คนจิตวิปริตกำลังชักใยป่วนประเทศไทยจากนอกประเทศ...
ขณะเดียวกัน ในประเทศไทย สาวกบางส่วนก็ประกอบพิธีกรรมวิปริต
อยากเชลียร์ แต่ทำเหมือนจะแช่ง
1) เทศกาลสงกรานต์ คนไทยทั่วไปทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีไม่ว่าจะเป็น
การรดน้ำกระดูกบรรพบุรุษ รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ สรงน้ำพระ
หรือแม้แต่ทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่บุพการีผู้ล่วงลับปรากฏว่า
กลุ่มคนเสื้อแดงในหลายท้องที่ ได้ประกอบพิธีกรรมบางอย่างแก่ทักษิณ ชินวัตร
บ้างนำภาพถ่ายของทักษิณมาใส่กรอบจัดตั้ง ประดับด้วยดอกไม้สด
ก่อนจะนำน้ำมารดที่รูปภาพ เหมือนกับที่คนทั่วไปเขารดน้ำที่รูปถ่ายคนตายตาม
อัฐิธาตุ หรือที่เห็นคุ้นตาเวลาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คนตาย
บ้างก็จัดแจงสวมหน้ากากรูปหน้าทักษิณ นั่งให้สาวกผูกข้อมือด้วยด้าย
สายสิญจน์สีแดงไม่นับพิธีกรรมวิปริตก่อนหน้านี้...
คงจำกันได้ เคยมีการทำบุญวันเกิดให้ทักษิณ รูปการคล้ายพิธีกงเต๊ก
ไหนจะพิธีกรรมชำระล้างบาปให้ทักษิณ
ที่พี่ชายทักษิณลงทุนเป็นประธานในพิธีสืบชะตาของทักษิณด้วยตนเอง
มีการสร้างเรื่องเล่า ปะติดปะต่อเรื่องราวว่าด้วยตำนานเจ้ามูลเมือง
อดีตชาติของทักษิณ ถึงขนาดส่งเงินข้ามหลังพระพุทธรูป ไถ่โทษ
ถอนบาป แก้เคล็ด เสริมดวงให้ทักษิณ ชินวัตร
ไหนจะสวดมนต์ใหญ่ เสริมดวง เสริมบารมี นำรูปเหมือนทักษิณ
ตัดแปะขนาดเท่าคนจริง นำมาตั้งประกอบพิธีกรรม โยงด้ายสายสิญจน์
ดังที่เคยทำกันตามวัดในเครือข่ายของคนเสื้อแดงต่างๆ หลายครั้ง
หลายหน ฯลฯพิธีกรรมหลายอย่างที่กล่าวมาข้างต้น โดยธรรมเนียมปกติ
สำหรับสามัญชนทั่วไป เขานิยมทำให้กับคนตายสาวกพวกนี้ ทำอย่างกับว่า
“ทักษิณตายแล้ว”หรือพยายามจะแช่งให้ตายเพราะความวิปริตอย่างนี้
หรือเปล่า นายใหญ่เลยไม่ได้กลับบ้านเสียที
2) เฉพาะพิธีกรรมวิปริตในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
ก็ผิดเพี้ยนไปไกลจากประเพณีรดน้ำดำหัว ซึ่งควรต้องไปกระทำต่อผู้หลัก
ผู้ใหญ่ด้วยตนเอง เพื่อกล่าวคำขอขมาลาโทษ ขอให้ท่านอโหสิกรรมให้
อวยพรให้ประสบแต่ความสุข สุขภาพดีจากนั้นจึงเอาขันเล็กๆ
ตักน้ำหอมที่ปรุงเตรียมไว้ นำมารดลงบนฝ่ามือผู้ใหญ่ แล้วท่านก็จะนำน้ำ
ขึ้นลูบศีรษะผู้น้อยเพื่อเป็นการยอมรับการขอขมาอโหสิกรรม และกล่าวให้ศีลให้พร
แม้แต่ธรรมเนียมของชาวล้านนาเกี่ยวกับประเพณีการดำหัว ก็บอกเอาไว้ว่า
“สำหรับการดำหัวนั้น นิยมเอาน้ำใส่ขัน คือใส่สะหลุง เอาน้ำขมิ้น ส้มป่อย ใส่
เวลาดำหัว เขาจะเอาไปประเคน คือเอาไปมอบให้ท่านผู้เฒ่าผู้แก่
ที่เราจะไปดำหัวนั้น เขาจะเอามือจุ่มลงในสะหลุงที่มีน้ำขมิ้นส้มป่อย
อยู่แล้วก็เอามาลูบหัวตัวเอง 3 ครั้ง จากนั้นก็เอามือจุ่มน้ำส้มป่อย
สลัดเข้าใส่ลูกหลานที่มาดำหัวพร้อมกับอวยพรให้อยู่ดีมีสุข ให้อยู่ดีกินดี
เราไม่นิยมเอาน้ำรดมืออย่างของภาคอื่น ซึ่งถือว่าการทำอย่างนั้นเป็น
การรดศพ มากกว่าการรดน้ำผู้เฒ่าผู้แก่ ล้านนาเราถือกันมาอย่างนี้
”พิธีกรรม “รดน้ำทักษิณ” แบบที่คนเสื้อแดงจัดกิจกรรมนั้น จึงทำท่า
จะเพี้ยนกันไปใหญ่เข้าลักษณะ “รดน้ำดำหัว” หรือว่า “รดน้ำศพ” กันแน่?
