สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
อินเทิร์น เราจะก้าวข้ามช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน
ตอน
ต้องสู้จึงจะชนะ ...?
“หมอวศิน คนไข้แพ้อาหาร วัดความดันไม่ได้ค่ะ” เสียงจากโทรศัพท์ทำให้วศินต้องรีบวางสายและบอกคนไข้ที่กำลังตรวจอยู่ให้รอด้านหน้าห้องและเปลี่ยนไปตรวจกับหมอโกวิทที่นั่งห้องข้างๆก่อน เขาเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉิน ในนั้นเขาเห็นเด็กหญิงวัยรุ่นนอนบนเตียง ยังหันหน้าไปมาได้อยู่ ... วศินให้พี่พยาบาลกดวัดความดันใหม่ทันทีก่อนจะเดินไปฟังปอดซึ่งมีเสียงวี้ดเหมือนลมที่กำลังวิ่งผ่านในที่แคบ
“ฉีดแอดรีนาลิน 0.3 ซีซีเข้ากล้ามครับ แล้วเอาเวนโทลินมาพ่นด้วย” วศินบอกก่อนจะหันไปทางพยาบาลที่กำลังปรับน้ำเกลืออยู่ “ให้น้ำเกลือ free flowเลยครับ”
วศินมองที่เครื่องวัดความดันที่ไม่อ่านค่าความดันของเด็กสาว จึงไปจับชีพจรที่ขาหนีบที่ยังคลำได้อยู่ แต่ชีพจรที่มือคลำได้อย่างเบาๆ ... แล้วเอาเครื่องวัดความดันแบบวัดมือมาวัดเอง ได้50/30
หลังจากฉีดยาได้ประมาณ 3 นาที ความดันก็ค่อยๆดีขึ้นช้าๆจนมาเป็นปกติ เสียงหายใจที่ดังหวีดหวิวเมื่อครู่ ตอนนี้โล่งขึ้นมาก วศินเขียนชาร์ทเพื่อให้เตรียมนอนโรงพยาบาลสังเกตอาการ
“ คุณศจีกินอะไรก่อนมีอาการครับ” วศินถามเด็กสาว
“กินกุ้งแช่น้ำปลาค่ะ พอดีเห็นเพื่อนกินเลยอยากกิน” เด็กสาวตอบ ... วศินเหลือบมองชาร์ทผู้ป่วยที่เขียนตัวดอกจันไว้ตรงด้านหน้าว่า “แพ้กุ้ง”
“ปกติแพ้อาหารแพ้เป็นอะไรเหรอครับ”
“แพ้กุ้งค่ะ”
วศินฟังแล้วให้ฉงนเล็กน้อย เพราะเด็กคนนี้ก็รู้ว่าตนเองแพ้อะไร ... เปิดดูในประวัติผู้ป่วยก็เห็นว่าเคยแพ้แบบนี้มาหลายครั้ง ทุกครั้งที่มาโรงพยาบาลก็มีประวัติการกินกุ้ง
“หลายครั้งแล้วล่ะหมอ ... ปกติจะไปโดนลงที่เวรหมอโกวิทกับหมอสุรศักดิ์ตลอด” พยาบาลคนนึงบอก “ก็บอกทุกครั้งแล้วว่าห้ามกิน ห้ามกิน แต่ก็กินมาทุกครั้ง”
วศินก้มหน้าก้มตาเขียนต่อไป ซักประวัติและสั่งยาแก้แพ้กับสเตียรอยด์ฉีดให้ เดินหาญาติของเด็กสาวแต่ไม่พบ ก็เลยให้เข้าตึกไปก่อน จากนั้นเขาก็กลับไปห้องตรวจ ตรวจคนไข้ที่นั่งรอกันอยู่ต่อ
เที่ยงแล้ว แพทย์หนุ่มเดินไปกินข้าวที่เพิงหน้าโรงพยาบาล สั่งข้าวแล้วก็ไปนั่งที่โต๊ะกับเพื่อนทั้ง2
“โกวิท สุรศักดิ์ นายเคยเจอเคสน้องศจี ที่แพ้กุ้งมาบ่อยๆไหม” วศินถามอย่างสงสัย
