วันนี้ของ อำมาตย์

ผมจั่วหัวแบบนี้ ก็คงมีคนเข้ามา ค้าน บอกอำมาตย์ เป็นยังไง ใครคืออำมาตย์
แล้ว ก็จะมาบอก ว่า ไพร่ ที่เข้าไปเป้นรัฐมนตรี ก็เป็นอำมาตย์เหมือนกัน
เลยต้อง อธิบายกันหน่อย อำมาตย์ คือ ผู้ที่ได้รับ ยศถาบรรดาศักดิ์ ในสมัย
ตั้งแต่ กรุงศรีอยุธยามาแล้ว ผมไม่เลยไป ถึง สุโขทัย เพราะสมัยนั้น ชื่อนำหน้า
ท่านผู้ครอบครอง กรุงสุโขทัย ก้มีคำนำหน้า ว่า พ่อขุน เช่น พ่อขุนบางกลางท่าว
ขุนบาลเมือง  ขุนศรีอินทราทิตย์  นี่เป็นหน่อกษัตริย์ ของ ต้นกรุงสุโขทัย
จน มาเมื่อกรุงศรีอยุธยา มีอำนาจมากขึ้น ก้ มีเชื้อพระวงศ์ ที่ผู้ครองนคร
ส่งไปดูแล หัวเมืองต่าง ๆ หรืออาจไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ ก้ได้ ไปดูแล หัวเมืองต่าง ๆ
อย่างพระยาตาก ที่ไปดูแลเมืองตาก ก้เป็น แค่ นักรบ ที่รบเก่ง มีความสามารถ
แต่ส่วนใหญ่ จะเป็นหน่อเนื้อกษัตริย์ แทบทั้งหมด
อำมาตย์ เป็นสรรพพนาม ที่เรียกกัน แต่ มีคำนำหน้าที่ พระมหากษัตริย์ ทรง พระราชทานนาม
ตั้งแต่ ชั้นเข้ามา รับราชการ เลยเช่น หัวหมู่  ขุน หลวง พระยา เจ้าพระยา เป็นต้น นี่เป็น
ข้าราชการ ส่วนนอก ถ้าส่วนใน ก็มีอีกชื่อนำหน้า เช่น จางวาง เป็นต้น
ทีนี้ มานับกันยังไง พระมหากษัตริย์ ทรง ราชทินนามเสร็จแล้ว ก็โปรดเกล้า ยกที่ดินให้
ทำกินดูแล ครับ เช่น พระยา นี่ว่าเข้า พัน หมื่น หรือ แสนไร่ พระราชทาน ยกให้ หรือ ถ้าเป็นหน่อเนื้อ
นี่ว่าเข้าไป เป็นแสนไร่  พวกที่รับราชการ เป็นอำมาตย์ ก็รับ สนองพระเนตร พระกรรณ มา
ทำความดี เก็บส่วยส่ง ท้องพระคลังหลวง ดูแลทุกข์สุข ราษฏร
จนเปลี่ยนแปลงการปกครอง ปี 75  ก่อนหน้านั้นก็มีการแบ่งเป็นกระทรวง ทบวง กรม พัฒนาให้
เหมือนต่างประเทศ เอา ชาวต่างชาติ มาดูแลกิจการ ก็ ตั้งชื่อ ไปอีก
หลังเปลี่ยนแปลง การปกครอง ชื่อนำหน้า ยังติดอยู่กับ ผู้ที่ทำงาน ถ้าท่านจำได้  พระยาพหล ฯ
พระยา ทรงสุรเดช หลวงประดิษฏ์ หลวงพิบูลสงคราม ก็เป็นชื่อนำหน้าของ ระบบอำมาตย์ ทั้งนั้น

อำมาตย์ พวกนี้ บางท่านก็สมัยใหม่ บางท่านก็คร่ำครึ ไม่ยอมเปลี่ยนอะไรง่าย ๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยน
การ ทำให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี หรือใช้นโยบายก้าวหน้า  หลวงประดิษฏ์ มนูธรรม เสนอเค้าโครงร่างทางเศษฐกิจ และการดำเนินการ
เป็นรูปแบบ ของประชานิยม  พวกหัวเก่า รวมกัน กล่าวหาว่า เค้าโครงแบบนี้ มันคอมมิวนิสต์
