VISA U.S.A. _______"....... ประสบการณ์ สัมภาษณ์วีซ่า อเมริกา ....... "________VISA U.S.A.

กระทู้สนทนา
ประสบการณ์การสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา

สำหรับขั้นตอนการสมัครวีซ่าอเมริกา ผมลองทำขั้นตอนไว้ละเอียดพอประมาณไว้ที่นี่ครับ สนใจลองไปอ่านได้ครับอมยิ้ม04

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.508354949207728.105871.181013541941872&type=1

เอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมไปในวันสัมภาษณ์
1. PASSPORT เล่มปัจจุบัน (ถ้ามีเล่มเก่าให้ถือไปด้วยทั้งหมด)
2. ใบสมัคร DS-160
3. ใบนัดวันเวลา สัมภาษณ์วีซ่า
4. ใบเสร็จชำระค่าวีซ่า ที่ได้จากปณ.
5. ใบรับรองการทำงาน / ใบทะเบียนการค้า
6. ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ตัวจริง
7. สมุดบัญชีธนาคาร / ใบรับรองสถานะทางการเงิน
8. หลักฐานอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น ทะเีบียนสมรส ใบสูติบัตรบุตร-รูปถ่ายวันแต่งงาน(กรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรส) ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล สำเนาำพาสปอร์ตของญาติที่อาศัยอยู่ที่อเมริกา รวมถึง หลักฐานและหลักทรัพย์อื่นๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
9. รูปถ่าย 2x2 นิ้ว จำนวน 2 รูป กรณีที่ทางกงสุลเรียกเพิ่ม (หากรูปที่อัพโหลดไปไม่ชัดเจน)




หลังจากนัดวันสัมภาษณ์และเตรียมหลักฐานสำหรับสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ก็เฝ้ารอวันนัด อย่างใจจดใจจ่อ ผมเลือกวันสุดท้ายก่อนหยุดเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากคิดว่าคงจองวันนัดหมายได้ง่าย เพราะผมต้องจอง 2 พิน สำหรับ 6 คน ครั้งแรกจองวันที่ 1 เมษา เปิดหน้า browser พร้อมกัน คิดว่าคงได้แน่ๆ สรุปว่าจองได้แค่ พินเดียว 5 คน อีก 1 พินเต็มซะแล้ว เลยต้องหาวันใหม่  จนได้วันที่ 11 เมษา (เพราะคิดเอาเองว่าคนคงน้อย กลับบ้านกันหมดแน่ๆ)

ระหว่างที่รอวันสัมภาษณ์ เชื่อว่าหลายคนคงมีความรู้สึกอย่างเดียวกัน คือ กังวล ว่า เราจะสัมภาษณ์ผ่านไหม เค้าจะถามอะไร จะตอบยังไง ยิ่งคิดมาก ก็ยิ่งวิตกจริต ถึงกับเปิดหากระทู้ของคนอื่น ที่มาแชร์ประสบการณ์ไม่ผ่านวีซ่า  ว่าทำไมถึงไม่ผ่าน เพราะอ่านที่เค้าเล่ากันมา ก็น่าจะผ่าน ก็ได้แต่กังวลไปต่างๆนาๆ

จนถึงวันสัมภาษณ์ ผมนัดสัมภาษณ์ตอน 07.00 ตอนเช้ารอบแรกเลย คิดว่าคงไม่ร้อน เจ้าหน้าที่ต่างๆ คงอารมณ์ดี 555 เพราะใกล้จะหยุดยาวแล้ว ผมตื่นตั้งแต่ ตี 4 เตรียมพร้อมทั้งเอกสาร และเสื้อผ้า รองเท้าที่จะไปสัมภาษณ์ ให้เรียบร้อยที่สุด  เริ่มออกจากบ้านประมาณ ตี 5 ครึ่ง เรียกรถแท็กซี่ไปที่สถานทูตอเมริกา ตอนแรกกลัวว่ารถจะติด ไปก่อนเวลา ดีกว่าไปสาย  ปรากฎว่าใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจากแยกราชเทวี ไปยังสถานทูตอเมริกา พอไปถึงก็มีคนมาต่อแถวรอกันบ้างแล้วประมาณ 6-7 คน มีพระสงฆ์ด้วย เราก็ต่อแถวรอตามเค้าไป เมื่อยก็นั่งพัก 555 เพราะต้องรอตั้งเกือบชั่วโมง  พอถึงเวลา 06.30 เจ้าหน้าที่สถานทูต ก็เดินมาเรียก ใครที่นัดเวลา 07.00 ให้แยกออกมาอีกแุถวนึง  จากนั้นก็ตรวจเอกสาร โดยให้เรียง พาสปอร์ต ไว้ด้านหน้า และใบเสร็จชำระค่าวีซ่า ใบ DS-160 ตามลำดับ  ใครที่จองพินเดียวกันมาหลายคน ก็ต้องนำทะเีบียนบ้านตัวจริงมาแสดงด้วย เพราะเจ้าหน้าที่เค้าจะตรวจเช็ครายชื่อว่าอยู่ในทะเบียนบ้านจริงหรือเปล่า