“เคยสิ เราเจอ3-4ครั้งแล้ว ทั้งแนะนำทั้งให้ยาติดตัวไปแล้ว” สุรศักดิ์บอก
“เราก็เคย ต้องให้พกเข็มฉีดยากับแอดรีนาลินติดตัวไว้เลย” โกวิทบอก
ปกติคนที่มีประวัติการแพ้รุนแรงจะต้องพกแอดรีนาลินติดตัวไว้เสมอ ในต่างประเทศจะมีปากกาสำเร็จรูปที่สามารถเปิดปลอกแล้วแทงเข็มผ่านเสื้อผ้าได้เลย แต่ในประเทศไทย ยานี้มีเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ๆและโรงเรียนแพทย์บางแห่งเท่านั้น ด้วยราคาที่แพงทำให้แพทย์ในต่างจังหวัดอย่างเขาๆต้องสอนคนไข้ให้พกเข็มฉีดยาแล้วดูดยาเตรียมไว้ติดตัวแทน
“วันนี้มาอีกแล้วว่ะ “วศินบอก “แพ้กุ้งมาแบบเดิมเลย”
“เอาอีกแล้วเหรอ แต่แปลกนะ เราเคยไปที่โรงเรียนแล้วกำชับครูกับเพื่อนแล้วว่าห้ามกินกุ้งเด็ดขาด และไม่ให้เอามากินยั่วเพื่อนด้วย” สุรศักดิ์บอก
“เราก็เคยบอกที่บ้านเค้านะ ว่าห้ามทำเมนูที่มีกุ้งปูหรือแมลงเด็ดขาด” โกวิทพูดขึ้น “ แต่จะว่าไปบ้านนี้มีแปลกๆนิดนึง ตอนที่มานอนโรงพยาบาลรอบล่าสุดเค้าไม่ยอมให้เราฉีดยาเดกซ่าด้วย ไม่ยอมบอกว่าทำไม”
ทั้งสามคนนั่งอย่างฉงนฉงาย มองดูควายที่แช่น้ำในปลักตรงทุ่งนาที่ห่างออกไประหว่างรอข้าว ข้าวของวศินถูกยกออกมาตรงหน้า
“วันนี้โชคดีว่ะ ได้กินตรงเวลาสักที”วศินหยิบช้อนมาเตรียมจะลงมือกิน ก่อนจะมีเสียงตะโกนมาจากตึกผู้ป่วย
“หมอออออ คนไข้ความดันตกวัดไม่ได้ หมอมาเร็ว”
เสียงพยาบาลดังแว้ดมาจากตึกที่ห่างออกไป30กว่าเมตรทำให้วศินวางช้อนข้าวลง กระดกน้ำในแก้วแล้ววิ่งไป โกวิทหันไปมองป้าร้านข้าว
“ป้า เอาไปเก็บในตู้ก่อนแล้วกัน ท่าจะนาน”
วศินวิ่งไปถึงตึกผู้ป่วยฝั่งหญิง พยาบาลกำลังมะรุมมะตุ้มติดเครื่องมือเข้าที่ตัวเด็กสาวซึ่งตอนนี้กำลังหายใจหอบตัวโยน
“ให้พ่นเวนโทลินแล้วหมอ ฉีดซีพีเอ็มแล้ว ความดันต่ำมาก 50/30” หัวหน้าเวรพยาบาลรายงาน “ ตอนนี้ปรับน้ำเกลือเปิดฟรีไปแล้ว”
วศินสั่งให้ฉีดแอดรีนาลินซ้ำเหมือนตอนที่อยู่ที่ห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ฟังปอดของเด็กสาวตรงหน้า เสียงการหายใจดังหวีดรุนแรงเสียยิ่งกว่าตอนที่มาถึงห้องฉุกเฉิน
“เตรียมใส่ท่อช่วยหายใจ” วศินบอก พลางมองไปรอบๆ ข้าวโรงพยาบาลของเด็กคนนี้ยังปิดฝาไว้ เปิดแง้มดูไม่มีอะไรผิดปกติ เป็นข้าวต้มหมูธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมดาคือที่ข้างเตียง มีข้าวต้มใส่กุ้งตัวมหึมา กับหางกุ้งที่โดนกินตัวไปแล้ว3หาง!!!
