ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีร้านเมด คาเฟ่ แท้ๆ จากญี่ปุ่น ชื่อ Maidreamin (อ่านว่า เมด ดรีม มิน หรือ เมด ดรีม อิน ก็ได้ถ้าอยากเรียก) มาเปิดสาขาแรกแบบ Grand Opening ในเมืองไทย (วันที่ 12 เมษายน 2556) ที่ Gateway Ekkamai ค่ะ จริงๆ ก่อนหน้านี้พินนี่พอจะทราบว่ามีร้านนี้มาเปิดอยู่บ้าง แต่เป็นการ Pre-Opening คือไม่เก็บค่าเหยียบแผ่นดิน 50 บาท แต่ตอนนี้ เปิด Grand Opening ไปแล้วดังนั้นส่วนนี้จะไม่ฟรีแล้วค่ะ
สำหรับใครที่ยังงงๆ ว่า ร้าน Maid Cafe นั้นเป็นยังไงขออธิบายคร่าวๆ ก่อนค่ะ ร้าน เมด คาเฟ่ ของ Maidreamin ที่ญี่ปุ่นนั้น ชื่อเสียงโด่งดังมาก ถือเป็นร้าน เมด คาเฟ่ อันดับ 1 ของที่ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ จริงๆที่นี่เค้านิยามตัวเองว่าเป็น Maid Cafe & Bar Maidreamin นะคะ ที่ญี่ปุ่นมีหลายสาขา ทั้งหมด รวมญี่ปุ่นแล้วก็ประเทศอื่นๆ ตอนนี้มีอยู่ทั้งหมด 14 สาขาแล้วค่ะ มีทั้ง Akihabara, Ikebukuro, Shinjuku, Shibuya, Odaiba, Osaka, กรุงเทพฯ และ Las Vegas ประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ รายละเอียดของแต่ละสาขา >>
http://maidreamin.com/english/shopinfo_en << (ส่วนตัวเรา เราว่าสาขาที่ญี่ปุ่น บรรยากาศร้าน และอะไรหลายๆ อย่างน่านั่งมากค่ะ )
ลักษณะของ ร้าน Maidreamin คือเป็นร้านที่เรียกได้ง่ายๆ ว่า “ขายการบริการ” หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า “Service” อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ไม่ได้หมายถึงขายบริการแบบนั้น แต่บริการที่ว่านี้คือ บริการระดับ VIP มากๆค่ะ เข้าไปที่ร้าน เราจะเหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝัน ที่ทางร้านเรียกว่า “Dream Land” จะมี สาวเมด น่ารัก มาคอยบริการเรา โดยเรียกเราว่า “นายท่าน” สำหรับผู้ชาย (Prince = Gosyujin-sama) และเรียก “คุณผู้หญิง” หรือ “นายหญิง” สำหรับผู้หญิง (Princess = Ojyou-sama) และเรียก “คุณหนู” สำหรับเด็กน้อย บริการที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้น คือ จะมีบริการที่ขาย “ความน่ารัก” ของเมด ที่มาดูแลเรา ทั้งการเต้น ร้องเพลง (ที่ทางร้านเรียกว่า การ LIVE ) การพูดคุยอย่างเป็นกันเอง และการทำท่าน่ารักๆ สำหรับร้านในเมืองไทยคงยังมีไม่ครบที่ว่ามาค่ะ อาจจะด้วย สถานที่ที่มันเล็กมาก ไม่มี space สำหรับการเล่นอะไรเท่าไหร่เลย
สาขาที่ญี่ปุ่นและอเมริกา
ขอเรียกน้ำย่อยด้วยการพาไปเดินเล่นที่ สาขาในญี่ปุ่น และอเมริกา (ที่ก็เพิ่งเปิดตัวไปเหมือนกัน) ก่อนค่ะ
สาขา NAGOYA
สาขา DIVERCITY TOKYO PLAZA
สาขา L.A.
