สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ดูอย่างงี้ก็ได้นะคะ
ภาษาอังกฤษในหนึ่งประโยคจะมีกริยาแท้ๆได้ตัวเดียว
กริยาแท้นี่ก็คือ verb ที่สามารถคงอยู่ในรูปเดิมของมันได้แบบไม่เปลี่ยนไป
อย่างคำว่า eat/eats นี่ถือเป็นกริยาแท้ แต่ถ้า eating/eaten ไม่ใช่ จะใช้ในการขยายแทน
ในกรณีที่มี am ซึ่งนับเป็น verb to be กริยาตัวอื่นจะต้องเปลี่ยนไปอยู่ในรูปที่ไม่ใช่ verb แท้
ถ้ามี verb แท้สองตัวในประโยคเดียวกัน จะถือว่าผิดหลักไวยากรณ์ค่ะ
เช่น I am eat cat. อย่างนี้ไม่ถูก เพราะ am ก็เป็นกริยาหลักไปแล้ว eat จะมาทำหน้าที่หลักซ้ำกันอีกไม่ได้
จะต้องเป็น I am eating a cat.
am ในประโยคนี้จะทำหน้าที่แสดงสถานะของประธานของประโยค
ส่วน eating จะมาขยายว่าสถานะที่ว่าคือสถานะที่ประธานดำเนินอยู่ในขณะนั้น ซึ่งในตัวอย่างนี้คือการกินค่ะ
ลองไปอ่านตามหนังสือแกรมม่าเบื้องต้น(ของเด็กๆก็ได้ค่ะ) เรื่อง verb to be น่าจะมีคำอธิบายพร้อมตัวอย่างประกอบที่เข้าใจง่ายขึ้น
ภาษาอังกฤษในหนึ่งประโยคจะมีกริยาแท้ๆได้ตัวเดียว
กริยาแท้นี่ก็คือ verb ที่สามารถคงอยู่ในรูปเดิมของมันได้แบบไม่เปลี่ยนไป
อย่างคำว่า eat/eats นี่ถือเป็นกริยาแท้ แต่ถ้า eating/eaten ไม่ใช่ จะใช้ในการขยายแทน
ในกรณีที่มี am ซึ่งนับเป็น verb to be กริยาตัวอื่นจะต้องเปลี่ยนไปอยู่ในรูปที่ไม่ใช่ verb แท้
ถ้ามี verb แท้สองตัวในประโยคเดียวกัน จะถือว่าผิดหลักไวยากรณ์ค่ะ
เช่น I am eat cat. อย่างนี้ไม่ถูก เพราะ am ก็เป็นกริยาหลักไปแล้ว eat จะมาทำหน้าที่หลักซ้ำกันอีกไม่ได้
จะต้องเป็น I am eating a cat.
am ในประโยคนี้จะทำหน้าที่แสดงสถานะของประธานของประโยค
ส่วน eating จะมาขยายว่าสถานะที่ว่าคือสถานะที่ประธานดำเนินอยู่ในขณะนั้น ซึ่งในตัวอย่างนี้คือการกินค่ะ
ลองไปอ่านตามหนังสือแกรมม่าเบื้องต้น(ของเด็กๆก็ได้ค่ะ) เรื่อง verb to be น่าจะมีคำอธิบายพร้อมตัวอย่างประกอบที่เข้าใจง่ายขึ้น
แสดงความคิดเห็น
I , I am มีหลักการใช้ยังไงคะ
I eat cat
I am eat cat
เราจะแยกได้ยังไงคะ ว่าควรเติม am หรือไม่ต้อง
ปล. เค้าไม่ได้กินแมวจริงๆนะ 5555