3) แม้จะดูคล้ายพิธี “กรวดน้ำ” แต่ก็ไม่น่าจะใช่
พระธรรมกิตติวงศ์ ได้เคยอธิบายความหมายของคำว่า “กรวดน้ำ” หมายถึง
การรินน้ำจากภาชนะด้วยความปรารถนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น
อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ทำไปให้แก่ผู้มีพระคุณ เรียกว่า “ตรวดน้ำ” ก็มี
วิธีการ คือ เมื่อพระรูปแรกเริ่มอนุโมทนาด้วยบทว่า “ยถา...”
ก็เริ่มกรวดน้ำโดยมือขวาจับภาชนะสำหรับกรวด
มือซ้ายประคองรินน้ำใส่ภาชนะที่รองรับพร้อมทั้งตั้งใจนึกอุทิศส่วนบุญกุศล
ไปให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว รินไปกระทั่งพระรูปแรกว่าจบ เมื่อรูปที่สองรับว่า
“สัพพี...” ให้เทน้ำให้หมด แล้วประนมมือรับพรพระต่อไป
ดังที่มีคำพูดเล่นๆ ในหมู่คนทำบุญว่า พูดเล่นๆ ว่า “ยถา ให้ผี สัพพี ให้คน”
กรณีนี้ ทักษิณก็ยังไม่ตายเสียหน่อย
4) ถ้าจะให้คนไทยที่ไม่ใช่ “ขี้ข้าทักษิณ” ประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับ “น้ำ”
ให้ทักษิณ ชินวัตรลองทำพิธี “กรวดน้ำ คว่ำขัน” อาจจะเหมาะสม ตรงใจที่สุด
เพราะเป็นการประกาศตัดขาด ขอให้ทักษิณเลิกจองเวรจองกรรม เลิกชักใย
ประเทศชาติ เลิกคิดอยากจะกลับมายึดครองอำนาจและทวงคืนผลประโยชน์
ส่วนตัวประเทศไทย และคนไทย (รวมทั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์)
จะได้บริหารประเทศไปตามทำนองคลองธรรมอย่างที่ควรจะเป็น
โดยไม่ต้องผูกติดกับเงื่อนไขว่าจะต้องทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของ
ทักษิณเสียก่อน ไม่ว่าจะนิรโทษกรรมและล้างผิดให้คนโกง
จะได้เลิกวิ่งเต้นไปกราบกรานขอตำแหน่งจากทักษิณ ซึ่งน่าทุเรศอย่างยิ่ง
เมื่อคนจิตวิปริตไม่ยอมปล่อยวาง บ้านเมืองก็เลยมีพิธีกรรมวิปริตมากมาย
(รวมถึงพิธีกรรมการเมือง)ปีใหม่ไทยปีนี้ ขอคนไทยจงร่วมใจ
“กรวดน้ำ คว่ำขัน” ตัดขาดและต่อต้านระบอบทักษิณกันเสียเถิด!
นับแต่นี้ ต่อไปเบื้องหน้า...