น่าไปใช่มั้ยล่าาาาาาาาาาาาาา น่ารักเนอะ แต่ไม่รู้สาขาในไทยจะเปิดได้นานหรือเปล่านะ ก็ลองดูกันต่อไป
ค่าเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน
สำหรับค่าเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันหรือที่พินนี่เรียกว่าค่า “เหยียบแผ่นดิน” นั้น ก็ราคาไม่เบาค่ะ (ทางร้านจะเรียกว่า Dreamin Passport) - -’ มาดูกันว่าราคาเท่าไหร่แล้วเตรียมพกเงินไปเยอะๆ นะคะ
1. ค่าเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน (ราคาปกติ) (นั่งชั้นล่าง) = 50 บาท / 1 ชั่วโมง (รวม Vat แล้ว = 57 บาท) + ต้องสั่งอาหารหรือเครื่องดื่ม 1 ออเดอร์ (ไม่รวม Moe Water (โม-เอะ วอเทอร์) นะคะ)
2. ค่าเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน (ราคา VIP ) (นั่งชั้นบน เป็น VIP หรือ Star Seat ) = 100 บาท / 1 ชั่วโมง (รวม Vat แล้ว = 107 บาท) + ต้องสั่งอาหารหรือเครื่องดื่ม 1 ออเดอร์
3. สามารถจ่ายบัตรเครดิตได้หากสั่งเกิน 1,000 บาท แต่ตอนนี้ ร้านเพิ่งเปิดยังรับแต่เงินสดเท่านั้นค่ะ กรุณาพกเงินไปเยอะๆ นะคะ
เรียกว่าราคาไม่ธรรมดา – - ‘ ถ้าอยากต่อเวลาเพิ่มก็บอกน้องเมด ได้ค่ะ หรือ สั่งเมนู ที่เป็นประเภท Giant ทั้งหลายแหล่ จะได้ต่อเวลาเพิ่มอีก 30 นาทีค่ะ
กฏในการใช้บริการร้าน MAIDREAMIN
สำหรับร้านนี้มีกฏเล็กน้อยที่คุณผู้ชาย และคุณผู้หญิงต้องทำความเข้าใจก่อนเบื้องต้นสำหรับการไปร้านนี้ค่ะ
1. ห้ามถ่ายภาพ ร้านและบรรยากาศร้านโดยเด็ดขาด
2. ห้ามถ่ายภาพน้องเมดโดยเด็ดขาด (เพราะปกติถ้าจะถ่าย จะต้องเสียเงิน 100 บาท ค่ะ ทางร้านเรียกบริการนี้ว่า เชะกิ)
3. ถ่ายภาพอาหารและเมนูอาหารได้ค่ะ
4. ห้ามแตะเนื้อต้องตัวน้องเมด โดยเด็ดขาด คุยได้ สั่งอาหารได้ สอบถามได้ ดูได้ ชื่นชมได้ แต่ห้ามแตะนะคะเตือนแล้ว
5. ห้ามให้ของขวัญเมด ถึงแม้จะพิศวาส แค่ไหนก็ตาม
6. ห้ามสอบถามเรื่องส่วนตัว ของน้องเมดเลย คุยเป็นการเป็นงานได้อย่างเดียวเท่านั้น
7. ห้ามชักชวนเมดไปต่อข้างนอก หรือ ทำกิจกรรมอื่นๆ หรือชวนไปทำงาน ฯลฯ (ทำอารายฟระ) – -’
ทราบกฏกันแล้วก็เริ่มเลยค่ะ วันนั้น เป็นวันที่ 13 เมษายน 2556 เป็นวันสงกรานต์พอดีค่ะ (ซึ่งก่อนหน้านี้หนึ่งวันทางร้านเพิ่งทำการ Grand Opening ไป พินนี่นัดกับพี่โก๋ พี่จอย และพี่บอยไว้ว่าจะไปลองร้านนี้ค่ะ ร้านเปิด 11:00-22:00 นะคะ สามารถจองโต๊ะล่วงหน้าได้ค่ะ ถ้าต้องการ
มาถึงหน้าร้านแล้ว เจอน้องเมด ยืนแจกใบปลิวที่หน้าร้านอยู่ค่ะ หลังจากพยายามถ่ายรูปเก็บบรรยากาศก็โดนน้องเมด ร้องห้ามว่า “ห้ามถ่ายรูปนะค๊าาาาาา” อุเหม่ … ถ่ายหน้าร้านได้ค่ะ แต่ห้ามติดรูปน้องเมดไป โชคดีไปที่รูปนี้คนยืนบังเพียบ เลยไม่โดนข้อหาใดๆ #ตบอกตกใจ
