ทั้งๆ ที่ความสุข ยังอบอุ่นอยู่ในใจ พร้อมรอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่บนใบหน้า ตลอดจนเสียงหัวเราะด้วยมิตรภาพของ สวทร แฟนคลับ และแฟนละคร..ความสุข ที่มันล้นปรี่ มีมากมาย..ก็อาจต้องถูกสมดุลแห่ง ธรรมชาติ ตัดทอนลงไปบ้าง...ด้วย ข่าว ซึ่งยังไม่มีการพิสูจน์ใดๆ เรื่องหนึ่ง ในวันนี้...
ก็เลยอยากจะบอกคุณในข่าว คนเขียนข่าว และผู้เกี่ยวข้องว่า สิ่งที่คุณเลือก ตั้งใจที่จะกระทำ นั้น โดยเฉพาะ หากคุณกำลังถูกโรคร้ายคุกคาม..ซึ่งคุณคงมีความทุกข์มากพออยู่แล้ว แต่สิ่งที่คุณคิดจะทำ มันก็ไม่ใช่ทางดับความทุกข์นั้นได้ แม้แต่น้อย..บางที มันอาจจะรังแต่นำความทุกข์ ติดตามคุณไปทุกแห่งหน..แม้เมื่อคุณได้ละกายหยาบนี้ไปแล้ว ก็ตาม
เท่าที่ได้อ่าน ข่าวนั้น ดูๆ แล้ว ก็ยังไม่เห็นว่าสิ่งที่คุณตั้งใจจะกระทำมันเกิดประโยชน์อันใดกับโลกใบนี้...นอกจาก ประโยชน์ อันไม่จีรัง กับตัวคุณเอง ซ้ำยังอาจนำมาซึ่งความทุกข์อื่นๆ ต่อไป เท่าที่ได้อ่าน ข่าวนั้น ก็พอคาดเดาตัวตน และจิตใจของคุณ ได้ประมาณหนึ่ง
...ลองหันกลับมาดู ฝ่ายที่คุณตั้งใจ จะกระทำ ดูบ้าง ว่าเขาได้ ให้ อะไร กับสังคม-มหาชน คนที่รักเขา คุณค่าของคนอยู่ที่ผลแห่งการกระทำ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ คำบอกเล่า จากปากของคนไม่กี่คน จริงมั้ยคะ
อ้างอิงจาก
http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2012/08/A12521271/A12521271.html
http://www.sudsapda.com/konlor/video/2632/
“...เริ่มจากผมได้รับหนังสือชื่อ อภัยทาน รักบริสุทธิ์ จากผู้จัดการส่วนตัว พอมีเวลาว่างก็หยิบขึ้นมาอ่าน อ่านไปก็เอาปากกาไฮไลท์ประโยคที่ชอบไปด้วย รู้สึกว่าได้แง่คิด...” (คหสต ถึงขั้นไฮไลท์หนังสือเนี่ย จริงจังมากๆ อ่ะ)
กิจกรรม คนหล่อขอทำดี ปี 5 ของนิตยสารแพรวสุดสัปดาห์ ปี 2555 บี้ สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว พิมพ์หนังสือธรรมะ “อภัยทาน” แจกให้คนทั่วไปได้นำข้อคิดไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งผู้ป่วย คุณหมอ เด็ก ฯลฯ เมื่อได้หนังสือของบี้แล้ว ก็น่าจะเกิดประโยชน์ต่อตนเอง รวมไปถึงการแนะนำให้คนรอบข้างได้ข้อคิด และร่วมกัน ทำสิ่งดีแก่ชีวิตตนและสังคม ได้อีก
...อภัยทาน...การให้อภัย การให้อภัย เป็น ธรรมชั้นสูง น่ายกย่อง การให้อภัย เป็น งานชั้นเยี่ยมของชีวิต การให้อภัย คือ การทำบุญให้ตนเอง ผู้ให้อภัย เป็นผู้ชนะ และเป็นสุข .....”