เพราะท่านเสนอ การปฏิวัติทางการช่วยเหลือ ประชาชน เป็นระบอบสังคมนิยม อ่อน ๆ แล้ว คุณหลวงประดิษฏ์ ก็
ต้องไป อยู่ต่างประเทศ ไม่ได้กลับมาเมืองไทยในที่สุด
ว่ามาถึงคุณทักษิณ ที่เสนอโครงการ ช่วยประชาชน อย่างที่ไม่เคยมี รัฐบาลใดกล้า ทำมาก่อน แม้แต่
คุณคึกฤทธิ์ ก็ตาม คุณทักษิณ เสนอ นโยบาย ที่บอกว่า แรก ๆคนไทย ไม่รู้ไม่ทราบมาก่อน ว่า ไอ้เข้า
โรงพยาบาล นี่ใช้เงินแค่ 30 บาทก็ทำได้ เพราะ ก่อน ๆ ประชาชนถนัด แต่หมอตี๋ ยาซอง ยาชุด แม้
แต่ คลอดลูก ก็ หมอตำแย ผมเอง ตอนเกิด แม่บอก เกือบไม่รอด เพราะดันเอา เท้าออกก่อน แต่หมอตำแย
ก็ช่วยได้ พอคุณทักษิณ เข้ามา คลอดลูก นี่ 30 บาท บางคนถึงกับ บอกอยากจะคลอดซักปี ละ 3 ครั้ง ว่าไปนั่น
โครงการนี้ ยูเนสโก้ ถึงกับ เสนอให้เป็น โครงการระดับโลก  และอีกหลายเรื่องที่ คุณทักษิณ คิดกันขึ้นมา
ใครจะคิดละว่า แผงลอยสามารถไปการันตีเงินกู้ได้ คุณทักษิณ จัดให้ เพราะก่อนหน้า นั้น แม่ค้าตามตลาด อยากได้เงิน
มาแล้วครับ ชายชุดดำ เสนอเงินกู้ 2000 จ่ายวันละ 120  หนึ่งเดือน  หรือต้องการ ทองมาใส่บอก ชุดดำจัดให้
หนึ่งบาท นี่ ตะก่อนมัน 5 พัน จ่ายวันละ 200  หกสิบวันนะ  ครับแต่คุณทักษิณ ก็ทำให้ ครับ ชาวบ้านก็แฮปปี้
ทีไม่แฮปปี้ นี่ ก็พวกนายทุน พวก โรงพยาบาล พวก อำมาตย์ เจ้ามือหวย หรือพวกระบบเก่า ที่คอย กินไอติม
จากการที่รัฐส่งมา อย่างกองทุนหมู่บ้าน นี่ ไอติม รัฐให้มาทั้งแท่ง ที่หมู่บ้านเลียกินกันเอง ไม่เหมือนก่อนที่โครงการ
อะไรออกมา รัฐมนตรี กัดกร่วม ปลัด กัดอีกคำ อธิบดี ยัน ผู้ใหญ่บ้าน มาถึงชาวบ้าน เหลือแต่ วิญญาณ ของไอติม
ได้แต่เลียกัน  
อำมาตย์ ที่คุ้นเคยกับระบอบเก่า ทนไม่ได้ 19 กันยา 49 เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่แบบเก่า แบบเก่านี่ ทหาร ปฎิวัติ เสร็จ ก็จากไป แต่พวกนี้ ลึกครับ  สร้างระบบที่บางคน นึกไม่ถึง
เรียกว่า ตุลาการภิวัฒน์  เอาฝ่ายตุลาการ เข้าไปเริ่มต้นกันเลย  หลายท่านจำ พลเอกพัลลภ ปี่นมณี ที่ออกมา
แฉ ว่า มี ประธานศาลฏีกา มี ตุลาการ มี ประธานศาลปกครอง แม้กระทั่ง องค์มนตรี ไปกินข้าว ที่บ้าน
ผู้ยี่งใหญ่ของวงกสารสื่อ คุณพัลลภ แฉ แล้วไม่มีใคร ฟ้องแกซักคน  หลังจาก 19 กันย 49 กลุ่มนี้ ก็เข้าไปมีบทบาท
ในการดำเนินการทางบ้านเมือง บางคนเป็นนายก บางคนเป็นรัฐมนตรี บางคนเป็นปลัด ฯ และกลุ่มพวกนี้อีกเช่นกัน