หลังจาก มากันพร้อมเพรียงแล้ว เราก็ตกลงกันว่า ไหนๆ จะมารีวิวแล้ว ขอจัด “ตัวท็อป” ดังนั้นจึงไม่เอาราคาค่าเข้าปกติ ค่ะ จัด VIP ไปโลด เนื่องจากโดนห้ามถ่ายรูป ดังนั้นอย่าคาดหวัง รูปในร้านนะคะ เพราะไม่มี555 หลังจากเข้ามาในร้าน จะได้ยินเมดตะโกนพร้อมกันทั้งร้านประมาณว่า ลูกค้ามาแล้วจ้าาาา แล้วพูดว่า “ยินดีต้อนรับสู่ Maidreamin” เป็นภาษาญี่ปุ่น พูดว่า ようこそ めいどりーみん ね เมดก็จัดแจงไปเอา เทียนน่ารักๆ เป็นเทียนไฟฟ้า รึไงเนี่ยค่ะ ที่เป่าแล้ว ไฟเทียนจะติดค่ะ เมดจะเดินมาแล้วก็ บอกว่า “ต่อจากนี้นายท่าน และคุณผู้หญิงจะเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน ให้ร่วมกันนับถอยหลัง 3…….2……….1 แล้วน้องเมดก็เป่าเทียนค่ะ เทียนก็จะเป็นสีแดงๆ ขึ้นมาแบบนี้ (เทียนอันนี้มีขายเป็นของที่ระลึกด้วยนะคะ) (ตอนนับถอยหลังนี่ยังรู้สึกธรรมดาๆ มากค่ะ จริงๆ เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องทำท่านั้นท่านี้ ดังนั้นแค่นับถอยหลังนี่มัน เบบี๋มากกก สู้ต่อไปทาเคชิ ท่า advance รออยู่)
แอบแถมวีดีโออันนี้ให้ค่ะ จะได้เห็นภาพว่าน้องเมดมาต้อนรับและเป่าเทียนนับถอยหลังให้เรายังไงบ้าง
เสร็จปุ๊ป น้องเมดจะเขียน Passport ให้เราค่ะ โดยถามชื่อของ นายท่านและนายหญิง ว่าชื่ออะไรกันบ้างแล้วเขียนลงไป (นั่งคุกเข่าคุยกันเลยทีเดียว) โดย Passport นี้สามารถเอามาแลกดูการแสดง Live ของน้องเมดได้ด้วยค่ะ
แล้ว เมดก็สอนท่าเราค่ะว่าถ้าอยากจะสั่งอาหาร หรือเรียกน้องเมดต้องมีท่าด้วย – - ‘ ทำท่า เนี๊ยวๆ – -’ เอ่อออ ต้องทำจริงๆ เหรอเนี่ย…. พอเห็นพวกเรานิ่งเฉย เมดก็บอกว่า “ลองทำตามสิค๊าาาาาาาาา” เอ่อ ออออ ณ จุดนี้แล้ว ต้องทำแล้วล่ะ ทำเสร็จก็หน้าชาเล็กน้อย แต่ ผช อีกสองคนทำท่าฟินและชอบใจมาก = =’ หลังจากตกลงกันได้แล้วเราก็สั่งเมนู กันค่ะ
สำหรับ เมนู ทั้งเล่ม สามารถดู ได้จาก >> Maidreamin Menu <<
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.638273399522779.1073741825.168357309847726&type=1 นะคะ (คลิ๊กได้เลยค่ะอัพหมดในนี้ไม่ไหวรูปเมนูมันเยอะมากค่ะ)
เริ่มที่น้ำก่อน มีน้ำชาเขียว (Refill) , น้ำแอปเปิ้ล , น้ำส้ม, น้ำองุ่นแดง ค่ะ
แล้วเราก็สั่ง Giant Kare Rice หรือ ข้าวแกงกะหรี่ ขนาดยักษ์มาทานกันค่ะ เห็นในเล่มบอกว่า ไซส์นี้สำหรับทานกัน 3 คนค่ะ แล้วก็ถ้าสั่งเมนูนี้จะได้ถ่ายรูป เชะกิ กับน้องเมด 1 ภาพเป็นภาพโพรารอยด์ด้วยค่ะ บอกแล้วว่า “จัดท็อปๆ” ก็จัดไปค่ะ ไซส์ Giant ราคาก็ Giant ตามไปด้วย 799 บาท เท่านั้นเอง สะดุ้งกันไปเป็นแถบๆ ค่ะ
