สืบเนื่องจากที่เป็นข่าวดังวันนี้ เราเลยขอเล่าประสบการณ์ของเราให้เพื่อนๆอ่านบ้างนะคะ
ผจก. SF เก่ง แก้ไขสถานการณ์ได้ดี
แล้วขอถามเพิ่มว่า ถ้าเป็นคุณๆจะทำอย่างไร?
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนั้นเรากับแฟนไปดูหนังที่ SF ที่เทอร์มินอล 21
หนังจบแฟนลุกจากเก้าอี้ ปรากฏมีหมากฝรั่งติดตรงก้นกางเกงยีนส์ และเก้าอี้
แฟนโกรธมากค่ะ (เป็นคนใจร้อนมาก)
เพราะกางเกงยีนส์ตัวนั้นราคาแพง และไม่ต้องการซัก หากซักจะเสียหายต่อลายกางเกงหรืออะไรสักอย่าง (พวกผู้ชายปั้นกางเกงด้วยกันจะเข้าใจ)
ไม่ต้องสืบว่าเป็นความผิดของทางโรงหนังเต็มๆ ที่ไม่ดูแลทำความสะอาดให้รอบคอบในแต่ละรอบหนัง ใช่หรือเปล่า?
พนักงานก็มาเจรจา สักพักเค้าก็ยอมรับผิดและจะมอบตั๋วหนังฟรี 2 ใบ
แต่แฟนเราไม่พอใจ เลยยืนกรานว่าพนักงานว่าให้แค่นี้จะจบหรอ ยังไงก็ชดใช้ไม่ได้ไม๊ บลาๆๆๆ (แบบงอแงงี่เง่าสุดๆ)
พนักงานก็ได้แต่ก้มหน้า ทำหน้าตาสำนึก และแบบเศร้ามาก เพราะไม่รู้ว่าควรทำยังไง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะเึ้ค้าคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ และไม่สามารถชดใช้เรื่องกางเกงได้ เพราะราคาสูง และชดใช้เป็นเงินสดยิ่งไม่ได้ใหญ่
(ตอนแรกบอกจะเอาไปซักให้ แต่แฟนยืนกรานว่าไม่ให้ซักกางเกงเป็นอันขาด)
สักพักก็มีพนักงานผญ. (ไม่แน่ใจว่าผจก.หรือเปล่า) มาเพิ่มมูลค่าตั๋วที่นั่งให้ เป็นแบบโซฟา ไม่มีวันหมดอายุ 2 ที่นั่งมาให้
เราก็เจรจากับแฟน พนักงานก็ได้แต่ตีหน้าซื่อยอมรับผิด ขอความเห็นใจ ไม่เถียง ไม่ขึ้นเสียง ไม่โวยวาย เพราะเค้าผิดจริงๆ
ส่วนแฟนเราก็ดื้อดึง ขึ้นเสียง งอแงแบบสุดๆ เพราะโกรธมาก และค่าขอโทษก็ไม่สามารถแทนที่กางเกงเลอะหมากฝรั่งของตัวเองได้เลย
แต่ในที่สุดแฟนใจอ่อนตกลง เป็นอันจบเรื่อง เห็นใจกันไป
ผลคือ ยอมกลับมาซักกางเกง เพราะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว ได้แต่ทำใจเรื่องดวงซวย
ปล. ถ้าเป็นกางเกงเราก็คงจะไม่เดือดร้อนมากขนาดนี้หรอกนะ แต่ถ้าเป็นกระเป๋าที่รักมาก ก็ไม่แน่?
สรุปคือ เราจะบอกว่า ถ้าตอนนั้นผจก. พนักงานSF ไม่ทำหน้ายอมรับผิด หรือโวยวายเหมือนผจก.เมเจอร์นะ เรื่องคงใหญ่กว่านี้แน่ๆ นับว่าน่านับถือที่เค้าใจเย็นมากๆค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอเพิ่มเติมว่า จริงๆแฟนเราเป็นคนใจอ่อนมากนะคะ พอเห็นพนักงานทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แถมยังเคารพและพูดจาดี ต่อให้งอแงแต่ก็ใจเย็นลงอยู่แล้วค่ะ
ปล. อยากให้เห็นใจแฟนเราด้วย เราเข้าใจเค้านะคะเรื่องกา่งเกง นึกถึงถ้าเป็นเราโดนกระเป๋าใบโปรดก็คงงอแงไม่แพ้กัน (เรื่องอย่างนี้ต้องมาอยู่ในสถานการณ์เองนะคะ ต้องโดนกับตัวด้วยถึงเข้าใจความรู้สึก) บางทีผู้บริโภคที่ไว้ใจโรงหนังก็ไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้หรอกนะคะ
แค่เล่าสู่กันฟังค่ะ
(ขอแท็กเมเจอร์ด้วย เผื่อมีพนักงานคนไหนในเครือได้อ่าน)
สืบเนื่องจากผจก.เมเจอร์ที่เป็นข่าว เราก็เคยมีปัญหากับผจก. SF นะ
ผจก. SF เก่ง แก้ไขสถานการณ์ได้ดี
แล้วขอถามเพิ่มว่า ถ้าเป็นคุณๆจะทำอย่างไร?