สารส้ม
http://www.naewna.com/politic/columnist/6250
สังคมชนบท ..... ทำพิธีกรรมทุกอย่างตามความเชื่อ ... และแน่นอน
เขาต้องคิดบวกับการกระทำนั้น การยกประเด็นนี้ ขึ้นมาวิเคราะห์วิจารณ์
และยังพยายามโยงไปให้เห็นว่า คนทำโง่เขลา ...เบาปัญญา
สังคมชนบท กับความเชื่อในพิธีกรรมต่างๆ อาจจะเพียงแค่เสริมความเชื่อมั่น
ในการอวยชัยให้พร สะเดาะเคราะห์ พิธีกรรมดูจะเป็นไปเพื่อความสบายใจ
ของผู้กระทำ
เพราะหยิบยกเรื่องแบบนี้ มาเป็นประเด็นนั่นแหละ ก็เลยไม่ได้แจ้งเกิด
ในภาคอิสาณสักที
พิธีกรรมวิปริตของลัทธิทักษิณ ....กวนน้ำให้ใส ...สารส้ม... แนวหน้าออนไลน์
ขณะเดียวกัน ในประเทศไทย สาวกบางส่วนก็ประกอบพิธีกรรมวิปริต
อยากเชลียร์ แต่ทำเหมือนจะแช่ง
1) เทศกาลสงกรานต์ คนไทยทั่วไปทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีไม่ว่าจะเป็น
การรดน้ำกระดูกบรรพบุรุษ รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ สรงน้ำพระ
หรือแม้แต่ทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่บุพการีผู้ล่วงลับปรากฏว่า
กลุ่มคนเสื้อแดงในหลายท้องที่ ได้ประกอบพิธีกรรมบางอย่างแก่ทักษิณ ชินวัตร
บ้างนำภาพถ่ายของทักษิณมาใส่กรอบจัดตั้ง ประดับด้วยดอกไม้สด
ก่อนจะนำน้ำมารดที่รูปภาพ เหมือนกับที่คนทั่วไปเขารดน้ำที่รูปถ่ายคนตายตาม
อัฐิธาตุ หรือที่เห็นคุ้นตาเวลาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คนตาย
บ้างก็จัดแจงสวมหน้ากากรูปหน้าทักษิณ นั่งให้สาวกผูกข้อมือด้วยด้าย
สายสิญจน์สีแดงไม่นับพิธีกรรมวิปริตก่อนหน้านี้...
คงจำกันได้ เคยมีการทำบุญวันเกิดให้ทักษิณ รูปการคล้ายพิธีกงเต๊ก
ไหนจะพิธีกรรมชำระล้างบาปให้ทักษิณ
ที่พี่ชายทักษิณลงทุนเป็นประธานในพิธีสืบชะตาของทักษิณด้วยตนเอง
มีการสร้างเรื่องเล่า ปะติดปะต่อเรื่องราวว่าด้วยตำนานเจ้ามูลเมือง
อดีตชาติของทักษิณ ถึงขนาดส่งเงินข้ามหลังพระพุทธรูป ไถ่โทษ
ถอนบาป แก้เคล็ด เสริมดวงให้ทักษิณ ชินวัตร
ไหนจะสวดมนต์ใหญ่ เสริมดวง เสริมบารมี นำรูปเหมือนทักษิณ
ตัดแปะขนาดเท่าคนจริง นำมาตั้งประกอบพิธีกรรม โยงด้ายสายสิญจน์
ดังที่เคยทำกันตามวัดในเครือข่ายของคนเสื้อแดงต่างๆ หลายครั้ง
หลายหน ฯลฯพิธีกรรมหลายอย่างที่กล่าวมาข้างต้น โดยธรรมเนียมปกติ
สำหรับสามัญชนทั่วไป เขานิยมทำให้กับคนตายสาวกพวกนี้ ทำอย่างกับว่า
“ทักษิณตายแล้ว”หรือพยายามจะแช่งให้ตายเพราะความวิปริตอย่างนี้
หรือเปล่า นายใหญ่เลยไม่ได้กลับบ้านเสียที
2) เฉพาะพิธีกรรมวิปริตในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
ก็ผิดเพี้ยนไปไกลจากประเพณีรดน้ำดำหัว ซึ่งควรต้องไปกระทำต่อผู้หลัก
ผู้ใหญ่ด้วยตนเอง เพื่อกล่าวคำขอขมาลาโทษ ขอให้ท่านอโหสิกรรมให้
อวยพรให้ประสบแต่ความสุข สุขภาพดีจากนั้นจึงเอาขันเล็กๆ
ตักน้ำหอมที่ปรุงเตรียมไว้ นำมารดลงบนฝ่ามือผู้ใหญ่ แล้วท่านก็จะนำน้ำ
ขึ้นลูบศีรษะผู้น้อยเพื่อเป็นการยอมรับการขอขมาอโหสิกรรม และกล่าวให้ศีลให้พร
แม้แต่ธรรมเนียมของชาวล้านนาเกี่ยวกับประเพณีการดำหัว ก็บอกเอาไว้ว่า
“สำหรับการดำหัวนั้น นิยมเอาน้ำใส่ขัน คือใส่สะหลุง เอาน้ำขมิ้น ส้มป่อย ใส่
เวลาดำหัว เขาจะเอาไปประเคน คือเอาไปมอบให้ท่านผู้เฒ่าผู้แก่
ที่เราจะไปดำหัวนั้น เขาจะเอามือจุ่มลงในสะหลุงที่มีน้ำขมิ้นส้มป่อย
อยู่แล้วก็เอามาลูบหัวตัวเอง 3 ครั้ง จากนั้นก็เอามือจุ่มน้ำส้มป่อย
สลัดเข้าใส่ลูกหลานที่มาดำหัวพร้อมกับอวยพรให้อยู่ดีมีสุข ให้อยู่ดีกินดี
เราไม่นิยมเอาน้ำรดมืออย่างของภาคอื่น ซึ่งถือว่าการทำอย่างนั้นเป็น
การรดศพ มากกว่าการรดน้ำผู้เฒ่าผู้แก่ ล้านนาเราถือกันมาอย่างนี้
”พิธีกรรม “รดน้ำทักษิณ” แบบที่คนเสื้อแดงจัดกิจกรรมนั้น จึงทำท่า
จะเพี้ยนกันไปใหญ่เข้าลักษณะ “รดน้ำดำหัว” หรือว่า “รดน้ำศพ” กันแน่?