มาดูของจริงกันดีกว่าค่ะ หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ แต่ตอนอาหารมา เมดยังไม่ให้เรากินนะคะ เราต้องร่ายเวทย์มนต์ก่อนกินค่ะ เพื่อทำให้อาหารอร่อยขึ้น โดยเฉพาะ ถ้าสั่งเมนู Giant จะต้องโดนทำท่าแปลกๆ ด้วยค่ะ เมดจะเดินมาบอกเราก่อนว่า เดี๋ยวจะถามทั้งร้านนะคะว่า ” วันนี้มีคนสั่งเมนู Giant Kare Rice ด้วยค่ะ แต่เอ อยากทราบว่านายท่านโต๊ะไหนสั่งกันน้าาาาา นายท่านโต๊ะไหนสั่ง ให้ทำท่าเนี๊ยวๆ ด้วยนะค๊าาาาาา” แล้วจะมีน้องเมด มาเสิร์ฟให้นะคะ อะ…. เคร.. เนี๊ยวๆ ก็เนี๊ยวๆ สิ ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนิ – -’ จากนั้นก็จะมีน้องเมด หนึ่งคน ถือไมค์ คอยนำ เมดอีก สามสี่คน ขึ้นบันได ถือจาน อาหารมา (ซึ่งมันใหญ่มากแม่เจ้า มันใหญ่จริงๆ ค่ะ เห็นแล้วตกใจเลย) แล้วพูดใส่ไมค์ ให้ทั้งร้านฟัง ให้ทั้งร้านหันมาสนใจค่ะว่าวันนี้มีคนสั่งเมนูนี้ด้วย ดีนะที่นั่งด้านบน คนอื่นไม่เห็นโชคดีไป แต่ก่อนจะพูด เนี่ย ไฟทั้งร้านจะดับลงค่ะ แล้วมีไฟ ดิสโก้ ตรงกลางร้าน หมุนๆ อยู่ เพื่อให้คนสนใจว่า เห้ย ทำไมไฟดับ แล้วทุกคนก็จะหันมาสนใจโต๊ะเราโต๊ะเดียวค่ะ – -’ แล้วน้องเมดก็พูดใส่ไมค์ว่า ….. ” วันนี้มีคนสั่งเมนู Giant Kare Rice ด้วยค่ะ แต่เอ อยากทราบว่านายท่านโต๊ะไหนสั่งกันน้าาาาา นายท่านโต๊ะไหนสั่ง ให้ทำท่าเนี๊ยวๆ ด้วยนะค๊าาาาาา” ………………………………………… จัดไป… “เนี๊ยว……………………………………เนี๊ยว…..” = = ‘อายอะบ่องตง
แต่………………อนิจจา..ยังค่ะ มันยังไม่จบ อย่าคิดว่า เนี๊ยวๆ แล้วจะจบค่ะ ไม่จบง่ายๆ มันมีท่ายากอีกค่ะ เมดบอกว่า นายท่านคะ ก่อนจะกิน เราจะต้องมีท่าเพื่อเพิ่มความอร่อย ให้กับอาหารด้วย – -’ ในใจคิดว่า หิวนะ กินได้ยังอะ- -’ เมดจะทำท่าให้เราดูก่อนค่ะว่า ต้องทำท่าประมาณนี้และพูดประมาณนี้ เมดจะพูดว่าเนื่องจากพลังร่ายเวทย์ของน้องเมด ยังไม่กล้าแกร่งจึงต้องขอให้นายท่านและนายหญิงช่วยกันร่ายเวทย์พร้อมๆ กันด้วยนะค๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา Oishiikunare moe moe Beam ! (โออิชิ คุนาเระ โมเอะโมเอะ บีมมมมม) = =’ เหงื่อตก บ่องตง กว่าจะได้กิน 5555 ทำไมท่ายากขนาดนี้ 5555 หาท่า บีม ไม่เจอ เอาอันนี้ไปดูแทน – -’
สำหรับใครที่อยากดูไซส์นะคะ จานมันใหญ่จริงๆ ไม่รู้จะเทียบกับอะไร เทียบกับไอโฟนแล้วกันค่ะ คนรู้จักกันทั่วโลก ไอโฟนดูเล็กลงไปทันตาเลยทีเดียวค่ะ ส่วนรสชาติ ถือว่าใช้ได้นะคะ ไม่ได้ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่ได้อร่อยเลิศ เพราะจริงๆ ที่นี่ว่ากันตรงๆ คือไม่ได้ขายอาหารเป็นหลัก ในความรู้สึกเรานะ อาหารเป็นแค่ Option เสริมมากกว่า จุดขายหลักน่ะคือ น้องเมด กับ live ของน้องเมดต่างหากค่ะ บอกตรงๆ ว่ากินเสร็จแล้วไม่อิ่มเลย อย่างแรงค่ะ เพราะแบ่งกันสี่คนด้วย แต่ถ้ามาสองคนก็กินกันจุกเหมือนกันนะ มาคนเดียวไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ
ให้ดูความหนาของข้าวค่ะเมื่อเทียบกับ ไอโฟน
