การขึ้นศาลโลกครั้งนี้ไม่มีอะไรใหม่ คือไม่ใช่คดีใหม่นะครับไม่ใช่ว่าเราจะลุ้นถึงว่าจะเอาเขลาพระวิหารกลับมาเป็นของไทยได้อีกครั้ง
เนื่องจากประเด็นที่ตัดสินเมื่อปี 2505(51ปีผ่านมาแล้ว) ที่ให้เราแพ้คดีนั้นยังอยู่เหมือนเดิมทุกประการ แต่ครั้งนี้เป็นเพียงแค่ "การตีความคำพิพากษาครั้งนั้น"เท่านั้นเองครับ คือเราจะแพ้หรือชนะ เขลาพระวิหารยังคงตั้งเป็นของกัมพูชาอย่างเดิมเป็นที่แน่นอน
ที่สำคัญที่สุด พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ไทยอาจมีสิทธิเสีย หลังจากที่นายนพดล ปัทมะไม่ยอมให้กัมพูชาเอาพื้นที่ทับซ้อนมาผลวกรวมกับตัวปราสาทเพื่อขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่สนับสนุนให้ขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวประสาทเท่านั้นเอง
ก็รอลุ้นหวังว่าเราจะไม่เสียพื้นที่ทับซ้อนไปเท่านั้นเองครับ อย่าต่อว่าด่าทอคนอื่นว่าเป็นคนชายชาติบ้าง/เป็นทาสเขมรบ้างผมอ่านแล้วบ่องตงว่า ..
ไม่รู้จะว่ายังไงดีกับคนที่ไร้สาระและไร้เหตุผลมากๆครับ
ผมเลยสรุปให้สั้น ยาวเกิน 3 บรรทัดไปไม่เท่าใหร่ หวังว่าคงเข้าใจตามนี้นะครับ
ผมย่อให้สั้นๆเกี่ยวกับ"เขลาพระวิหาร"
เนื่องจากประเด็นที่ตัดสินเมื่อปี 2505(51ปีผ่านมาแล้ว) ที่ให้เราแพ้คดีนั้นยังอยู่เหมือนเดิมทุกประการ แต่ครั้งนี้เป็นเพียงแค่ "การตีความคำพิพากษาครั้งนั้น"เท่านั้นเองครับ คือเราจะแพ้หรือชนะ เขลาพระวิหารยังคงตั้งเป็นของกัมพูชาอย่างเดิมเป็นที่แน่นอน
ที่สำคัญที่สุด พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ไทยอาจมีสิทธิเสีย หลังจากที่นายนพดล ปัทมะไม่ยอมให้กัมพูชาเอาพื้นที่ทับซ้อนมาผลวกรวมกับตัวปราสาทเพื่อขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่สนับสนุนให้ขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวประสาทเท่านั้นเอง
ก็รอลุ้นหวังว่าเราจะไม่เสียพื้นที่ทับซ้อนไปเท่านั้นเองครับ อย่าต่อว่าด่าทอคนอื่นว่าเป็นคนชายชาติบ้าง/เป็นทาสเขมรบ้างผมอ่านแล้วบ่องตงว่า ..
ไม่รู้จะว่ายังไงดีกับคนที่ไร้สาระและไร้เหตุผลมากๆครับ
ผมเลยสรุปให้สั้น ยาวเกิน 3 บรรทัดไปไม่เท่าใหร่ หวังว่าคงเข้าใจตามนี้นะครับ