“ญาติเด็กอยู่ไหน” วศินถาม พยาบาลชี้ไปที่ประตู มีคนยืนอยู่ตรงนั้น 5 คน
“คนไหนเป็นญาติใกล้ชิดของเด็กครับ” วศินถาม ผ้หญิงคนนึงยกมือขึ้นบอกว่าเป็นแม่
“ตอนนี้น้องศจีมีอาการแพ้รุนแรง ความดันต่ำ หลอดลมตีบมากหายใจไม่ได้ ถ้าหากจำเป็นผมจะต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อช่วยให้เค้าหายใจได้” วศินบอก ... แม่เด็กเอามือทาบอกแสดงท่าทางตกใจ
“ไม่ใส่ได้ไหมหมอ ให้เด็กมันได้สู้บ้าง ไม่งั้นมันเคยตัว” ชายคนที่ยืนข้างหลังพูดขึ้น
“ถ้าจำเป็นแต่ไม่ใส่ จะถึงขั้นเสียชีวิตได้นะครับ” วศินตอบพลางฉงนสงสัยว่าอะไรคือความหมายของคำว่า’เคยตัว’
“ความดันเท่าไหร่ครับ”วศินตะโกนไปด้านหลัง พยาบาลหันเครื่องวัดความดันที่แสดงตัวเลข 86/54ให้ดู วศินเดินกลับฟังปอดเด็กอีกครั้ง เสียงดีขึ้นกว่าเมื่อครู่เล็กน้อยแต่ยังไม่ดีเสียทีเดียว เขาสั่งฉีดแอดรีนาลินซ้ำอีกเข็มเข้ากล้ามเนื้อต้นขาก่อนจะเดินกลับมา ชายคนเมื่อครู่ทำท่าเดินไปหาพยาบาล
“ไม่ต้องฉีดไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น หยุด หยุด หยุดให้หมด” ชายคนนั้นร้องเสียงดัง
“คุณจะทำอะไร” วศินถามด้วยน้ำเสียงอย่างเป็นทางการและจงใจไม่ใช้หางเสียง ... สถานการณ์มันแปลกๆ
“พวกหมอเอาแต่มาฉีดยาสเตียรอยด์ให้หลานผม รักษาห่าเหวอะไรไม่เคยหาย ... เพราะทำแต่แบบนี้หลานผมมันเลยเป็นแต่ไอ้เด็กขี้แพ้แบบนี้”
“เด็กขี้แพ้?” วศินถามขึ้นอย่างสงสัย แต่ก็ทำสัญญาณมือให้พยาบาลฉีดยาไปก่อน
“ก็เด็กมันแพ้กุ้ง แต่หมอมัวแต่มาสั่งมันห้ามกินกุ้ง แล้วมันจะชนะได้ยังไง” ชายคนนั้นโวยวาย “ผมรู้นะว่าหมอฉีดสเตียรอยด์ให้มันด้วย เป็นหมออะไรไม่รู้ว่าสเตียรอยด์มันอันตราย ถามจริงเหอะ หมอซื้อใบประกาศมาหรือเปล่า”
“เดี๋ยวก่อน” แพทย์หนุ่มยกมือขึ้นในท่าพระพุทธรูปปางห้ามญาติ เพื่อให้ญาติคนไข้หยุดพูด “คุณเป็นอะไรกับคนไข้”
“ผมเป็นอา” ชายคนนั้นตอบ
“คุณอา ... อย่าบอกนะครับว่ากุ้งในชามนั่นคือคุณเอามาให้เด็กกิน”
“เออ ใช่ ผมเอาให้มันกินเอง มันจะได้ชนะซะที”
“คุณอา ... อาการแพ้อาหาร คือภาวะภูมิแพ้ เกิดจากภูมิคุ้มกันในร่างกายทำปฏิกิริยาไวเกินกับอาหารที่กินเข้าไป”วศินบรรยาย”คำว่าภูมิแพ้คือโรคที่ภาษาอังกฤษเรียกว่าอัลเลอร์จี้ ไม่ได้หมายความถึงแพ้หรือชนะอะไร”
“หมอไม่ต้องมาเถียง หมอน่ะเรียนมาแต่วิชาฝรั่ง จะไปรู้อะไร”
“คุณ ... โรคภูมิแพ้อาหารจนช็อคความดันต่ำ มีในตำราไทยด้วยเหรอครับ” วศินพูดพลางเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะเดินกลับไปดูเด็กอีกครั้ง แม่เด็กกับญาติเดินตามมาติดๆ วศินฟังเสียงปอดและตรวจความดันโลหิตอีกครั้ง อาการของเด็กดีขึ้นมาก ความดันขึ้นเป็น 110/80 เสียงหลอดลมที่ตีบแคบก็ดีขึ้นแล้วด้วยยาที่ให้ไป
“ตอนนี้อาการดีขึ้น คิดว่าไม่จำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจแล้ว แต่คงต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดนะครับ” วศินบอกแม่