[CR] เข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันกับน้องเมดสุดน่ารักที่ MAIDREAMIN GATEWAY EKKAMAI
ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีร้านเมด คาเฟ่ แท้ๆ จากญี่ปุ่น ชื่อ Maidreamin (อ่านว่า เมด ดรีม มิน หรือ เมด ดรีม อิน ก็ได้ถ้าอยากเรียก) มาเปิดสาขาแรกแบบ Grand Opening ในเมืองไทย (วันที่ 12 เมษายน 2556) ที่ Gateway Ekkamai ค่ะ จริงๆ ก่อนหน้านี้พินนี่พอจะทราบว่ามีร้านนี้มาเปิดอยู่บ้าง แต่เป็นการ Pre-Opening คือไม่เก็บค่าเหยียบแผ่นดิน 50 บาท แต่ตอนนี้ เปิด Grand Opening ไปแล้วดังนั้นส่วนนี้จะไม่ฟรีแล้วค่ะ
สำหรับใครที่ยังงงๆ ว่า ร้าน Maid Cafe นั้นเป็นยังไงขออธิบายคร่าวๆ ก่อนค่ะ ร้าน เมด คาเฟ่ ของ Maidreamin ที่ญี่ปุ่นนั้น ชื่อเสียงโด่งดังมาก ถือเป็นร้าน เมด คาเฟ่ อันดับ 1 ของที่ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ จริงๆที่นี่เค้านิยามตัวเองว่าเป็น Maid Cafe & Bar Maidreamin นะคะ ที่ญี่ปุ่นมีหลายสาขา ทั้งหมด รวมญี่ปุ่นแล้วก็ประเทศอื่นๆ ตอนนี้มีอยู่ทั้งหมด 14 สาขาแล้วค่ะ มีทั้ง Akihabara, Ikebukuro, Shinjuku, Shibuya, Odaiba, Osaka, กรุงเทพฯ และ Las Vegas ประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ รายละเอียดของแต่ละสาขา >> http://maidreamin.com/english/shopinfo_en << (ส่วนตัวเรา เราว่าสาขาที่ญี่ปุ่น บรรยากาศร้าน และอะไรหลายๆ อย่างน่านั่งมากค่ะ )
ลักษณะของ ร้าน Maidreamin คือเป็นร้านที่เรียกได้ง่ายๆ ว่า “ขายการบริการ” หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า “Service” อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ไม่ได้หมายถึงขายบริการแบบนั้น แต่บริการที่ว่านี้คือ บริการระดับ VIP มากๆค่ะ เข้าไปที่ร้าน เราจะเหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝัน ที่ทางร้านเรียกว่า “Dream Land” จะมี สาวเมด น่ารัก มาคอยบริการเรา โดยเรียกเราว่า “นายท่าน” สำหรับผู้ชาย (Prince = Gosyujin-sama) และเรียก “คุณผู้หญิง” หรือ “นายหญิง” สำหรับผู้หญิง (Princess = Ojyou-sama) และเรียก “คุณหนู” สำหรับเด็กน้อย บริการที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้น คือ จะมีบริการที่ขาย “ความน่ารัก” ของเมด ที่มาดูแลเรา ทั้งการเต้น ร้องเพลง (ที่ทางร้านเรียกว่า การ LIVE ) การพูดคุยอย่างเป็นกันเอง และการทำท่าน่ารักๆ สำหรับร้านในเมืองไทยคงยังมีไม่ครบที่ว่ามาค่ะ อาจจะด้วย สถานที่ที่มันเล็กมาก ไม่มี space สำหรับการเล่นอะไรเท่าไหร่เลย
สาขาที่ญี่ปุ่นและอเมริกา
ขอเรียกน้ำย่อยด้วยการพาไปเดินเล่นที่ สาขาในญี่ปุ่น และอเมริกา (ที่ก็เพิ่งเปิดตัวไปเหมือนกัน) ก่อนค่ะ
สาขา NAGOYA
สาขา DIVERCITY TOKYO PLAZA
สาขา L.A.