3) แม้จะดูคล้ายพิธี “กรวดน้ำ” แต่ก็ไม่น่าจะใช่
พระธรรมกิตติวงศ์ ได้เคยอธิบายความหมายของคำว่า “กรวดน้ำ” หมายถึง
การรินน้ำจากภาชนะด้วยความปรารถนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น
อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ทำไปให้แก่ผู้มีพระคุณ เรียกว่า “ตรวดน้ำ” ก็มี
วิธีการ คือ เมื่อพระรูปแรกเริ่มอนุโมทนาด้วยบทว่า “ยถา...”
ก็เริ่มกรวดน้ำโดยมือขวาจับภาชนะสำหรับกรวด
มือซ้ายประคองรินน้ำใส่ภาชนะที่รองรับพร้อมทั้งตั้งใจนึกอุทิศส่วนบุญกุศล
ไปให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว รินไปกระทั่งพระรูปแรกว่าจบ เมื่อรูปที่สองรับว่า
“สัพพี...” ให้เทน้ำให้หมด แล้วประนมมือรับพรพระต่อไป
ดังที่มีคำพูดเล่นๆ ในหมู่คนทำบุญว่า พูดเล่นๆ ว่า “ยถา ให้ผี สัพพี ให้คน”
กรณีนี้ ทักษิณก็ยังไม่ตายเสียหน่อย
4) ถ้าจะให้คนไทยที่ไม่ใช่ “ขี้ข้าทักษิณ” ประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับ “น้ำ”
ให้ทักษิณ ชินวัตรลองทำพิธี “กรวดน้ำ คว่ำขัน” อาจจะเหมาะสม ตรงใจที่สุด
เพราะเป็นการประกาศตัดขาด ขอให้ทักษิณเลิกจองเวรจองกรรม เลิกชักใย
ประเทศชาติ เลิกคิดอยากจะกลับมายึดครองอำนาจและทวงคืนผลประโยชน์
ส่วนตัวประเทศไทย และคนไทย (รวมทั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์)
จะได้บริหารประเทศไปตามทำนองคลองธรรมอย่างที่ควรจะเป็น
โดยไม่ต้องผูกติดกับเงื่อนไขว่าจะต้องทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของ
ทักษิณเสียก่อน ไม่ว่าจะนิรโทษกรรมและล้างผิดให้คนโกง
จะได้เลิกวิ่งเต้นไปกราบกรานขอตำแหน่งจากทักษิณ ซึ่งน่าทุเรศอย่างยิ่ง
เมื่อคนจิตวิปริตไม่ยอมปล่อยวาง บ้านเมืองก็เลยมีพิธีกรรมวิปริตมากมาย
(รวมถึงพิธีกรรมการเมือง)ปีใหม่ไทยปีนี้ ขอคนไทยจงร่วมใจ
“กรวดน้ำ คว่ำขัน” ตัดขาดและต่อต้านระบอบทักษิณกันเสียเถิด!
นับแต่นี้ ต่อไปเบื้องหน้า...
สารส้ม
http://www.naewna.com/politic/columnist/6250
สังคมชนบท ..... ทำพิธีกรรมทุกอย่างตามความเชื่อ ... และแน่นอน
เขาต้องคิดบวกับการกระทำนั้น การยกประเด็นนี้ ขึ้นมาวิเคราะห์วิจารณ์
และยังพยายามโยงไปให้เห็นว่า คนทำโง่เขลา ...เบาปัญญา
สังคมชนบท กับความเชื่อในพิธีกรรมต่างๆ อาจจะเพียงแค่เสริมความเชื่อมั่น
ในการอวยชัยให้พร สะเดาะเคราะห์ พิธีกรรมดูจะเป็นไปเพื่อความสบายใจ
ของผู้กระทำ
เพราะหยิบยกเรื่องแบบนี้ มาเป็นประเด็นนั่นแหละ ก็เลยไม่ได้แจ้งเกิด
ในภาคอิสาณสักที