อย่างไรก็ดี ต้องขอขอบคุณ คุณในข่าวคนนั้น ผู้เขียนข่าว และผู้เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เดี๊ยน ซึ่งก็แค่นำหลักธรรมข้อใหญ่ๆ อริยสัจ 4 มาใช้กว้างๆ ง่ายๆ สร้างสุขแก่ตนเอง ผู้อื่น แบบพื้นๆ ไม่ได้เจาะลึกลงรายละเอียดในเรื่องอื่นๆ ของพุทธศาสนา ได้ กลับมาสนใจ ศึกษาธรรมะ มากขึ้น..รู้สึกขอบคุณ นะคะ และก็ขออนุญาตใช้โอกาสนี้ บอกเล่าให้มิตรสหายได้ร่วมศึกษาไปด้วยกัน น่าสนใจมากเจ้าค่ะ
“...บุคลิกดี เสียงดีนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ กับคนใดคนหนึ่ง ผู้ที่จะได้สิ่งนี้มา จะต้องฝึกตัวติดต่อกันมาหลายชาติทีเดียว
คนที่บุคลิกดีอย่างน้อยที่สุดต้องรักษาศีลมาดี ไม่เคยไปทุบตี ทำร้ายใคร รู้จักขวนขวายช่วยเหงืองานบุญงานกุศล มีความเคารพนบนอบผู้ใหญ่และผู้ปฏิบัติธรรม ผลของความดีนี้เลยส่งผลให้ข้ามภพข้ามชาติมาทำให้ได้บุคลิกดี
คนที่เสียงดี ถามว่าสร้างบุญอะไรมาหรือ? พวกนี้โดยทั่วๆ ไปก็คือ ข้ามภพข้ามชาติมาไม่นินทาคนอื่น ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อ ได้สวดมนต์บูชาสรรเสริญพระรัตนตรัยเป็นประจำ ได้ยกย่องสรรเสริญบูชาบุคคลที่ทำความดี คนที่ควรบูชาในทุกโอกาส
คนที่ได้ลักษณะดีๆ มานั้นเป็นผลจากการทำความดีข้ามภพข้ามชาติของเขาเอง...”
อ้างอิง
http://www.dmc.tv/pages/good_QA/
“...แทนที่จะถามว่าทำไมใครๆ ถึงไม่รักเรา กลับเที่ยวไปโกรธไปเคืองเขา หรือว่าเที่ยวไปอิจฉา คนที่มีคนรักเต็มบ้านเต็มเมือง ต้องมองและตั้งคำถามใหม่ให้เป็น คือ แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไม เขาไม่รักเรา ก็ตั้งคำถามเสียใหม่ว่าเราไม่น่ารักตรงไหน แล้วเริ่มสำรวจตรวจสอบตัวเอง
อิจฉา หมายถึง เห็นเขาได้ดีแล้วไม่พอใจ อยากจะมีหรือเป็นอย่างเขาบ้าง (มีความหมายเบากว่า ริษยา)
ริษยา หมายถึง อาการที่ไม่อยากให้คนอื่นได้ดี หนักขึ้น เห็นเขาได้ดีแล้วทนนิ่งไม่ได้
นิสัยอิจฉาริษยานี้ จะเกิดขึ้นกับคนที่มีความดีในตัวน้อยกว่าคนอื่น แต่แทนที่จะคิดแก้ไขตัวเอง กลับไปคิดในทางผิดๆ ในทางร้ายๆ
คือ แทนที่จะยกตัวเองขึ้นมาด้วยการทำ ความดีให้ยิ่งขึ้นไป กลายเป็นว่าความดีก็ไม่ทำ แถมยังคิดจะเหยียบคนอื่นลงไปด้วยฤทธิ์แห่งความเข้าใจผิด จนกลายเป็นความอิจฉาริษยา ไม่อยากให้ใครได้ดีเสียอีก
ก็สะท้อนให้เห็นว่า ถ้าอย่างนั้นในใจของคนที่ชอบอิจฉาริษยา ก็คงจะมีแต่ความเศร้าหมอง คิดที่จะสร้างสรรค์อะไรกับใครเขาไม่เป็น คิดออกแต่ในเรื่องที่จะทำลายทำร้ายคนอื่นอยู่ร่ำไป ...”