น่าไปใช่มั้ยล่าาาาาาาาาาาาาา น่ารักเนอะ แต่ไม่รู้สาขาในไทยจะเปิดได้นานหรือเปล่านะ ก็ลองดูกันต่อไป
ค่าเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน
สำหรับค่าเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันหรือที่พินนี่เรียกว่าค่า “เหยียบแผ่นดิน” นั้น ก็ราคาไม่เบาค่ะ (ทางร้านจะเรียกว่า Dreamin Passport) - -’ มาดูกันว่าราคาเท่าไหร่แล้วเตรียมพกเงินไปเยอะๆ นะคะ
1. ค่าเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน (ราคาปกติ) (นั่งชั้นล่าง) = 50 บาท / 1 ชั่วโมง (รวม Vat แล้ว = 57 บาท) + ต้องสั่งอาหารหรือเครื่องดื่ม 1 ออเดอร์ (ไม่รวม Moe Water (โม-เอะ วอเทอร์) นะคะ)
2. ค่าเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน (ราคา VIP ) (นั่งชั้นบน เป็น VIP หรือ Star Seat ) = 100 บาท / 1 ชั่วโมง (รวม Vat แล้ว = 107 บาท) + ต้องสั่งอาหารหรือเครื่องดื่ม 1 ออเดอร์
3. สามารถจ่ายบัตรเครดิตได้หากสั่งเกิน 1,000 บาท แต่ตอนนี้ ร้านเพิ่งเปิดยังรับแต่เงินสดเท่านั้นค่ะ กรุณาพกเงินไปเยอะๆ นะคะ
เรียกว่าราคาไม่ธรรมดา – - ‘ ถ้าอยากต่อเวลาเพิ่มก็บอกน้องเมด ได้ค่ะ หรือ สั่งเมนู ที่เป็นประเภท Giant ทั้งหลายแหล่ จะได้ต่อเวลาเพิ่มอีก 30 นาทีค่ะ
กฏในการใช้บริการร้าน MAIDREAMIN
สำหรับร้านนี้มีกฏเล็กน้อยที่คุณผู้ชาย และคุณผู้หญิงต้องทำความเข้าใจก่อนเบื้องต้นสำหรับการไปร้านนี้ค่ะ
1. ห้ามถ่ายภาพ ร้านและบรรยากาศร้านโดยเด็ดขาด
2. ห้ามถ่ายภาพน้องเมดโดยเด็ดขาด (เพราะปกติถ้าจะถ่าย จะต้องเสียเงิน 100 บาท ค่ะ ทางร้านเรียกบริการนี้ว่า เชะกิ)
3. ถ่ายภาพอาหารและเมนูอาหารได้ค่ะ
4. ห้ามแตะเนื้อต้องตัวน้องเมด โดยเด็ดขาด คุยได้ สั่งอาหารได้ สอบถามได้ ดูได้ ชื่นชมได้ แต่ห้ามแตะนะคะเตือนแล้ว
5. ห้ามให้ของขวัญเมด ถึงแม้จะพิศวาส แค่ไหนก็ตาม
6. ห้ามสอบถามเรื่องส่วนตัว ของน้องเมดเลย คุยเป็นการเป็นงานได้อย่างเดียวเท่านั้น
7. ห้ามชักชวนเมดไปต่อข้างนอก หรือ ทำกิจกรรมอื่นๆ หรือชวนไปทำงาน ฯลฯ (ทำอารายฟระ) – -’
ทราบกฏกันแล้วก็เริ่มเลยค่ะ วันนั้น เป็นวันที่ 13 เมษายน 2556 เป็นวันสงกรานต์พอดีค่ะ (ซึ่งก่อนหน้านี้หนึ่งวันทางร้านเพิ่งทำการ Grand Opening ไป พินนี่นัดกับพี่โก๋ พี่จอย และพี่บอยไว้ว่าจะไปลองร้านนี้ค่ะ ร้านเปิด 11:00-22:00 นะคะ สามารถจองโต๊ะล่วงหน้าได้ค่ะ ถ้าต้องการ
มาถึงหน้าร้านแล้ว เจอน้องเมด ยืนแจกใบปลิวที่หน้าร้านอยู่ค่ะ หลังจากพยายามถ่ายรูปเก็บบรรยากาศก็โดนน้องเมด ร้องห้ามว่า “ห้ามถ่ายรูปนะค๊าาาาาา” อุเหม่ … ถ่ายหน้าร้านได้ค่ะ แต่ห้ามติดรูปน้องเมดไป โชคดีไปที่รูปนี้คนยืนบังเพียบ เลยไม่โดนข้อหาใดๆ #ตบอกตกใจ