“เป็นไงล่ะไอ้หมอ เห็นหรือยังว่าให้กินกุ้งน่ะได้ผล ดีขึ้นจริงๆ” ชายคนนั้นพูดโพล่งขึ้นมา
“คุณครับ เมื่อสักครู่หมอให้ยาที่ลดอาการแพ้ไปสองเข็ม ดีขึ้นจากยาไม่ใช่ดีขึ้นจากกินกุ้งของคุณ ... ผมเชิญคุณด้านนอกครับ ผมจะขอคุยกับแม่เด็ก” วศินผายมือเชิญ แต่ชายคนนั้นไม่ยอม ยังยืนอยู่แต่ถอยห่างออกไปหน่อย
“ตอนนี้น้องเค้าอาการดีขึ้นแล้ว แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ” วศินบอกมารดาที่นั่งข้างเตียง “แต่หมอคงต้องขอคุยด้วยนิดนึงเรื่องโรคที่เป็น”
“น้องศจีมีภาวะแพ้อาหาร โดยแพ้กุ้งแบบรุนแรง อาการแพ้ที่เป็นรุนแรงถึงชีวิตได้หากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที ... ผมคงต้องย้ำอีกครั้งว่าคำว่าแพ้ในที่นี้หมายถึงภาวะที่ร่างกายตอบสนองกับของที่แพ้รุนแรง ไม่ได้เกี่ยวกับการแพ้หรือชนะในความหมายทั่วไป”
มารดาของเด็กพยักหน้า
“ผมขอย้ำอีกครั้งว่าน้องศจีต้องหลีกเลี่ยงอาหารในกลุ่มกุ้งทั้งหมด และอาจจะต้องรวมไปถึงปูและกลุ่มแมลง เพราะสามารถเกิดอาการแบบนี้ได้เหมือนกัน และจะต้องมียาฉีดติดตัว ซึ่งผมจะจัดการให้ในวันกลับ ... สำหรับยาสเตียรอยด์ เป็นยาที่จำเป็นต้องให้ในระยะสั้นๆ ... อันตรายของสเตียรอยด์ที่เห็นตามทีวี คืออันตรายจากสเตียรอยด์ที่เอามาผสมในยาลูกกลอนที่เอามากินติดต่อกันเป็นเวลานาน ไม่เกี่ยวกันในกรณีนี้ที่หมอให้แค่ระยะสั้น และน้องเค้าจะไม่ต้องกินหรือฉีดยานี้ หากไม่มีการแพ้ซ้ำขึ้นอีก คุณแม่เข้าใจนะครับ”
มารดาเด็กพยักหน้าอีก “ชั้นน่ะเข้าใจดี แต่น้องชั้นน่ะเค้าไม่เชื่อ ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”
สิ้นเสียงคำพูดของแม่เด็กที่พูดถึงตัว อาของเด็กก็เดินเข้ามา
“ไม่ต้องรักษงรักษามันที่นี่หรอก เอากลับบ้าน มาโรงบาลก็เป็นซ้ำซากเลี้ยงไข้ตลอด” หันมาทางวศิน “ หมอรับรองไหมว่าจะไม่มีครั้งหน้า “
“ถ้ากินมาอีกก็เป็นอีกครับ”
“พูดจาหมาๆแบบนี้ อยากออกสรยุทธถึงลูกถึงคนใช่ไหมหมอ”
“พี่พยาบาลครับ ขอเวชระเบียน กระดาษปากกาหน่อยครับ”วศินร้องเรียก
“เอากระดาษปากกามาทำไม”
วศินรับกระดาษปากกามาวางตรงหน้า
“ผมอยากให้คุณลงลายมือชื่อไว้ ว่าได้รับฟังที่หมอบอกแล้ว และไม่เชื่อ ยังยืนยันจะให้น้องเค้ากินของที่เค้าแพ้โดยที่หมออธิบายแล้วว่าอันตรายถึงตาย” วศินพูดอย่างจริงจัง “ ผมขอบอกไว้ก่อนว่าในกรณีที่คุณรับทราบแล้วแต่ยังเอาให้กิน หากน้องเค้าเป็นอะไรขึ้นมา ผมจะได้เอาใบนี้ไปออกสรยุทธกับเอาไปแจ้งความว่าคุณทำให้คนบาดเจ็บโดยเจตนา”
“กูไม่เซ็น ... หมออยากทำอะไรก็ทำไป” ชายคนนั้นโบกมือแล้วเดินออกไป
วศินหันไปทางมารดาเด็ก “ ขอโทษนะครับผมคงต้องขอถาม น้องชายคุณแม่เคยมีประวัติการรักษาโรคทางจิตประสาทหรือเปล่าครับ”
“เคยรักษาที่นครสวรรค์ หมอเค้าบอกว่าเป็นลูชั่นลูชั่นอะไรเนี่ยแหละ แต่หายมาหลายปีแล้ว”
วศินพยักหน้า คิดในใจว่าน่าจะเป็นดีลูชั่น
“ได้เวลาพากลับไปหาจิตแพทย์แล้วล่ะครับ”
เอามาจากเฟซบุ๊กหมอแมว https://www.facebook.com/photo.php?fbid=506043322788457
ตอน
ต้องสู้จึงจะชนะ ...?