หลังจากเช็ึคเอกสารเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็จะเขียนที่ใบ DS-160 ว่ามาขอวีซ่าแบบ ไหน และให้เดินไปต่อแถวเพื่อจะเข้าไปที่ประตูกระจกด้านใน  ใครที่มีของที่จะต้องฝาก เช่น พวกโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน อุปกรณ์อิเลคโทรนิคต่างๆ ก็เตรียมปิดเครื่องไว้เลย และเตรียมบัตรประชาชนไว้ด้วยครับ  หลังจากฝากของเสร็จก็จะได้กุญแจพร้อมสายรัดมา ก็รัดไว้ที่ข้อมือจะได้ไม่หาย จากนั้นนำเอกสาร กระเป๋าเงิน ใส่ตะกร้าผ่านเครื่องสแกนไป  รอให้ของผ่านเครื่องสแกนไปก่อน เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกให้เดินผ่านตามเข้าไป

หลังจากนั้น ก็เดินผ่านประตูกระจก เลี้ยวซ้ายไปด้านนอก เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งเคาน์เตอร์อยู่ทางซ้ายมือ คอยจัดเรียงเอกสารใส่แฟ้มใส ไว้ให้เรา พร้อมแจกใบสำหรับเขียนชื่อที่อยู่ เพื่อจัดส่งปณ. กรอกชื่อนามสกุล ภาษาอังกฤษ ส่วนที่อยู่ภาษาไทย ให้เรียบร้อย นำไปให้ที่เคาน์เตอร์ตรวจอีก 1ครั้ง ก่อนที่จะเดินไปเลี้ยวขึ้นเนินไปทางขวา เพื่อรอสัมภาษณ์และตรวจเอกสารจากเจ้าหน้าที่คนไทยอีกครั้งหนึ่ง

ด้านหน้าจะมีเคาน์เตอร์ปิดด้วยกระจกใส (พูดกันผ่านไมค์) หมายเลข 1 2 3 ด้านในห้องกระจกก็จะมีเคาน์เตอร์ 4 5 6 ไปจนถึง 15 หลังจากรออยู่นาน ช่อง 1 2 3 ซึ่งอยู่ด้านนอกยังไม่เปิดมูลี่สักที จนมีเจ้าหน้าที่มาเรียกให้เข้าไปด้านใน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คนไทยสัมภาษณ์ อยู่2 ช่อง คือ ช่อง 14 กับ 15  พวกเราได้สัมภาษณ์ช่อง 15 ครับ ก็เข้าไปสัมภาษณ์พร้อมกันทั้งครอบครัว พอเข้าไปก็ยื่นแฟ้มใส ของแต่ละคนให้เจ้าหน้าที่พร้อมกันทั้งหมด และเจ้าหน้าที่ก็จะดูหลักฐานในแฟ้มทีละคน ถ้าเจ้าหน้าที่ต้องการดูหลักฐานอะไรเพิ่มเติม เราก็หยิบเอกสารให้เจ้าหน้าที่ดูตอนนี้เลย เจ้าหน้าที่ก็เป็นกันเอง ไม่น่้ากลัว หรือดุอย่างที่คิดไว้  มีคำถามทั่วไป เช่น เป็นพี่้น้องกันหมดเลยหรอ  ไปกับใคร ไปเมื่อไร ออกค่าใช้่จ่ายเองหรือเปล่า (พ่อแม่ก็ออกเองเหรอ 555 เหมือนว่าทำไมลูกไม่ออกให้) ของพ่อแม่ก็ถามว่ามีเปลี่ยนแซ่ เปลี่ยนนามสกุลไหม ญาติที่โน่นนามสกุลอะไร สะกดยังไง  จะไปเที่ยวที่ไหน  ไม่ไปหาญาติเหรอ (ไม่ไป55) ของพ่อแม่ไม่ค่อยมีอะไรครับ ส่วนลูกๆ ก็มีกิจการซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว ก็เรียกดูใบทะเบียนการค้าต่างๆ พวกบุคแบงค์ ใบรับรองสถานะการเงินอะไร ไม่ดู ไมุ่ถามถึงเลยครับ (อุตส่าห์ไปขอมา555)  ส่วนของพี่สาวอีกคน ไม่ได้จดทะเีบียนสมรส แต่ทำหนังสือรับรองว่าทำงานกับสามี และเป็นภรรยากับสามี ไปด้วย  เจ้าหน้าที่ก็ถามถึงใบสูติบัตรของลูกๆ ก็ยื่นให้ดู (ควรทำสำเนาหลักฐานต่างๆไปด้วย เพราะเจ้าหน้าที่อาจจะต้องการสำเนาประกอบหลักฐาน)  และถามว่า สามี กับลูกๆ ไม่ไปด้วยหรอ เป็นคำถามง่ายๆ ก็ช่วยๆกันตอบไป รวมถึงดูว่าพาสปอร์ตเล่มเก่าเราเดินทางไปไหนมาบ้าง  พอถามเสร็จแต่ละคนก็ต้องสแกนลายนิ้วมือ เริ่มจาก นิ้วก้อยถึงนิ้วชี้ด้านซ้ายสี่นิ้วพร้อมกัน   นิ้วชี้ถึงนิ้วก้อยด้านขวา พร้อมกัน และ นิ้วโป้งซ้าย นิ้วโป้งขวาพร้อมกัน  เป็นอันเสร็จสิ้น ไปนั่งรอที่ด้านใน