หลังจาก มากันพร้อมเพรียงแล้ว เราก็ตกลงกันว่า ไหนๆ จะมารีวิวแล้ว ขอจัด “ตัวท็อป” ดังนั้นจึงไม่เอาราคาค่าเข้าปกติ ค่ะ จัด VIP ไปโลด เนื่องจากโดนห้ามถ่ายรูป ดังนั้นอย่าคาดหวัง รูปในร้านนะคะ เพราะไม่มี555 หลังจากเข้ามาในร้าน จะได้ยินเมดตะโกนพร้อมกันทั้งร้านประมาณว่า ลูกค้ามาแล้วจ้าาาา แล้วพูดว่า “ยินดีต้อนรับสู่ Maidreamin” เป็นภาษาญี่ปุ่น พูดว่า ようこそ めいどりーみん ね เมดก็จัดแจงไปเอา เทียนน่ารักๆ เป็นเทียนไฟฟ้า รึไงเนี่ยค่ะ ที่เป่าแล้ว ไฟเทียนจะติดค่ะ เมดจะเดินมาแล้วก็ บอกว่า “ต่อจากนี้นายท่าน และคุณผู้หญิงจะเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน ให้ร่วมกันนับถอยหลัง 3…….2……….1 แล้วน้องเมดก็เป่าเทียนค่ะ เทียนก็จะเป็นสีแดงๆ ขึ้นมาแบบนี้ (เทียนอันนี้มีขายเป็นของที่ระลึกด้วยนะคะ) (ตอนนับถอยหลังนี่ยังรู้สึกธรรมดาๆ มากค่ะ จริงๆ เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องทำท่านั้นท่านี้ ดังนั้นแค่นับถอยหลังนี่มัน เบบี๋มากกก สู้ต่อไปทาเคชิ ท่า advance รออยู่)
แอบแถมวีดีโออันนี้ให้ค่ะ จะได้เห็นภาพว่าน้องเมดมาต้อนรับและเป่าเทียนนับถอยหลังให้เรายังไงบ้าง
เสร็จปุ๊ป น้องเมดจะเขียน Passport ให้เราค่ะ โดยถามชื่อของ นายท่านและนายหญิง ว่าชื่ออะไรกันบ้างแล้วเขียนลงไป (นั่งคุกเข่าคุยกันเลยทีเดียว) โดย Passport นี้สามารถเอามาแลกดูการแสดง Live ของน้องเมดได้ด้วยค่ะ
แล้ว เมดก็สอนท่าเราค่ะว่าถ้าอยากจะสั่งอาหาร หรือเรียกน้องเมดต้องมีท่าด้วย – - ‘ ทำท่า เนี๊ยวๆ – -’ เอ่อออ ต้องทำจริงๆ เหรอเนี่ย…. พอเห็นพวกเรานิ่งเฉย เมดก็บอกว่า “ลองทำตามสิค๊าาาาาาาาา” เอ่อ ออออ ณ จุดนี้แล้ว ต้องทำแล้วล่ะ ทำเสร็จก็หน้าชาเล็กน้อย แต่ ผช อีกสองคนทำท่าฟินและชอบใจมาก = =’ หลังจากตกลงกันได้แล้วเราก็สั่งเมนู กันค่ะ
สำหรับ เมนู ทั้งเล่ม สามารถดู ได้จาก >> Maidreamin Menu << https://www.facebook.com/media/set/?set=a.638273399522779.1073741825.168357309847726&type=1 นะคะ (คลิ๊กได้เลยค่ะอัพหมดในนี้ไม่ไหวรูปเมนูมันเยอะมากค่ะ)
เริ่มที่น้ำก่อน มีน้ำชาเขียว (Refill) , น้ำแอปเปิ้ล , น้ำส้ม, น้ำองุ่นแดง ค่ะ
แล้วเราก็สั่ง Giant Kare Rice หรือ ข้าวแกงกะหรี่ ขนาดยักษ์มาทานกันค่ะ เห็นในเล่มบอกว่า ไซส์นี้สำหรับทานกัน 3 คนค่ะ แล้วก็ถ้าสั่งเมนูนี้จะได้ถ่ายรูป เชะกิ กับน้องเมด 1 ภาพเป็นภาพโพรารอยด์ด้วยค่ะ บอกแล้วว่า “จัดท็อปๆ” ก็จัดไปค่ะ ไซส์ Giant ราคาก็ Giant ตามไปด้วย 799 บาท เท่านั้นเอง สะดุ้งกันไปเป็นแถบๆ ค่ะ