“หมอวศิน คนไข้แพ้อาหาร วัดความดันไม่ได้ค่ะ” เสียงจากโทรศัพท์ทำให้วศินต้องรีบวางสายและบอกคนไข้ที่กำลังตรวจอยู่ให้รอด้านหน้าห้องและเปลี่ยนไปตรวจกับหมอโกวิทที่นั่งห้องข้างๆก่อน เขาเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉิน ในนั้นเขาเห็นเด็กหญิงวัยรุ่นนอนบนเตียง ยังหันหน้าไปมาได้อยู่ ... วศินให้พี่พยาบาลกดวัดความดันใหม่ทันทีก่อนจะเดินไปฟังปอดซึ่งมีเสียงวี้ดเหมือนลมที่กำลังวิ่งผ่านในที่แคบ
“ฉีดแอดรีนาลิน 0.3 ซีซีเข้ากล้ามครับ แล้วเอาเวนโทลินมาพ่นด้วย” วศินบอกก่อนจะหันไปทางพยาบาลที่กำลังปรับน้ำเกลืออยู่ “ให้น้ำเกลือ free flowเลยครับ”
วศินมองที่เครื่องวัดความดันที่ไม่อ่านค่าความดันของเด็กสาว จึงไปจับชีพจรที่ขาหนีบที่ยังคลำได้อยู่ แต่ชีพจรที่มือคลำได้อย่างเบาๆ ... แล้วเอาเครื่องวัดความดันแบบวัดมือมาวัดเอง ได้50/30
หลังจากฉีดยาได้ประมาณ 3 นาที ความดันก็ค่อยๆดีขึ้นช้าๆจนมาเป็นปกติ เสียงหายใจที่ดังหวีดหวิวเมื่อครู่ ตอนนี้โล่งขึ้นมาก วศินเขียนชาร์ทเพื่อให้เตรียมนอนโรงพยาบาลสังเกตอาการ
“ คุณศจีกินอะไรก่อนมีอาการครับ” วศินถามเด็กสาว
“กินกุ้งแช่น้ำปลาค่ะ พอดีเห็นเพื่อนกินเลยอยากกิน” เด็กสาวตอบ ... วศินเหลือบมองชาร์ทผู้ป่วยที่เขียนตัวดอกจันไว้ตรงด้านหน้าว่า “แพ้กุ้ง”
“ปกติแพ้อาหารแพ้เป็นอะไรเหรอครับ”
“แพ้กุ้งค่ะ”
วศินฟังแล้วให้ฉงนเล็กน้อย เพราะเด็กคนนี้ก็รู้ว่าตนเองแพ้อะไร ... เปิดดูในประวัติผู้ป่วยก็เห็นว่าเคยแพ้แบบนี้มาหลายครั้ง ทุกครั้งที่มาโรงพยาบาลก็มีประวัติการกินกุ้ง
“หลายครั้งแล้วล่ะหมอ ... ปกติจะไปโดนลงที่เวรหมอโกวิทกับหมอสุรศักดิ์ตลอด” พยาบาลคนนึงบอก “ก็บอกทุกครั้งแล้วว่าห้ามกิน ห้ามกิน แต่ก็กินมาทุกครั้ง”
วศินก้มหน้าก้มตาเขียนต่อไป ซักประวัติและสั่งยาแก้แพ้กับสเตียรอยด์ฉีดให้ เดินหาญาติของเด็กสาวแต่ไม่พบ ก็เลยให้เข้าตึกไปก่อน จากนั้นเขาก็กลับไปห้องตรวจ ตรวจคนไข้ที่นั่งรอกันอยู่ต่อ
เที่ยงแล้ว แพทย์หนุ่มเดินไปกินข้าวที่เพิงหน้าโรงพยาบาล สั่งข้าวแล้วก็ไปนั่งที่โต๊ะกับเพื่อนทั้ง2
“โกวิท สุรศักดิ์ นายเคยเจอเคสน้องศจี ที่แพ้กุ้งมาบ่อยๆไหม” วศินถามอย่างสงสัย
“เคยสิ เราเจอ3-4ครั้งแล้ว ทั้งแนะนำทั้งให้ยาติดตัวไปแล้ว” สุรศักดิ์บอก
