หลังจากเก็บเงินก้อนแรกในชีวิตได้ 1 ก้อนในระยะเวลา 1 ปีเต็มๆ ของเด็กอายุ 20 คนนึง

หลังจากเก็บเงินฝากประจำแบบรายเดือนของ SCB แบบ 36 เดือน + Bonus
ฝากไปทั้งหมด 12 เดือนเต็มก็มีเหตุที่จะต้องเอาเงินออกมา

ตอนปี 54 เรียนอยู่ที่ ม.เกษตร กำแพงแสน แล้วปี 55 ซิ่วย้ายกลับมาเรียนที่ ม.เกษตรบางเขน
เปลี่ยนคณะ มันไม่ใช่ทาง 5555+  เลยคิดว่าถ้าเกิดมีเหตุจะต้องใช้เงินแบบเร่งด่วน
การติดต่อธุรกรรมที่สาขา ม.เกษตรกำแพงแสน คงจะลำบากและช้า
จึงปิดบัญชีที่ฝากได้ 12 เดือน แอบรู้สึกเสียใจเหมือนกันเสียดายดอกเบี้ยถ้าฝากจนครบ 555+

ก็มาเปิดฝากประจำแบบก้อนเดียว 30,000 บาท (ใช้เวลาเก็บ 1 ปี)
ระยะ 12 เดือน ดอกเบี้ยถ้าจำไม่ผิด 2 กว่าๆ

ตอนนี้ก็ขายของแต่งรถทางเน็ตไปด้วยรายได้มีพอประมาณ 2,000 - 3,500 ต่อเดือน
ไม่มากแต่ก็ไม่น้อยเกินไป ขยันโพสขยันออกโปรก็จะขายดีหน่อยกำไรน้อยลงแต่ยอดขายพุ่ง

และแล้วก็ได้ทำบัตรเครดิต SCB ซะทำวันเปิดบัญชีฝากประจำ 12 เดือนเลย
ใช้เวลารวมถึงวันได้บัตร 15 วัน
แต่รออนุมัติ 2-3 นะรู้สึกเร็วมากๆ
ตอนนี้ก็เอามาผ่อนสมาร์ทโฟน 0% 10 เดือน
ราคาสองหมื่นกว่าๆใช้ในการตอบเพจลูกค้า
ใช้มา 3 เดือนไม่ได้เท่ห์เลย อยู่แต่บ้านเพราะดันตรงปิดเทอมพอดี


แอบคิดว่าเกินตัวไปเมื่อซื้อมาแล้วใช้ไม่ค่อยคุ้ม แต่ก็ทำเงินได้เพิ่มอีกมาก
เพราะจากแต่ก่อนเช้าก่อนไปเรียนมาคอยตอบแล้วกลับมาอีกที 2 ทุ่มมาตอบ
มันดูล่าช้าไปสำหรับการซื้อขายของทางเน็ต มีเจ้านี่ก็ช่วยได้มาก

ตอนนี้เลยเริ่มรำคาญการผ่อนมาก
มีคำถามครับ
เราผ่อน 0% 10 เดือนถ้าเราจะจ่ายที 2 เดือนแล้วทางธ.จะลดรอบบิลลงให้ตามที่โปะไหมครับ
เช่น เริ่มผ่อนงวดแรก เดือน มกราคม  งวดสุดท้าย พฤศจิกายน
แล้วทีนี้เดือนแรกมีเงินมาก เลยจะจ่าย 2 รอบบิล
งวดสุดท้ายจะย่นรอบบิลลงมาถึงเดือนตุลาใช่ไหมครับ หรือว่าจ่ายแบบนั้นไป ในรอบบิลต่อไปก็ไม่เรียกเก็บ
แต่งวดสุดท้ายก็จะเป็น งวดเดือน พฤศจิกายน เหมือนเดิม


ต่อครับ
ช่วงนี้ก็เริ่มเก็บเงินก้อนใหม่จากการขายของถ้าไม่เผลอใจเอาไปแต่งรถด้วย
ก็คงมีหลักหมื่นแล้ว ยอดขายตอนนี้หลักหมื่น แต่กำไรรวมก็เกือบๆหมื่น
แต่ดันห้ามใจตัวเองไม่ไหว แอบแต่งรถบ้าง เงินตอนนี้เลยมีแค่ก้อนเล็กๆ 5,000 บาท