อ้างอิง
http://www.kalyanamitra.org/u-ni-boon/main/index.php?option=com_content&task=view&id=214&Itemid=
วิธีเอาชนะ คนประเภทนี้
เราไม่ควรจะไปทำอะไรเค้าโดยตรง เพราะเค้าจะมีความสุขที่มีคนไปสนใจ และจากข้อสุดท้ายจึงได้ข้อสรุปวิธีที่รับมือกับคนพวกนี้ที่ดีที่สุดเลยคือ...การทำให้คนขี้อิจฉาเจ็บที่สุดคือการทำตัวเองให้มีความสุขจนมันอิจฉาจนขาดใจตาย
รับรองวิธีนี้แหละ เด็ด!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังจากทำการศึกษาทางด้านจิตใจและเหตุผลที่คนเหล่านั้นกระทำแล้วพอสรุปได้ว่า
1. คนพวกนี้ต้องการคนมาสนใจ เรียกร้องความสนใจว่างั้น แต่ถ้าไปถามเค้าตรงๆว่าต้องการคนมาสนใจหรอ เค้าจะตอบปฏิเสธทันที ไม่ใช่เพราะเค้าโกหกแต่เพราะเค้าไม่รู้ตัว (จริงๆแอบน่าสงสารนะ)
2. คนเหล่านี้มักจะแพ้ไม่เป็น อาจจะเกิดกับคนที่ประสบความสำเร็จในบางเรื่องมาแต่เด็ก แต่พอล้มเหลวก็รับไม่ได้
3. คนเหล่านี้มักคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ ไม่ว่าใครจะทำอะไรชั้นต้องถูกชั้นต้องได้ดี คนอื่นช่าง(แมร่ง) พอต้องเจอกับเรื่องราวที่ตัวเองแพ้ก็ต้องหาคนอื่นมารับผิดเสมอ (ทั้งๆที่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องมีคนผิด แต่ต้องมีตุ๊กตาเพื่อเอามารับกรรม เพื่อให้ตนพ้นจากความรู้สึกผิด)
4. คนพวกนี้มักจะมีโลกส่วนตัว อยู่กับความคิดของตัวเองเป็นหลัก
5. คนพวกนี้จิตใจจะอ่อนแอมาก ถ้าหากไม่ได้สิ่งที่ตนต้องการจะทำทุกวิถีทางที่ได้มันมา ไม่เว้นแม้แต่ไสยศาสตร์... (หุหุ)
6. คนพวกนี้มักจะเป็นโรคซึมเศร้าคิดว่าไม่มีใครต้องการ
7. คนเหล่านี้จะค่อนข้างขวางโลก ทำอะไรไปก็จะโต้ตอบกลับมาด้วยวิธีกวนอวัยวะเบื้องล่างเสมอ... แน่นอนไม่ใช่ตาตุ่มและเล็บนิ้วโป้ง... หมายถึงกวนทีนนั่นแหละ!!
8. คนเหล่านี้ถ้าโต้ตอบไปก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
9. คนเหล่านี้มักเจ็บปวด เมื่อเห็นคนอื่นมีความสุข
อ้างอิง
http://www.kalyanamitra.org/u-ni-boon/main/index
ปล.
1 ก็ บังเอิญ ข่าวที่ว่า ก็ สร้างแรงบันดาลใจให้อยากรู้ ธรรมะขึ้นมานะเจ้าคะ ถือเป็นสิ่งดี ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง อยากจะบอกว่า ข่าวนั้น หาได้ ระคาย ความรู้สึกไม่ (ซึ่งก็ดีใจนะคะ เข้าไปอ่านทู้นั้นมา ทุกคนหนักแน่นดี)...เพราะ เดี๊ยนเอง ก็ เชื่อในสิ่งที่เห็น...ซึ่ง ตาบี้เค้าก็พิสูจน์ด้วยตัวของเค้าเองล้วนๆ มาแล้ว 7 ปี
เศร้า เซ็ง ก็แต่ว่า ตาบี้ เพิ่งมีโอกาส พักผ่อน แท้ๆ ยังจะมีไอ้เรื่องแบบนี้ –แต่แกร่งอยู่แล้วล่ะ กว่าจะถึงวันนี้...