“เราก็เคย ต้องให้พกเข็มฉีดยากับแอดรีนาลินติดตัวไว้เลย” โกวิทบอก
ปกติคนที่มีประวัติการแพ้รุนแรงจะต้องพกแอดรีนาลินติดตัวไว้เสมอ ในต่างประเทศจะมีปากกาสำเร็จรูปที่สามารถเปิดปลอกแล้วแทงเข็มผ่านเสื้อผ้าได้เลย แต่ในประเทศไทย ยานี้มีเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ๆและโรงเรียนแพทย์บางแห่งเท่านั้น ด้วยราคาที่แพงทำให้แพทย์ในต่างจังหวัดอย่างเขาๆต้องสอนคนไข้ให้พกเข็มฉีดยาแล้วดูดยาเตรียมไว้ติดตัวแทน
“วันนี้มาอีกแล้วว่ะ “วศินบอก “แพ้กุ้งมาแบบเดิมเลย”
“เอาอีกแล้วเหรอ แต่แปลกนะ เราเคยไปที่โรงเรียนแล้วกำชับครูกับเพื่อนแล้วว่าห้ามกินกุ้งเด็ดขาด และไม่ให้เอามากินยั่วเพื่อนด้วย” สุรศักดิ์บอก
“เราก็เคยบอกที่บ้านเค้านะ ว่าห้ามทำเมนูที่มีกุ้งปูหรือแมลงเด็ดขาด” โกวิทพูดขึ้น “ แต่จะว่าไปบ้านนี้มีแปลกๆนิดนึง ตอนที่มานอนโรงพยาบาลรอบล่าสุดเค้าไม่ยอมให้เราฉีดยาเดกซ่าด้วย ไม่ยอมบอกว่าทำไม”
ทั้งสามคนนั่งอย่างฉงนฉงาย มองดูควายที่แช่น้ำในปลักตรงทุ่งนาที่ห่างออกไประหว่างรอข้าว ข้าวของวศินถูกยกออกมาตรงหน้า
“วันนี้โชคดีว่ะ ได้กินตรงเวลาสักที”วศินหยิบช้อนมาเตรียมจะลงมือกิน ก่อนจะมีเสียงตะโกนมาจากตึกผู้ป่วย
“หมอออออ คนไข้ความดันตกวัดไม่ได้ หมอมาเร็ว”
เสียงพยาบาลดังแว้ดมาจากตึกที่ห่างออกไป30กว่าเมตรทำให้วศินวางช้อนข้าวลง กระดกน้ำในแก้วแล้ววิ่งไป โกวิทหันไปมองป้าร้านข้าว
“ป้า เอาไปเก็บในตู้ก่อนแล้วกัน ท่าจะนาน”
วศินวิ่งไปถึงตึกผู้ป่วยฝั่งหญิง พยาบาลกำลังมะรุมมะตุ้มติดเครื่องมือเข้าที่ตัวเด็กสาวซึ่งตอนนี้กำลังหายใจหอบตัวโยน
“ให้พ่นเวนโทลินแล้วหมอ ฉีดซีพีเอ็มแล้ว ความดันต่ำมาก 50/30” หัวหน้าเวรพยาบาลรายงาน “ ตอนนี้ปรับน้ำเกลือเปิดฟรีไปแล้ว”
วศินสั่งให้ฉีดแอดรีนาลินซ้ำเหมือนตอนที่อยู่ที่ห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ฟังปอดของเด็กสาวตรงหน้า เสียงการหายใจดังหวีดรุนแรงเสียยิ่งกว่าตอนที่มาถึงห้องฉุกเฉิน
“เตรียมใส่ท่อช่วยหายใจ” วศินบอก พลางมองไปรอบๆ ข้าวโรงพยาบาลของเด็กคนนี้ยังปิดฝาไว้ เปิดแง้มดูไม่มีอะไรผิดปกติ เป็นข้าวต้มหมูธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมดาคือที่ข้างเตียง มีข้าวต้มใส่กุ้งตัวมหึมา กับหางกุ้งที่โดนกินตัวไปแล้ว3หาง!!!
