สืบเนื่องจากบิดาของข้าพเจ้า อายุ 65 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นคนไข้ของโรงพยาบาลประสาท
ตามปกติคุณพ่อของข้าพเจ้าเป็นคนไข้ในโครงการเบิกจ่ายตรง ของโรงพยาบาล ของรัฐ หลายๆ แห่ง อธิเช่น โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลเชียงดาว เป็นต้น โดยใช้สิทธิจากการที่มารดาของข้าพเจ้าเป็นข้าราชการบำนาญ คุณพ่อซึ่งเป็นสามี จึงสามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงได้
ซึ่งประมาณเดือน กุมพาพันธ์ 2556 คุณพ่อได้ไปใช้บริการที่โรงบาลประสาทและได้ไป ติดต่อขอใช้บริการเบิกจ่ายตรง ที่ช่องให้บริการ เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำว่าต้องพา ภรรยามาด้วย เพื่อจะได้สแกนนิ้ว เพื่อเป็นผู้รับยา ในวันนั้นคุณพ่อมาโรงพยาบาลเองไม่ได้พาคุณแม่ (อายุ 65 )มาด้วย จึงไม่ได้สมัคร และได้รับยาและสำรองเงินค่ายา และรับใบเสร็จเพื่อให้คุณแม่ เบิกเงิน ตามปกติ
หลังจากที่ไม่ได้สมัครในวันนั้น ผ่านมาจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2556 คุณพ่อและคุณแม่ผม ได้มาใช้บริการที่โรงพยาบาลประสาทอีกครั้ง โดยครั้งนี้คุณแม่ของผม ได้มาตรวจอาการปวดข้อมือ แต่การตรวจในครั้งนี้คุณหมอ ไม่ได้ให้ยา ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ก่อนจะกลับ
คุณพ่อและคุณแม่ผม ได้ไปที่ช่องบริการเบิกจ่ายตรง หมายเลข 2 ในวันนั้นหน้าช่องมีพนักงานบริการ เป็นผู้ชาย พอไปถึงช่องบริการที่ 2 ก็ได้ติดต่อขอดำเนินการ ใช้สิทธิจ่ายตรง แต่ เจ้าหน้าที่ผู้ชายที่ช่องที่ 2 บอกว่าให้ไปติดต่อ ที่ช่อง 3-4 คุณพ่อ คุณแม่ผม จึงเดินไปติดต่อที่ช่อง 3 ซึ่งทางช่องที่ 3 ก็แจ้งว่าให้กลับไปที่ช่อง 2 โยนกันไปมา พ่อจึงติดต่อที่ช่อง 2 อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ผู้ชายที่ช่อง 2 จึงยอมให้บริการ
ซึ่งในครั้งนี้คุณแม่ผม ก็ขอสมัครใช้สิทธิ์เบิกจ่ายตรงด้วย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำข้อมูลของ คุณแม่ไปตรวจสอบปรากฏ ว่าไม่สามารถสมัครได้เนื่องจาก คุณแม่เป็นคนไข้ใหม่ยังไม่เคยเปิดบิล จ่ายค่ายากับโรงพยาบาล
จากนั้นก็นำ ขอข้อมูลคุณพ่อ มาตรวจสอบ พบว่าผ่านว่าเป็นคนไข้ที่เคยจ่ายเงินกับโรงพยาบาล แต่ติดปัญหาใหม่ ว่าพ่อสามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงได้ แต่ต้องใช้สิทธิ ในนามของ บุตร ก็คือ ตัวกระผมเอง ซึ่งในวันนั้น ผมไม่ได้ไปด้วย ซึ่งน่าแปลกใจมากที่คุณพ่อไม่สามารถใช้สิทธิ์ของคุณแม่ได้ ซึ่งตามปกติแล้ว สามารถทำได้กับโรงพยาบาลอื่นๆ มาโดยตลอด
ทำให้ในวันนั้น พ่อกับแม่ผม ไม่สามารถสมัครเข้าโครงการจ่ายตรงของโรงพยาบาลประสาท ได้ทั้ง 2 คน