แหมๆๆๆ ถ้าทำได้ ก็อยากจะกระซิบข้างหู เลียนแบบพ่อโกหน่อยคงดี “..หลับซะนะ.."”อร๊าย..ยยยยยยยยยยย จิ้นได้อยู่
2.ระหว่างอ่านทู้ข่าวนั่น ก็คิดไปไกล...ถึง ขวัญใจมหาชน ปีที่ 6 ได้อี๊ก 5555 ขอบคุณ คุณคนนั้นอยู่เหมือนกัน ที่เพิ่มพลังได้อย่างประหลาดเจ้าค่ะ...ขอให้ทุกคนที่คิดดี-ทำดี จงมีแต่ความสุข
อ๊ะ..ยาวอีกแล้วขอโทษเจ้าค่ะ กำลังอิน...รอบนี้ สวทร = สวรรค์ ทดสอบ ความรัก เจ้าค่ะ
เติมอีกนิดเจ้าค่ะ รักมากมาย จริงๆ
http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2012/03/A11890326/A11890326.html
(คู่กรรม-บี้#สวทร) กราบเรียนคุณคนนั้นและผู้เกี่ยวข้อง การทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว ย่อมอาจช่วยรักษาโรคร้ายได้นะคะ
ก็เลยอยากจะบอกคุณในข่าว คนเขียนข่าว และผู้เกี่ยวข้องว่า สิ่งที่คุณเลือก ตั้งใจที่จะกระทำ นั้น โดยเฉพาะ หากคุณกำลังถูกโรคร้ายคุกคาม..ซึ่งคุณคงมีความทุกข์มากพออยู่แล้ว แต่สิ่งที่คุณคิดจะทำ มันก็ไม่ใช่ทางดับความทุกข์นั้นได้ แม้แต่น้อย..บางที มันอาจจะรังแต่นำความทุกข์ ติดตามคุณไปทุกแห่งหน..แม้เมื่อคุณได้ละกายหยาบนี้ไปแล้ว ก็ตาม
เท่าที่ได้อ่าน ข่าวนั้น ดูๆ แล้ว ก็ยังไม่เห็นว่าสิ่งที่คุณตั้งใจจะกระทำมันเกิดประโยชน์อันใดกับโลกใบนี้...นอกจาก ประโยชน์ อันไม่จีรัง กับตัวคุณเอง ซ้ำยังอาจนำมาซึ่งความทุกข์อื่นๆ ต่อไป เท่าที่ได้อ่าน ข่าวนั้น ก็พอคาดเดาตัวตน และจิตใจของคุณ ได้ประมาณหนึ่ง
...ลองหันกลับมาดู ฝ่ายที่คุณตั้งใจ จะกระทำ ดูบ้าง ว่าเขาได้ ให้ อะไร กับสังคม-มหาชน คนที่รักเขา คุณค่าของคนอยู่ที่ผลแห่งการกระทำ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ คำบอกเล่า จากปากของคนไม่กี่คน จริงมั้ยคะ
อ้างอิงจาก http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2012/08/A12521271/A12521271.html
http://www.sudsapda.com/konlor/video/2632/
“...เริ่มจากผมได้รับหนังสือชื่อ อภัยทาน รักบริสุทธิ์ จากผู้จัดการส่วนตัว พอมีเวลาว่างก็หยิบขึ้นมาอ่าน อ่านไปก็เอาปากกาไฮไลท์ประโยคที่ชอบไปด้วย รู้สึกว่าได้แง่คิด...” (คหสต ถึงขั้นไฮไลท์หนังสือเนี่ย จริงจังมากๆ อ่ะ)
กิจกรรม คนหล่อขอทำดี ปี 5 ของนิตยสารแพรวสุดสัปดาห์ ปี 2555 บี้ สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว พิมพ์หนังสือธรรมะ “อภัยทาน” แจกให้คนทั่วไปได้นำข้อคิดไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งผู้ป่วย คุณหมอ เด็ก ฯลฯ เมื่อได้หนังสือของบี้แล้ว ก็น่าจะเกิดประโยชน์ต่อตนเอง รวมไปถึงการแนะนำให้คนรอบข้างได้ข้อคิด และร่วมกัน ทำสิ่งดีแก่ชีวิตตนและสังคม ได้อีก
...อภัยทาน...การให้อภัย การให้อภัย เป็น ธรรมชั้นสูง น่ายกย่อง การให้อภัย เป็น งานชั้นเยี่ยมของชีวิต การให้อภัย คือ การทำบุญให้ตนเอง ผู้ให้อภัย เป็นผู้ชนะ และเป็นสุข .....”