“ญาติเด็กอยู่ไหน” วศินถาม พยาบาลชี้ไปที่ประตู มีคนยืนอยู่ตรงนั้น 5 คน
“คนไหนเป็นญาติใกล้ชิดของเด็กครับ” วศินถาม ผ้หญิงคนนึงยกมือขึ้นบอกว่าเป็นแม่
“ตอนนี้น้องศจีมีอาการแพ้รุนแรง ความดันต่ำ หลอดลมตีบมากหายใจไม่ได้ ถ้าหากจำเป็นผมจะต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อช่วยให้เค้าหายใจได้” วศินบอก ... แม่เด็กเอามือทาบอกแสดงท่าทางตกใจ
“ไม่ใส่ได้ไหมหมอ ให้เด็กมันได้สู้บ้าง ไม่งั้นมันเคยตัว” ชายคนที่ยืนข้างหลังพูดขึ้น
“ถ้าจำเป็นแต่ไม่ใส่ จะถึงขั้นเสียชีวิตได้นะครับ” วศินตอบพลางฉงนสงสัยว่าอะไรคือความหมายของคำว่า’เคยตัว’
“ความดันเท่าไหร่ครับ”วศินตะโกนไปด้านหลัง พยาบาลหันเครื่องวัดความดันที่แสดงตัวเลข 86/54ให้ดู วศินเดินกลับฟังปอดเด็กอีกครั้ง เสียงดีขึ้นกว่าเมื่อครู่เล็กน้อยแต่ยังไม่ดีเสียทีเดียว เขาสั่งฉีดแอดรีนาลินซ้ำอีกเข็มเข้ากล้ามเนื้อต้นขาก่อนจะเดินกลับมา ชายคนเมื่อครู่ทำท่าเดินไปหาพยาบาล
“ไม่ต้องฉีดไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น หยุด หยุด หยุดให้หมด” ชายคนนั้นร้องเสียงดัง
“คุณจะทำอะไร” วศินถามด้วยน้ำเสียงอย่างเป็นทางการและจงใจไม่ใช้หางเสียง ... สถานการณ์มันแปลกๆ
“พวกหมอเอาแต่มาฉีดยาสเตียรอยด์ให้หลานผม รักษาห่าเหวอะไรไม่เคยหาย ... เพราะทำแต่แบบนี้หลานผมมันเลยเป็นแต่ไอ้เด็กขี้แพ้แบบนี้”
“เด็กขี้แพ้?” วศินถามขึ้นอย่างสงสัย แต่ก็ทำสัญญาณมือให้พยาบาลฉีดยาไปก่อน
“ก็เด็กมันแพ้กุ้ง แต่หมอมัวแต่มาสั่งมันห้ามกินกุ้ง แล้วมันจะชนะได้ยังไง” ชายคนนั้นโวยวาย “ผมรู้นะว่าหมอฉีดสเตียรอยด์ให้มันด้วย เป็นหมออะไรไม่รู้ว่าสเตียรอยด์มันอันตราย ถามจริงเหอะ หมอซื้อใบประกาศมาหรือเปล่า”
“เดี๋ยวก่อน” แพทย์หนุ่มยกมือขึ้นในท่าพระพุทธรูปปางห้ามญาติ เพื่อให้ญาติคนไข้หยุดพูด “คุณเป็นอะไรกับคนไข้”
“ผมเป็นอา” ชายคนนั้นตอบ
“คุณอา ... อย่าบอกนะครับว่ากุ้งในชามนั่นคือคุณเอามาให้เด็กกิน”
“เออ ใช่ ผมเอาให้มันกินเอง มันจะได้ชนะซะที”
“คุณอา ... อาการแพ้อาหาร คือภาวะภูมิแพ้ เกิดจากภูมิคุ้มกันในร่างกายทำปฏิกิริยาไวเกินกับอาหารที่กินเข้าไป”วศินบรรยาย”คำว่าภูมิแพ้คือโรคที่ภาษาอังกฤษเรียกว่าอัลเลอร์จี้ ไม่ได้หมายความถึงแพ้หรือชนะอะไร”
“หมอไม่ต้องมาเถียง หมอน่ะเรียนมาแต่วิชาฝรั่ง จะไปรู้อะไร”
“คุณ ... โรคภูมิแพ้อาหารจนช็อคความดันต่ำ มีในตำราไทยด้วยเหรอครับ” วศินพูดพลางเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะเดินกลับไปดูเด็กอีกครั้ง แม่เด็กกับญาติเดินตามมาติดๆ วศินฟังเสียงปอดและตรวจความดันโลหิตอีกครั้ง อาการของเด็กดีขึ้นมาก ความดันขึ้นเป็น 110/80 เสียงหลอดลมที่ตีบแคบก็ดีขึ้นแล้วด้วยยาที่ให้ไป
“ตอนนี้อาการดีขึ้น คิดว่าไม่จำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจแล้ว แต่คงต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดนะครับ” วศินบอกแม่
“เป็นไงล่ะไอ้หมอ เห็นหรือยังว่าให้กินกุ้งน่ะได้ผล ดีขึ้นจริงๆ” ชายคนนั้นพูดโพล่งขึ้นมา