ทำให้เสียเวลาและเสียโอกาส ต้องกลับมาติดต่อทำใหม่ในครั้งหน้า ซึ่งการให้บริการในครั้งนั้นก่อให้เกิดความคับแค้นใจต่อแม่ผมมาก จึงได้มาเล่าให้กระผมฟังและขอให้ร้องเรียนมายังผู้เกี่ยวข้อง ช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงานท่านนี้ด้วย และขอให้ตอบข้อข้องใจต่างๆ ให้ครบถ้วนด้วยครับ
ข้อข้องใจ
1. ทำไมคุณแม่ไม่เคยเปิดบิลกับโรงพยาบาล ถึงไม่สามารถสมัครโครงการจ่ายตรงได้ ซึ่งในความเป็นจริงหากเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ใช้บริการจ่ายตรง เมื่อมีบัตรผู้ป่วยของโรงพยาบาลแล้ว สามารถส่งเอกสารสมัครใช้บริการได้เลยใช่หรือไม่
2. ทำไมคุณพ่อซึ่งสมัครเข้าโครงการจ่ายตรง กับโรงพยาบาลอื่นๆ โดยใช้สิทธิการเป็นสามีได้ แต่ใช้กับที่นี่ไม่ได้
3. ในครั้งแรกที่คุณพ่อมาติดต่อ เจ้าหน้าที่ทำไมไม่ตรวจสอบแจ้ง ข้อผิดพลาดให้ครบถ้วน เพื่อคนไข้จะได้เตรียมเอกสารให้พร้อม ในการมาติดต่อในคราวหน้า
4. และในครั้งต่อไปหากไปติดต่อขอใช้สิทธิอีก จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะสามารถสมัครได้
5. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน้าช่องมีการโยนงานกัน ระหว่างช่อง 2 กับช่อง 3 แล้วสุดท้ายช่อง 2 รับทำ แต่ก็ อ้างโน่นอ้างนี่ จนคนไข้ไม่สามารถสมัครได้ ท่านผู้เกี่ยวข้องคิดว่า พนักงานผู้ให้บริการจ่ายตรง มีความรู้ในการให้บริการจริง และมีจรรยาบรรในการทำงาน หรือไม่
ร้องเรียนการให้บริการ เบิกจ่ายตรง ช่องที่ 2 โรงพยาบาลประสาท เชียงใหม่
ตามปกติคุณพ่อของข้าพเจ้าเป็นคนไข้ในโครงการเบิกจ่ายตรง ของโรงพยาบาล ของรัฐ หลายๆ แห่ง อธิเช่น โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลเชียงดาว เป็นต้น โดยใช้สิทธิจากการที่มารดาของข้าพเจ้าเป็นข้าราชการบำนาญ คุณพ่อซึ่งเป็นสามี จึงสามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงได้
ซึ่งประมาณเดือน กุมพาพันธ์ 2556 คุณพ่อได้ไปใช้บริการที่โรงบาลประสาทและได้ไป ติดต่อขอใช้บริการเบิกจ่ายตรง ที่ช่องให้บริการ เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำว่าต้องพา ภรรยามาด้วย เพื่อจะได้สแกนนิ้ว เพื่อเป็นผู้รับยา ในวันนั้นคุณพ่อมาโรงพยาบาลเองไม่ได้พาคุณแม่ (อายุ 65 )มาด้วย จึงไม่ได้สมัคร และได้รับยาและสำรองเงินค่ายา และรับใบเสร็จเพื่อให้คุณแม่ เบิกเงิน ตามปกติ
หลังจากที่ไม่ได้สมัครในวันนั้น ผ่านมาจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2556 คุณพ่อและคุณแม่ผม ได้มาใช้บริการที่โรงพยาบาลประสาทอีกครั้ง โดยครั้งนี้คุณแม่ของผม ได้มาตรวจอาการปวดข้อมือ แต่การตรวจในครั้งนี้คุณหมอ ไม่ได้ให้ยา ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ก่อนจะกลับ