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนั้นเรากับแฟนไปดูหนังที่ SF ที่เทอร์มินอล 21
หนังจบแฟนลุกจากเก้าอี้ ปรากฏมีหมากฝรั่งติดตรงก้นกางเกงยีนส์ และเก้าอี้
แฟนโกรธมากค่ะ (เป็นคนใจร้อนมาก)
เพราะกางเกงยีนส์ตัวนั้นราคาแพง และไม่ต้องการซัก หากซักจะเสียหายต่อลายกางเกงหรืออะไรสักอย่าง (พวกผู้ชายปั้นกางเกงด้วยกันจะเข้าใจ)
ไม่ต้องสืบว่าเป็นความผิดของทางโรงหนังเต็มๆ ที่ไม่ดูแลทำความสะอาดให้รอบคอบในแต่ละรอบหนัง ใช่หรือเปล่า?
พนักงานก็มาเจรจา สักพักเค้าก็ยอมรับผิดและจะมอบตั๋วหนังฟรี 2 ใบ
แต่แฟนเราไม่พอใจ เลยยืนกรานว่าพนักงานว่าให้แค่นี้จะจบหรอ ยังไงก็ชดใช้ไม่ได้ไม๊ บลาๆๆๆ (แบบงอแงงี่เง่าสุดๆ)
พนักงานก็ได้แต่ก้มหน้า ทำหน้าตาสำนึก และแบบเศร้ามาก เพราะไม่รู้ว่าควรทำยังไง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะเึ้ค้าคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ และไม่สามารถชดใช้เรื่องกางเกงได้ เพราะราคาสูง และชดใช้เป็นเงินสดยิ่งไม่ได้ใหญ่
(ตอนแรกบอกจะเอาไปซักให้ แต่แฟนยืนกรานว่าไม่ให้ซักกางเกงเป็นอันขาด)
สักพักก็มีพนักงานผญ. (ไม่แน่ใจว่าผจก.หรือเปล่า) มาเพิ่มมูลค่าตั๋วที่นั่งให้ เป็นแบบโซฟา ไม่มีวันหมดอายุ 2 ที่นั่งมาให้
เราก็เจรจากับแฟน พนักงานก็ได้แต่ตีหน้าซื่อยอมรับผิด ขอความเห็นใจ ไม่เถียง ไม่ขึ้นเสียง ไม่โวยวาย เพราะเค้าผิดจริงๆ
ส่วนแฟนเราก็ดื้อดึง ขึ้นเสียง งอแงแบบสุดๆ เพราะโกรธมาก และค่าขอโทษก็ไม่สามารถแทนที่กางเกงเลอะหมากฝรั่งของตัวเองได้เลย
แต่ในที่สุดแฟนใจอ่อนตกลง เป็นอันจบเรื่อง เห็นใจกันไป
ผลคือ ยอมกลับมาซักกางเกง เพราะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว ได้แต่ทำใจเรื่องดวงซวย
ปล. ถ้าเป็นกางเกงเราก็คงจะไม่เดือดร้อนมากขนาดนี้หรอกนะ แต่ถ้าเป็นกระเป๋าที่รักมาก ก็ไม่แน่?
สรุปคือ เราจะบอกว่า ถ้าตอนนั้นผจก. พนักงานSF ไม่ทำหน้ายอมรับผิด หรือโวยวายเหมือนผจก.เมเจอร์นะ เรื่องคงใหญ่กว่านี้แน่ๆ นับว่าน่านับถือที่เค้าใจเย็นมากๆค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอเพิ่มเติมว่า จริงๆแฟนเราเป็นคนใจอ่อนมากนะคะ พอเห็นพนักงานทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แถมยังเคารพและพูดจาดี ต่อให้งอแงแต่ก็ใจเย็นลงอยู่แล้วค่ะ
ปล. อยากให้เห็นใจแฟนเราด้วย เราเข้าใจเค้านะคะเรื่องกา่งเกง นึกถึงถ้าเป็นเราโดนกระเป๋าใบโปรดก็คงงอแงไม่แพ้กัน (เรื่องอย่างนี้ต้องมาอยู่ในสถานการณ์เองนะคะ ต้องโดนกับตัวด้วยถึงเข้าใจความรู้สึก) บางทีผู้บริโภคที่ไว้ใจโรงหนังก็ไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้หรอกนะคะ
แค่เล่าสู่กันฟังค่ะ
(ขอแท็กเมเจอร์ด้วย เผื่อมีพนักงานคนไหนในเครือได้อ่าน)