สวัสดีคะ หลังจากที่ได้ขอความช่วยเหลือในห้องบลูหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้อยู่ที่ปารีสแล้วคะ
อยากมารีวิวขอบคุณ อาจจะไม่ละเอียดมากนะค่ะ เพราะเนตที่มีค่อนข้างช้า
แต่อยากอัพเดทให้ชาวห้องบลูเพื่อเป็นการขอบคุณคะ
*******************************************************************
ตอนใหม่
Europe 31 วัน ตอนที่2 Paris - Musee d'Orsay , Musee de l'Orangerie , Versailles
http://ppantip.com/topic/30363538
Europe 31 วัน ตอนที่2/2 Paris - Chateau de Versailles - ตปท ครั้งแรก ภาษาอังกฤษไม่กระดิก เกือบโดน ตม.สอยซะแล้ว
http://ppantip.com/topic/30363693
Europe 31 วัน ตอนที่ 3 / 13-15 April Paris - Zermatt / ตปท ครั้งแรก ภาษาอังกฤษไม่กระดิก เกือบโดน ตม.สอยซะแล้ว
http://ppantip.com/topic/30371515
*******************************************************************
วันที่ 5 เมษายน
เครื่องบินลงถึงพื้นปารีสวันที่ 5 เมษายน ประมาณ 7 โมงกว่าตามเวลาท้องถิ่น
เราและแฟนไม่เคยไปเที่ยว ตปท ที่ไหนเลย Passport เพิ่งทำมา และไม่เคยมีวีซ่าที่ไหนมาก่อน เชงเก้นฝรั่งเศสคือที่แรกคะ
** ขอนอกเรื่องเล็กน้อยคะ อยากจะบอกว่า เราทำวีซ่าผ่านตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมแล้ว ไปกับแฟนที่ไม่ได้แต่งงานและจดทะเบียน เราทำงานอิสระ มีเงินพอแค่ค่าใช้จ่ายในทริป ที่ผ่านมาได้เพราะว่าเตรียมเอกสารให้พร้อมคะ เรามีข้อบกพร่องตรงไหน อธิบาย ใน จม.แนะนำตัวที่แนบไปด้วย
และเราดันเกิดเหตุการโดนขโมยกระเป๋าที่ Premium Outlet ปากช่อง เมื่อช่วงเดือนกุมภา Passport จึงหายไปด้วย เราเลยต้องไปทำ Passport ใหม่ แต่โชคชะตาให้เราได้ Passport เก่าคืนมาคะ ตำรวจไปเจอมันถูกทิ้งไว้ เราได้ปรึกษาทั้งสำนักงานหนังสือเดินทาง เขาบอกว่าจะทำเอนดรอสเม้น เพื่อถือสองเล่มให้แต่เขาไม่การันตีว่าจะใช้ได้ เลยโทรและส่งเมลไปทางสถานทูตฝรั่งเศสไม่ได้เรื่องสักอย่าง เลยตัดสินใจบุกไปที่สถานทูตเลย แต่ตามปกติแล้วถ้าไม่ได้นัดไปก่อนเขาไม่ให้เข้านะค่ะ แต่เราอธิบายกับพี่ยาม พี่ยามอยากช่วยเลยให้เข้าได้คะ เขาให้คำตอบแน่ชัดคะว่า ไม่สามารถถือสองเล่มได้ต้องทำใหม่เท่านั้น เราเลยต้องทำใหม่ทั้งหมดคะ **
เรากับแฟนตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินการบินไทย ไปลงปารีส กลับจากโรม ราคา 40,000 ต่อคน ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ( เล่าให่ใครฟัง เขาก็ด่ากันทั้งนั้นว่าวีซ่าไม่ได้ขอ จ่ายเงินไปทำไม อือออออ ก็เค้าอยากไปนี้นา )