อย่างไรก็ดี ต้องขอขอบคุณ คุณในข่าวคนนั้น ผู้เขียนข่าว และผู้เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เดี๊ยน ซึ่งก็แค่นำหลักธรรมข้อใหญ่ๆ อริยสัจ 4 มาใช้กว้างๆ ง่ายๆ สร้างสุขแก่ตนเอง ผู้อื่น แบบพื้นๆ ไม่ได้เจาะลึกลงรายละเอียดในเรื่องอื่นๆ ของพุทธศาสนา ได้ กลับมาสนใจ ศึกษาธรรมะ มากขึ้น..รู้สึกขอบคุณ นะคะ และก็ขออนุญาตใช้โอกาสนี้ บอกเล่าให้มิตรสหายได้ร่วมศึกษาไปด้วยกัน น่าสนใจมากเจ้าค่ะ
“...บุคลิกดี เสียงดีนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ กับคนใดคนหนึ่ง ผู้ที่จะได้สิ่งนี้มา จะต้องฝึกตัวติดต่อกันมาหลายชาติทีเดียว
คนที่บุคลิกดีอย่างน้อยที่สุดต้องรักษาศีลมาดี ไม่เคยไปทุบตี ทำร้ายใคร รู้จักขวนขวายช่วยเหงืองานบุญงานกุศล มีความเคารพนบนอบผู้ใหญ่และผู้ปฏิบัติธรรม ผลของความดีนี้เลยส่งผลให้ข้ามภพข้ามชาติมาทำให้ได้บุคลิกดี
คนที่เสียงดี ถามว่าสร้างบุญอะไรมาหรือ? พวกนี้โดยทั่วๆ ไปก็คือ ข้ามภพข้ามชาติมาไม่นินทาคนอื่น ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อ ได้สวดมนต์บูชาสรรเสริญพระรัตนตรัยเป็นประจำ ได้ยกย่องสรรเสริญบูชาบุคคลที่ทำความดี คนที่ควรบูชาในทุกโอกาส
คนที่ได้ลักษณะดีๆ มานั้นเป็นผลจากการทำความดีข้ามภพข้ามชาติของเขาเอง...”