คุณพ่อและคุณแม่ผม ได้ไปที่ช่องบริการเบิกจ่ายตรง หมายเลข 2 ในวันนั้นหน้าช่องมีพนักงานบริการ เป็นผู้ชาย พอไปถึงช่องบริการที่ 2 ก็ได้ติดต่อขอดำเนินการ ใช้สิทธิจ่ายตรง แต่ เจ้าหน้าที่ผู้ชายที่ช่องที่ 2 บอกว่าให้ไปติดต่อ ที่ช่อง 3-4 คุณพ่อ คุณแม่ผม จึงเดินไปติดต่อที่ช่อง 3 ซึ่งทางช่องที่ 3 ก็แจ้งว่าให้กลับไปที่ช่อง 2 โยนกันไปมา พ่อจึงติดต่อที่ช่อง 2 อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ผู้ชายที่ช่อง 2 จึงยอมให้บริการ
ซึ่งในครั้งนี้คุณแม่ผม ก็ขอสมัครใช้สิทธิ์เบิกจ่ายตรงด้วย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำข้อมูลของ คุณแม่ไปตรวจสอบปรากฏ ว่าไม่สามารถสมัครได้เนื่องจาก คุณแม่เป็นคนไข้ใหม่ยังไม่เคยเปิดบิล จ่ายค่ายากับโรงพยาบาล
จากนั้นก็นำ ขอข้อมูลคุณพ่อ มาตรวจสอบ พบว่าผ่านว่าเป็นคนไข้ที่เคยจ่ายเงินกับโรงพยาบาล แต่ติดปัญหาใหม่ ว่าพ่อสามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงได้ แต่ต้องใช้สิทธิ ในนามของ บุตร ก็คือ ตัวกระผมเอง ซึ่งในวันนั้น ผมไม่ได้ไปด้วย ซึ่งน่าแปลกใจมากที่คุณพ่อไม่สามารถใช้สิทธิ์ของคุณแม่ได้ ซึ่งตามปกติแล้ว สามารถทำได้กับโรงพยาบาลอื่นๆ มาโดยตลอด
ทำให้ในวันนั้น พ่อกับแม่ผม ไม่สามารถสมัครเข้าโครงการจ่ายตรงของโรงพยาบาลประสาท ได้ทั้ง 2 คน
ทำให้เสียเวลาและเสียโอกาส ต้องกลับมาติดต่อทำใหม่ในครั้งหน้า ซึ่งการให้บริการในครั้งนั้นก่อให้เกิดความคับแค้นใจต่อแม่ผมมาก จึงได้มาเล่าให้กระผมฟังและขอให้ร้องเรียนมายังผู้เกี่ยวข้อง ช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงานท่านนี้ด้วย และขอให้ตอบข้อข้องใจต่างๆ ให้ครบถ้วนด้วยครับ
ข้อข้องใจ
1. ทำไมคุณแม่ไม่เคยเปิดบิลกับโรงพยาบาล ถึงไม่สามารถสมัครโครงการจ่ายตรงได้ ซึ่งในความเป็นจริงหากเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ใช้บริการจ่ายตรง เมื่อมีบัตรผู้ป่วยของโรงพยาบาลแล้ว สามารถส่งเอกสารสมัครใช้บริการได้เลยใช่หรือไม่
2. ทำไมคุณพ่อซึ่งสมัครเข้าโครงการจ่ายตรง กับโรงพยาบาลอื่นๆ โดยใช้สิทธิการเป็นสามีได้ แต่ใช้กับที่นี่ไม่ได้
3. ในครั้งแรกที่คุณพ่อมาติดต่อ เจ้าหน้าที่ทำไมไม่ตรวจสอบแจ้ง ข้อผิดพลาดให้ครบถ้วน เพื่อคนไข้จะได้เตรียมเอกสารให้พร้อม ในการมาติดต่อในคราวหน้า
4. และในครั้งต่อไปหากไปติดต่อขอใช้สิทธิอีก จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะสามารถสมัครได้
5. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน้าช่องมีการโยนงานกัน ระหว่างช่อง 2 กับช่อง 3 แล้วสุดท้ายช่อง 2 รับทำ แต่ก็ อ้างโน่นอ้างนี่ จนคนไข้ไม่สามารถสมัครได้ ท่านผู้เกี่ยวข้องคิดว่า พนักงานผู้ให้บริการจ่ายตรง มีความรู้ในการให้บริการจริง และมีจรรยาบรรในการทำงาน หรือไม่