เรื่องเกิดขึ้นโดยไม่มีคนเห็นเหตุการณ์  ในช่วงประมาณ9-12น ของวันนี้ผมได้เอารถแอคคอร์ดผมไปจอดในบริเวณสถานีตำรวจอำเภอ เพื่อทำธุระ 3 ชั่วโมงต่อมา ผมกลับมาที่รถสังเกตุเห็น กันชนท้ายรถด้ายซ้าย บุบลงไปค่อนข้างเยอะ  มีรอยขูดเป็นแนวประมาณ10เซน ติดสีแดงเลือดหมู ไฟท้ายมีรอยร้าว จึงไปแจ้งประชาสัมพันธ์ เรื่องที่เกิดและอยากขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุ ภายในโรงพัก แต่แกส่งเรื่องให้สารวัตรต่อไป จากนั้นได้มาถ่ายรูปรอยบุบ และบอกให้บันทึกประจำวันไว้ สอบถามทางวอ กันภายในพบว่ากล้องวงจรปิดเสียนานแล้ว ต้องไปขอดูกล้องของเทศบาลที่ยิงลงมาบริเวณสี่แยกหัวมุม สน หลังจากเปิดสงกรานต์ 17 เมย. ผมจึงปรึกษากับน้องที่รู้จักทราบว่า ร้านค้าตรงข้ามสถานีตำรวจมีกล้องวงจรปิด สารวัตรจึงไปขอดู ร้านค้าขอเป็นช่วงเย็น แต่หลังจากนั้นไม่นานสารวัตรบอกผมว่าให้ผมไปดำเนินการขอก๊อปวิดีโอกับร้านค้าเอง แล้วนำภาพมาให้ตำรวจดู แต่หลังจากผมเองได้เข้าไปขอดูภาพจ่กร้านค้า พบว่า ไม่สามารถส่องมุมเลยไปถึงถนน หน้าสน.หรือ บริเวณที่เกิดเหตุได้ ผมจึงไปสอบถามกับแม่ค้าหน้าสน. บอกไม่ได้ยินเสียงรถชนหและไม่เห็นเหตุการณ์ตอนที่รถผมโดนชน (ช่าง ชวยอะไรขนาดนี้)ความเป็นธรรม และถูกผิด มันมีจริงหรือเปล่า ผมคิดในใจ และได้เดินหน้าต่อเพื่ิอสืบค้นด้วยน้ำแรงตนเอง โดยขึ้นไปติดต่อที่ เทศบาลเพื่อขอดูภาพจากกล้องที่ยิงมาบริเวณถนนตัดผ่าน ริมสน. แต่โชคร้ายที่เป็นวันหยุด เจ้าหน้าที่รับเรื่อง ไม่สามารถเปิดเครื่องเป็น แนะนำให้มาดูวันที่17เมษา ผมรู้สึกสิ้นหวังที่จะค้นหาความจริง เพื่อรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว ถ้าปล่อยให้ หลักฐานสำคัญที่ติดอยู่บนรถผม เจือจางไปตามวันเวลาหยุด นขัตฤกษ์ ครับ จึงอยากปรึกษาว่าทำเช่นไรต่อไปดีครับ เพื่อให้ความจริง และคู่กรณีออกมารับผิดชอบครับ  มันเป็นไปได้หรือเปล่าครับ ไม่อยากให้เรื่องที่ไม่เป็นธรรมในสังคม เกิดซ้ำกับคนอื่นและตัวเองในอนาคต และอยากจะเห็นกระบวนการช่วยเหลือจากทางราชการในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น(หากไม่เกิดกับตัวท่านเอง ท่านคงไม่รู้สึกหรอกครับ).    หนุ่มน้อยผู้น่าสงสาร