“คุณครับ เมื่อสักครู่หมอให้ยาที่ลดอาการแพ้ไปสองเข็ม ดีขึ้นจากยาไม่ใช่ดีขึ้นจากกินกุ้งของคุณ ... ผมเชิญคุณด้านนอกครับ ผมจะขอคุยกับแม่เด็ก” วศินผายมือเชิญ แต่ชายคนนั้นไม่ยอม ยังยืนอยู่แต่ถอยห่างออกไปหน่อย
“ตอนนี้น้องเค้าอาการดีขึ้นแล้ว แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ” วศินบอกมารดาที่นั่งข้างเตียง “แต่หมอคงต้องขอคุยด้วยนิดนึงเรื่องโรคที่เป็น”
“น้องศจีมีภาวะแพ้อาหาร โดยแพ้กุ้งแบบรุนแรง อาการแพ้ที่เป็นรุนแรงถึงชีวิตได้หากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที ... ผมคงต้องย้ำอีกครั้งว่าคำว่าแพ้ในที่นี้หมายถึงภาวะที่ร่างกายตอบสนองกับของที่แพ้รุนแรง ไม่ได้เกี่ยวกับการแพ้หรือชนะในความหมายทั่วไป”
มารดาของเด็กพยักหน้า
“ผมขอย้ำอีกครั้งว่าน้องศจีต้องหลีกเลี่ยงอาหารในกลุ่มกุ้งทั้งหมด และอาจจะต้องรวมไปถึงปูและกลุ่มแมลง เพราะสามารถเกิดอาการแบบนี้ได้เหมือนกัน และจะต้องมียาฉีดติดตัว ซึ่งผมจะจัดการให้ในวันกลับ ... สำหรับยาสเตียรอยด์ เป็นยาที่จำเป็นต้องให้ในระยะสั้นๆ ... อันตรายของสเตียรอยด์ที่เห็นตามทีวี คืออันตรายจากสเตียรอยด์ที่เอามาผสมในยาลูกกลอนที่เอามากินติดต่อกันเป็นเวลานาน ไม่เกี่ยวกันในกรณีนี้ที่หมอให้แค่ระยะสั้น และน้องเค้าจะไม่ต้องกินหรือฉีดยานี้ หากไม่มีการแพ้ซ้ำขึ้นอีก คุณแม่เข้าใจนะครับ”
มารดาเด็กพยักหน้าอีก “ชั้นน่ะเข้าใจดี แต่น้องชั้นน่ะเค้าไม่เชื่อ ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”
สิ้นเสียงคำพูดของแม่เด็กที่พูดถึงตัว อาของเด็กก็เดินเข้ามา
“ไม่ต้องรักษงรักษามันที่นี่หรอก เอากลับบ้าน มาโรงบาลก็เป็นซ้ำซากเลี้ยงไข้ตลอด” หันมาทางวศิน “ หมอรับรองไหมว่าจะไม่มีครั้งหน้า “
“ถ้ากินมาอีกก็เป็นอีกครับ”
“พูดจาหมาๆแบบนี้ อยากออกสรยุทธถึงลูกถึงคนใช่ไหมหมอ”
“พี่พยาบาลครับ ขอเวชระเบียน กระดาษปากกาหน่อยครับ”วศินร้องเรียก
“เอากระดาษปากกามาทำไม”
วศินรับกระดาษปากกามาวางตรงหน้า
“ผมอยากให้คุณลงลายมือชื่อไว้ ว่าได้รับฟังที่หมอบอกแล้ว และไม่เชื่อ ยังยืนยันจะให้น้องเค้ากินของที่เค้าแพ้โดยที่หมออธิบายแล้วว่าอันตรายถึงตาย” วศินพูดอย่างจริงจัง “ ผมขอบอกไว้ก่อนว่าในกรณีที่คุณรับทราบแล้วแต่ยังเอาให้กิน หากน้องเค้าเป็นอะไรขึ้นมา ผมจะได้เอาใบนี้ไปออกสรยุทธกับเอาไปแจ้งความว่าคุณทำให้คนบาดเจ็บโดยเจตนา”
“กูไม่เซ็น ... หมออยากทำอะไรก็ทำไป” ชายคนนั้นโบกมือแล้วเดินออกไป
วศินหันไปทางมารดาเด็ก “ ขอโทษนะครับผมคงต้องขอถาม น้องชายคุณแม่เคยมีประวัติการรักษาโรคทางจิตประสาทหรือเปล่าครับ”
“เคยรักษาที่นครสวรรค์ หมอเค้าบอกว่าเป็นลูชั่นลูชั่นอะไรเนี่ยแหละ แต่หายมาหลายปีแล้ว”
วศินพยักหน้า คิดในใจว่าน่าจะเป็นดีลูชั่น
“ได้เวลาพากลับไปหาจิตแพทย์แล้วล่ะครับ”
เอามาจากเฟซบุ๊กหมอแมว https://www.facebook.com/photo.php?fbid=506043322788457
แสดงความคิดเห็น
แฟนผมแพ้"หัวกุ้ง" แต่ก็ยังกิน เพราะมีความเชื่อว่า..
แต่อาการแพ้ของแฟนก็เป็นๆหายๆนะครับ บางทีเป็น บางทีไม่เป็น
จริงหรือเปล่าครับ ผมเป็นห่วงแฟนน่ะครับ,,