เข้าไปเขียนรัฐธรรมนูญ ฉบับรับไปก่อน หลังจากเขียนเสร็จ รับเสร็จ บางคนแปลงร่างเป็น ตลก รัฐธรรมนูญ เรียกว่า
รับลูก แบบชงเองกินเอง  จะหวานจะขม ทำได้หมด  อย่าง ม . 68 ที่เป็นปัญหา เขาบอกให้ผ่าน อัยการ ฝ่ายหนึ่ง
เคยเสนอให้ สอบ บอก ต้อง ผ่าน อัยการก่อน แต่พอ ฝ่าย ที่มองตาก้รู้ใจ เสนอมา บอกไม่ต้อง เพราะ ถ้าช้า บ้านเมือง
จะเรือหาย  เอากะพ่อซี  ครับ บ้านเมือง ที่ มันพัลวันพัลเก ทุกวันนี้ จะทำอะไร จะแก้ ใขอะไร ให้มันเข้าตามตรอก
ออกทางประตู ไม่หรอกครับ โน่น ส่งเข้ามาทางหน้าต่างเลย แล้วบอก ประตูมันเล็กไป ต้องเข้าทางหน้าต่าง
ถึงจะไว ทำยังกะบ้านเมือง จะพาสาวหนียังงั้น ส่วนกองเชียร์ ก็ เชียร์แบบเตลิดเปิดเปิง คนไม่เห็นด้วย นี่ให้ของเลยครับ
ว่าไปถึงกระบือ ถึง มดปลวก ไปโน่น  ไอ้ผมเป็น คนบ้านนอกที่เห็น กระบือ เป็นพระเจ้าเป็น สัตว์ ที่ให้ผมได้กินข้าว
จนทุกวันนี้ ไม่ว่าครับ เพราะลง คนดูถูก กระบือ แล้ว ไอ้นั่น มันเสียชาติเกิด ที่บอกว่า   อะไรจะเกิด ก็ชิง ... เกิดซะงั้น
อโหสิครับ ไม่ว่ากัน
ว่ากันไปตั้งนานเลี้ยวไปที่อื่น จนอำมาตย์หายไป ก็ที่รวย ๆสมบัติ เจ้าคุณปู่ ที่บางคนอวดว่า ขายที่ได้เป็นพันล้าน
มันก็สมบัติ ที่ ในหลวงพระราชขทานให้ ตะเองจะมีปัญญา หาได้ขนาดนั้นก็ไม่ เหมือนกับ คุณหญิงพลมาน ซื้อที่ ๆ
เขายึดทรัพย์ ซื้อไปซื้อมา ศาลท่านบอกที่ซื้อนะโมฆะ  แต่ สามี ขอโทษ คนรับรอง เฉย ๆ เอาไปติดคุก ซะสองปี
สามีเลยต้อง ไปจากเมืองไทย จนบัดนี้ อายเขาไหมล่ะ คดีอะไร ฟร่ะ คนซื้อคนขายไม่ติดคุก สะอาด แต่คนเซ็นว่า ผมคือ
สามี ไอ้นี่ร้ายแรง ทำความเสียหายให้กับประเทศ หนักมาก เล่นซะ สองปี  คนฟังเขาละสงสัย นี่มันศาลอะไร ถามไปถามมา
ศาลคดฏีกา ทางการเมือง นี่แหละครับผลพวงของอำมาตย์
พรุ่งนี้ เป็นวันมหาสงกรานต์ คนบ้านนอก อยู่บ้านก็มี เด็ก ๆ กลับมาบ้านมาอวยพร รดน้ำ ให้อยู่เย็นเป็นสุข ครับวันปีใหม่ของไทย
แตโบราณ  ก็มีความสุขกันทุกท่านนะครับ ไอ้ที่หมองใจ ที่ต่อยตีกัน ก็อโหสิ วะ ใจจะได้เย็นลง มีความคิดความอ่าน
ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น  คนมีอายุ แบบผม ก็นั่งดูความเจริญของเขาไปอย่างมีความสุข ตอนนี้ก็ภาวนา อย่าเพิ่งเป็นอะไรไป
จะรอขึ้นรถไฟ ความเร็วสูงซักครั้ง ถึงตายก็นอนตาหลับครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่