อ้างอิง http://www.dmc.tv/pages/good_QA/
“...แทนที่จะถามว่าทำไมใครๆ ถึงไม่รักเรา กลับเที่ยวไปโกรธไปเคืองเขา หรือว่าเที่ยวไปอิจฉา คนที่มีคนรักเต็มบ้านเต็มเมือง ต้องมองและตั้งคำถามใหม่ให้เป็น คือ แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไม เขาไม่รักเรา ก็ตั้งคำถามเสียใหม่ว่าเราไม่น่ารักตรงไหน แล้วเริ่มสำรวจตรวจสอบตัวเอง
อิจฉา หมายถึง เห็นเขาได้ดีแล้วไม่พอใจ อยากจะมีหรือเป็นอย่างเขาบ้าง (มีความหมายเบากว่า ริษยา)
ริษยา หมายถึง อาการที่ไม่อยากให้คนอื่นได้ดี หนักขึ้น เห็นเขาได้ดีแล้วทนนิ่งไม่ได้
นิสัยอิจฉาริษยานี้ จะเกิดขึ้นกับคนที่มีความดีในตัวน้อยกว่าคนอื่น แต่แทนที่จะคิดแก้ไขตัวเอง กลับไปคิดในทางผิดๆ ในทางร้ายๆ
คือ แทนที่จะยกตัวเองขึ้นมาด้วยการทำ ความดีให้ยิ่งขึ้นไป กลายเป็นว่าความดีก็ไม่ทำ แถมยังคิดจะเหยียบคนอื่นลงไปด้วยฤทธิ์แห่งความเข้าใจผิด จนกลายเป็นความอิจฉาริษยา ไม่อยากให้ใครได้ดีเสียอีก
ก็สะท้อนให้เห็นว่า ถ้าอย่างนั้นในใจของคนที่ชอบอิจฉาริษยา ก็คงจะมีแต่ความเศร้าหมอง คิดที่จะสร้างสรรค์อะไรกับใครเขาไม่เป็น คิดออกแต่ในเรื่องที่จะทำลายทำร้ายคนอื่นอยู่ร่ำไป ...”
อ้างอิง http://www.kalyanamitra.org/u-ni-boon/main/index.php?option=com_content&task=view&id=214&Itemid=
วิธีเอาชนะ คนประเภทนี้
เราไม่ควรจะไปทำอะไรเค้าโดยตรง เพราะเค้าจะมีความสุขที่มีคนไปสนใจ และจากข้อสุดท้ายจึงได้ข้อสรุปวิธีที่รับมือกับคนพวกนี้ที่ดีที่สุดเลยคือ...การทำให้คนขี้อิจฉาเจ็บที่สุดคือการทำตัวเองให้มีความสุขจนมันอิจฉาจนขาดใจตาย
รับรองวิธีนี้แหละ เด็ด!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อ้างอิง http://www.kalyanamitra.org/u-ni-boon/main/index
ปล.
1 ก็ บังเอิญ ข่าวที่ว่า ก็ สร้างแรงบันดาลใจให้อยากรู้ ธรรมะขึ้นมานะเจ้าคะ ถือเป็นสิ่งดี ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง อยากจะบอกว่า ข่าวนั้น หาได้ ระคาย ความรู้สึกไม่ (ซึ่งก็ดีใจนะคะ เข้าไปอ่านทู้นั้นมา ทุกคนหนักแน่นดี)...เพราะ เดี๊ยนเอง ก็ เชื่อในสิ่งที่เห็น...ซึ่ง ตาบี้เค้าก็พิสูจน์ด้วยตัวของเค้าเองล้วนๆ มาแล้ว 7 ปี
เศร้า เซ็ง ก็แต่ว่า ตาบี้ เพิ่งมีโอกาส พักผ่อน แท้ๆ ยังจะมีไอ้เรื่องแบบนี้ –แต่แกร่งอยู่แล้วล่ะ กว่าจะถึงวันนี้...
แหมๆๆๆ ถ้าทำได้ ก็อยากจะกระซิบข้างหู เลียนแบบพ่อโกหน่อยคงดี “..หลับซะนะ.."”อร๊าย..ยยยยยยยยยยย จิ้นได้อยู่
2.ระหว่างอ่านทู้ข่าวนั่น ก็คิดไปไกล...ถึง ขวัญใจมหาชน ปีที่ 6 ได้อี๊ก 5555 ขอบคุณ คุณคนนั้นอยู่เหมือนกัน ที่เพิ่มพลังได้อย่างประหลาดเจ้าค่ะ...ขอให้ทุกคนที่คิดดี-ทำดี จงมีแต่ความสุข
อ๊ะ..ยาวอีกแล้วขอโทษเจ้าค่ะ กำลังอิน...รอบนี้ สวทร = สวรรค์ ทดสอบ ความรัก เจ้าค่ะ
เติมอีกนิดเจ้าค่ะ รักมากมาย จริงๆ
http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2012/03/A11890326/A11890326.html