000 ที่ศาลโลกตัดสินชี้ขาดให้เป็นของเขมรไปแล้วตั้งแต่ปี 2505 .. ทั้งๆที่มันคนละเรื่อง !!..
ดังนั้น งานนี้ MOU 2543 จึงมีความสำคัญ เหนือคำพิพากษาของศาลโลก ปี 2505 ..ในทางปฏิบัติจริง !!..
หากว่า..ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอภิสิทธิ์บ้าเยี่ยว ไปยกเลิก MOU 2543 ไปนะ .. เลยนะเนี่ย !!..
เขมรงานนี้ ยังโดนทูตวีรชัย ตอกหน้ากลางศาลโลกอีกว่า ฝ่ายเขมรหน้าด้านปลอมแปลงเอกสารเพื่อแหกตาศาลโลกอีก ตั้ง 10 ประเภท ที่ ทูตวีรชัย บอกว่าเป็นการตกแต่งเอกสารเท็จขึ้นมาเอง .. เขมร นี่มันเข้าข่าย ประเทศ 18 มงกุฎจริงๆ ทุเรศมากๆ ปลอมแปลงเอกสารขึ้นมาเองได้เนี่ย ถือว่า..สุดโสโครก !!..
แบบนี้ หากศาลโลกชุดปัจจุบันนี้ ไปบ้าเยี่ยวตัดสินตามความต้องการของเขมรมันอีกนะ ..
บ่องตง ..สงครามไทยสั่งสอนขแมร์ ได้เกิดขึ้นจริงๆ แน่ๆ ..
และ ศาลโลก จะได้เป็น ศาลพระภูมิ !!..
วินเซนต์ 17 เมษายน 2556