ตอนแรกก่ะจะเป็นทริปแบคแพคประหยัดๆ แต่ติดตรงที่ไม่เคยไป ตปท มาก่อนนี้แหล่ะคะ ที่ตัดสินใจซื้อตั๋วบินตรงเพราะว่าเรากลัวว่าถ้าไปต่อเครื่องเราต้องแย่แน่ๆ เพราะไม่เคยนั่งเครื่องบิน และขอบอกที่สำคัญมากๆคือ ภาษาเรางู ปลา สุดๆ เป็นปัญหาหนักใจทุกครั้งที่จะซื้ออาหารคะ วันแรกเครียดมากๆ แต่หลังๆก็สนุกคะ ใช้วิธีชี้ๆเอา
เราโชคดีมากที่ทำ เช็คอินการบินไทยทางอินเทอเนตล่วงหน้า เลยได้ที่นั่งชั้นประหยัดด้านบนของ A380 ติดหน้าต่าง ที่มี 2 เบาะคะ (ถ้าด้านล่างที่จองไว้ตอนแรกติดหน้าต่างจะมี 3 เบาะคะ) ซึ่งเราไม่สามารถเลือกที่นั่งตรงนี้ได้ตั้งแต่ตอนซื้อตั๋ว เพราะเราเป็นตั๋วชั้นประหยัด และไม่สามารถคืนได้คะ
พอมาถึง Terminal 1 ก็ งงๆคะ เดินตามเขาไป พอจะผ่าน ตม.นี้หล่ะ อากาศเย็นๆ เหงื่อแตกทันทีคะ เพราะว่า ตม. สักเรากับแฟนนานมาก ของคนอื่นเขาถามว่าจะไปไหนก็ตอบๆไป แต่ของเราเนื่องจากเป็นการเดินทางครั้งแรก แต่อยู่ยุโรปถึง 31 วัน มาแบบแบคแพคเลย มีเป้คนละใบและกระเป๋ากล้องคนละใบ และเนื่องจากที่บอกไปแล้วว่า ภาษาเราไม่ดีคะทั้งคู่ เราเลยใช้วิธีพิมพ์ เอกสารภาษาอังกฤษ ชื่อ เหตุผลที่มาที่นี้ ( เราทำงานศิลปะกันคะ และจะมาศึกษางานศิลปะ) เอาประกันการเดินทาง เบอร์โทรติดต่อฉุกเฉิน ตั๋วเครื่องบินขากลับ ตั๋วรถไฟทุกเมืองที่ซื้อแล้วทุกอย่าง ติดเผื่อไปด้วยคะ และมันได้ใช้จริงๆ
เรากับแฟนเข้าไปหา ตม.ช่องเดียวกัน ยื่น Passport ให้ เขาพลิกๆๆดู แล้วหันไปปรึกษากับ ตม.อีกคนนึงข้างๆ เขาถามว่าเราจะมาทำอะไร เราก็พยายามตอบแบบภาษาไม่กระดิกของเราว่าจะมาดูพิพิธภัณฑ์ที่ปารีส เขาไม่เข้าใจ เวรกรรม งานเข้า เหงื่อแตกคะ แต่พยายามมีสติ
เลยเอาไอ้ที่เตรียมมาให้เขาดู เขาดูนานมาก เอาทุกอย่างออกมาอ่าน ประกันการเดินทาง แผนเดินทางแต่ละวัน แล้วก็หันไปปรึกษา ตม.ข้างๆอีก ในใจคิด โอ๊ยยย อยากกลับบ้าน เรามาทำไรกันเนี๊ย ภาษาก็ไม่ได้ มาครั้งแรกยังจะมาไกลขนาดนี้อีก
บังเอิญมีผู้ชายเอเชียน่าจะแถบๆจีนนะค่ะ เขาได้ช่อง ตม.ข้างๆเรา (ตม.ที่ ตม.เราปรึกษากัน) ดันโทรศัพท์คะ ตม.ช่องเราเงยหน้าขึ้น ว๊ากใส่ดังมากกกกกกกกก
เราสองคนยิ่งใจเหี่ยวคะ คนเอเชียคนนั้นเลยทำหน้าแบบว่า อะไรว่ะ มาว๊ากตรูทำไม (เหมือนไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดกาละเทศะ) แล้ว ตม.ก็หันมาทางเรา มันนี่...มันนี่ งงไปครู่ใหญ่ อ๋ออ ขอดูเงิน เราเลยเอาทั้งเงินที่แลกมา บัตรเดบิต บัตรเครดิต ทุกอย่าง ให้เขาดู เขาไม่แตะเงินของเราแค่ดูและถามว่าเท่าไหร่ แต่เขาเอากระเป๋าบัตรไปพลิกๆดูว่ามีบัตรอะไรบ้าง