ประมาณ 15 นาที ก็ได้ยินเสียงเรียก หมายเลช 001-010 ให้ไปต่อแถวที่ช่อง 9 เพื่อยืนยันลายนิ้วมืออีกครั้ง บางคนอาจจะกดนิ้วไม่แน่น เจ้าหน้าที่กงสุลฝรั่งก็จะเรียกให้กดเฉพาะบางนิ้ว เป็นกรณีๆไป

จากนั้นก็ไปต่อแถวสัมภาษณ์ มีช่อง 11 กับ 12  สำหรับ ช่อง 11 เป็นเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ผู้ชายผิวสี ส่วนช่อง 12 เป็นเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ผู้หญิง  ซึ่งถ้าช่องไหนสัมภาษณ์เสร็จก่อน ก็จะโดนเรียกไปช่องนั้น พวกเราได้ช่อง 12 ครับ ก็เดินเข้าไปพร้อมๆกัน คำถามก็ประมาณว่า ไปเที่ยวที่ไหน ไปทัวร์เหรอ (ไปกันเอง) ทำธุรกิจอะไรคะ  เป็นพี่น้องกันหมด ไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องใช่ไหมคะ   พ่อแม่เคยทำอะไร ก่อนเกษียณ ประมาณนี้ครับ ระหว่างสัมภาษณ์ก็คีย์ข้อมูล พร้อมดูหน้าจอไปด้วย และคืนเอกสารตัวจริงพวกใบทะเบียนการค้า มา  สุดท้ายก็บอกว่า เอาใบนี้(ที่เรากรอกชื่อที่อยู่สำหรับส่ง ปณ.) ไปจ่ายที่ไปรษณีย์นะคะ เป็นอันเสร็จสิ้น เย้ๆ ผ่านวีซ่าแล้ว แต่ไม่ได้ถามว่าได้กี่ปีครับ 555  จริงๆ ก็พอรู้แล้วว่าน่าจะผ่าน เพราะเห็นเอาแฟ้มใส โยนใส่ตะกร้าข้างหลังทีละคนๆ ครับ อิอิอมยิ้ม16

จากนั้นก็เดินออกจากห้องกระจกย้อนมาทางเดิม จะมีเคาน์เตอร์ปณ. ไม่ต้องไปทั้งหมดก็ได้ครับ รวมให้คนเดียวไปยื่นก็ได้ แล้วเจ้าหน้าที่ ปณ. จะให้ใบเสร็จชำระค่าวีซ่า (ซึ่งจัดส่งแบบ EMS สามารถเช็คได้ว่า ถึงไหนแล้ว ) และ ซองจดหมาย เพื่อมากรอกชื่อ นามสกุล ภาษาอังกฤษ และที่อยู่ภาษาไทย ก่อนที่จะยื่นให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบอีกครั้ง เป็นอันเรียบร้อย เดินกลับทางเดิม ไปรับของฝากที่ด้านหน้าคืนครับ

**สรุปแล้วถ้าหลักฐานพร้อม ตอบอย่างมั่นใจ รับรองว่าผ่านแน่ๆ ครับ **อมยิ้ม36

ขอให้โชคดีกันทุกคนนะครับ ^_^อมยิ้ม01

ปล. วันนี้พาสปอร์ตถึงแล้วครับ แต่รอนำจ่าย เร็วมากๆ



ขอบคุณสำหรับกระทู้ และ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์  ของทุกๆท่าน ในบอร์ดนี้นะครับ อมยิ้ม17
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่