แต่หลังจากนี้คงไม่แต่งแล้วขายเก็บเงินอย่างเดียวเพราะรู้สึกเศรษฐกิจอยู่ในขาลง
ราคาทองเริ่มตก สัญญาณมาไม่ค่อยดี  เก็บอย่างเดียวครับตอนนี้ 555+


ตอนนี้ถ้าผ่อนสมาร์ทโฟนหมดคงจะไม่ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยแบบนี้อีกแล้ว
(รู้สึกแอบเสียดายเงิน)

รู้ค่าของเงินมากเลย ปีแรกที่เก็บเงินได้ก้อนใหญ่ยังไม่รู้ค่าของเงินมาก
แต่พอเริ่มขายของ ก็ยิ่งรู้เลยว่าแต่ละบาทนั้นกว่าจะได้ยากมากลูกค้าใช้เวลาตัดสินใจซื้อบางทีเป็นวัน
แต่พอเราเอาเงินที่ได้มาไปใช้กลับ ใช้เวลาตัดสินใจแค่ไม่ถึงนาที

" ค่าของเงินจะมากหรือจะน้อยมันขึ้นอยู่ที่ตัวเรา ไม่ได้อยู่ที่สกุลเงินหรืออัตราแลกเปลี่ยนแล้วสำหรับผม "
1 บาทของบางคนอาจจะมีค่าน้อยกว่าเศษเงิน แต่ตอนนี้สำหรับผมมันไม่ได้แค่มีค่า แต่มันมีความหมายในตัวมันเอง

อีก 2 เดือนจะขึ้นปี 2 จริงๆต้องปี 3 แล้วจำเป็นต้องใช้โน๊ตบุ๊คในการทำงาน
* เรียนในสาขาที่จำเป็นต้องใช้คอมนอกสถานที่บ่อยๆ

ว่าจะผ่อนโน๊ตบุ๊ค 0% สักเครื่อง ไม่อยากรบกวนทางบ้านแล้ว แค่ค่าเทอมก็หนักหนาสาหัสพอสมควร
ยอมอดกิน อดฟุ่มเฟือยต่ออีกสักหน่อย  บางทีแอบอิจฉาเพื่อนรุ่นเดียวกันเหลือเกิน
ที่บ้านมันรวย มีรถขับไปเรียนตากแอร์เย็นๆ ตกเย็นเข้าผับ อัพบารากุ

แต่ถ้ามันลองได้มาใช้ชีวิตแบบผมสักครั้งนะ มันจะรู้เลยว่าเงินที่มันใช้จ่ายน่ะ
มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของคนที่เป็นพ่อแม่  

ขนาดผมยังเหนื่อยขนาดนี้แล้วท่านล่ะจะขนาดไหน
ภูมิใจที่ได้ซื้อของที่จำเป็นต่อการเรียนและการขายของ
ถึงไม่ได้ทุ่มเงินซื้อทั้งก้อน แต่ก็แบ่งจ่ายไปโดยไม่เสียดอกเบี้ยเพิ่ม

ตั้งแต่เข้ามาห้องนี้เศษเงินสำหรับผมมันมีค่าขึ้นเยอะ


มีคำถามตบท้าย
ตอนนี้ผมผ่อนสินค้าผ่านบัตรเครดิตเฉพาะที่ 0% (ไม่อยากเสียดอกโดยใช่เหตุ)
มันจะมีผลต่อการกู้ซื้อบ้านในอนาคตไหมครับ ถ้าเราส่งตรงตลอด
เพราะได้รับจดหมายจาก ธ.ว่าข้อมูลของผมได้ส่งไปที่ เครดิตบูโรแล้ว

ถ้าการผ่อนส่งและการใช้จ่ายผม ผ่อนส่งตรงเวลา ชำระตามเวลาแบบไม่เคยล่าช้า
มันจะมีผลไหมครับต่อการกู้ซื้อบ้าน ในอนาคต

ไม่อยากรอสมบัติ เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่ถ้าเราสร้างมันด้วยมือเราเอง
ผมเชื่อว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และจะต้องเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจที่สุดในชีวิต

ปล. จากเด็กอายุ 20 ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่