มาดูของจริงกันดีกว่าค่ะ หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ แต่ตอนอาหารมา เมดยังไม่ให้เรากินนะคะ เราต้องร่ายเวทย์มนต์ก่อนกินค่ะ เพื่อทำให้อาหารอร่อยขึ้น โดยเฉพาะ ถ้าสั่งเมนู Giant จะต้องโดนทำท่าแปลกๆ ด้วยค่ะ เมดจะเดินมาบอกเราก่อนว่า เดี๋ยวจะถามทั้งร้านนะคะว่า ” วันนี้มีคนสั่งเมนู Giant Kare Rice ด้วยค่ะ แต่เอ อยากทราบว่านายท่านโต๊ะไหนสั่งกันน้าาาาา นายท่านโต๊ะไหนสั่ง ให้ทำท่าเนี๊ยวๆ ด้วยนะค๊าาาาาา” แล้วจะมีน้องเมด มาเสิร์ฟให้นะคะ อะ…. เคร.. เนี๊ยวๆ ก็เนี๊ยวๆ สิ ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนิ – -’ จากนั้นก็จะมีน้องเมด หนึ่งคน ถือไมค์ คอยนำ เมดอีก สามสี่คน ขึ้นบันได ถือจาน อาหารมา (ซึ่งมันใหญ่มากแม่เจ้า มันใหญ่จริงๆ ค่ะ เห็นแล้วตกใจเลย) แล้วพูดใส่ไมค์ ให้ทั้งร้านฟัง ให้ทั้งร้านหันมาสนใจค่ะว่าวันนี้มีคนสั่งเมนูนี้ด้วย ดีนะที่นั่งด้านบน คนอื่นไม่เห็นโชคดีไป แต่ก่อนจะพูด เนี่ย ไฟทั้งร้านจะดับลงค่ะ แล้วมีไฟ ดิสโก้ ตรงกลางร้าน หมุนๆ อยู่ เพื่อให้คนสนใจว่า เห้ย ทำไมไฟดับ แล้วทุกคนก็จะหันมาสนใจโต๊ะเราโต๊ะเดียวค่ะ – -’ แล้วน้องเมดก็พูดใส่ไมค์ว่า ….. ” วันนี้มีคนสั่งเมนู Giant Kare Rice ด้วยค่ะ แต่เอ อยากทราบว่านายท่านโต๊ะไหนสั่งกันน้าาาาา นายท่านโต๊ะไหนสั่ง ให้ทำท่าเนี๊ยวๆ ด้วยนะค๊าาาาาา” ………………………………………… จัดไป… “เนี๊ยว……………………………………เนี๊ยว…..” = = ‘อายอะบ่องตง
แต่………………อนิจจา..ยังค่ะ มันยังไม่จบ อย่าคิดว่า เนี๊ยวๆ แล้วจะจบค่ะ ไม่จบง่ายๆ มันมีท่ายากอีกค่ะ เมดบอกว่า นายท่านคะ ก่อนจะกิน เราจะต้องมีท่าเพื่อเพิ่มความอร่อย ให้กับอาหารด้วย – -’ ในใจคิดว่า หิวนะ กินได้ยังอะ- -’ เมดจะทำท่าให้เราดูก่อนค่ะว่า ต้องทำท่าประมาณนี้และพูดประมาณนี้ เมดจะพูดว่าเนื่องจากพลังร่ายเวทย์ของน้องเมด ยังไม่กล้าแกร่งจึงต้องขอให้นายท่านและนายหญิงช่วยกันร่ายเวทย์พร้อมๆ กันด้วยนะค๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา Oishiikunare moe moe Beam ! (โออิชิ คุนาเระ โมเอะโมเอะ บีมมมมม) = =’ เหงื่อตก บ่องตง กว่าจะได้กิน 5555 ทำไมท่ายากขนาดนี้ 5555 หาท่า บีม ไม่เจอ เอาอันนี้ไปดูแทน – -’
สำหรับใครที่อยากดูไซส์นะคะ จานมันใหญ่จริงๆ ไม่รู้จะเทียบกับอะไร เทียบกับไอโฟนแล้วกันค่ะ คนรู้จักกันทั่วโลก ไอโฟนดูเล็กลงไปทันตาเลยทีเดียวค่ะ ส่วนรสชาติ ถือว่าใช้ได้นะคะ ไม่ได้ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่ได้อร่อยเลิศ เพราะจริงๆ ที่นี่ว่ากันตรงๆ คือไม่ได้ขายอาหารเป็นหลัก ในความรู้สึกเรานะ อาหารเป็นแค่ Option เสริมมากกว่า จุดขายหลักน่ะคือ น้องเมด กับ live ของน้องเมดต่างหากค่ะ บอกตรงๆ ว่ากินเสร็จแล้วไม่อิ่มเลย อย่างแรงค่ะ เพราะแบ่งกันสี่คนด้วย แต่ถ้ามาสองคนก็กินกันจุกเหมือนกันนะ มาคนเดียวไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ
ให้ดูความหนาของข้าวค่ะเมื่อเทียบกับ ไอโฟน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น