แล้วก็ปรึกษากันอีก ตอนนั้นคงแป๊บเดียวคะ แต่เรารู้สึกนานมากๆ ตม.เงยหน้าขึ้น ปั๊ม Passport ยิ้มให้หวานมากๆๆๆๆ ผิดจากเมื่อกี้ที่น่ากลัวลิบลับเลย แถมยกนิ้วโป้งให้ เชิญเข้าไปได้ โอ๊ยยยย โล่งอกคะ แล้วพี่จะขู่นู๋ทำไมตั้งแต่ทีแรกค่ะ อืออออ กลัวหมด
สรุปว่า ถ้าทุกอย่างเราเครียส์ อธิบายให้เขาเข้าใจได้ ทั้งการขอวีซ่าและการผ่าน ตม. สบาย ใสๆคะ
[CR] Europe 31 วัน ตอนที่1 Paris ตปท ครั้งแรก ภาษาอังกฤษไม่กระดิก เกือบโดน ตม.สอยซะแล้ว
อยากมารีวิวขอบคุณ อาจจะไม่ละเอียดมากนะค่ะ เพราะเนตที่มีค่อนข้างช้า
แต่อยากอัพเดทให้ชาวห้องบลูเพื่อเป็นการขอบคุณคะ
*******************************************************************
ตอนใหม่
Europe 31 วัน ตอนที่2 Paris - Musee d'Orsay , Musee de l'Orangerie , Versailles
http://ppantip.com/topic/30363538
Europe 31 วัน ตอนที่2/2 Paris - Chateau de Versailles - ตปท ครั้งแรก ภาษาอังกฤษไม่กระดิก เกือบโดน ตม.สอยซะแล้ว
http://ppantip.com/topic/30363693
Europe 31 วัน ตอนที่ 3 / 13-15 April Paris - Zermatt / ตปท ครั้งแรก ภาษาอังกฤษไม่กระดิก เกือบโดน ตม.สอยซะแล้ว
http://ppantip.com/topic/30371515
*******************************************************************
วันที่ 5 เมษายน
เครื่องบินลงถึงพื้นปารีสวันที่ 5 เมษายน ประมาณ 7 โมงกว่าตามเวลาท้องถิ่น
เราและแฟนไม่เคยไปเที่ยว ตปท ที่ไหนเลย Passport เพิ่งทำมา และไม่เคยมีวีซ่าที่ไหนมาก่อน เชงเก้นฝรั่งเศสคือที่แรกคะ
** ขอนอกเรื่องเล็กน้อยคะ อยากจะบอกว่า เราทำวีซ่าผ่านตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมแล้ว ไปกับแฟนที่ไม่ได้แต่งงานและจดทะเบียน เราทำงานอิสระ มีเงินพอแค่ค่าใช้จ่ายในทริป ที่ผ่านมาได้เพราะว่าเตรียมเอกสารให้พร้อมคะ เรามีข้อบกพร่องตรงไหน อธิบาย ใน จม.แนะนำตัวที่แนบไปด้วย
และเราดันเกิดเหตุการโดนขโมยกระเป๋าที่ Premium Outlet ปากช่อง เมื่อช่วงเดือนกุมภา Passport จึงหายไปด้วย เราเลยต้องไปทำ Passport ใหม่ แต่โชคชะตาให้เราได้ Passport เก่าคืนมาคะ ตำรวจไปเจอมันถูกทิ้งไว้ เราได้ปรึกษาทั้งสำนักงานหนังสือเดินทาง เขาบอกว่าจะทำเอนดรอสเม้น เพื่อถือสองเล่มให้แต่เขาไม่การันตีว่าจะใช้ได้ เลยโทรและส่งเมลไปทางสถานทูตฝรั่งเศสไม่ได้เรื่องสักอย่าง เลยตัดสินใจบุกไปที่สถานทูตเลย แต่ตามปกติแล้วถ้าไม่ได้นัดไปก่อนเขาไม่ให้เข้านะค่ะ แต่เราอธิบายกับพี่ยาม พี่ยามอยากช่วยเลยให้เข้าได้คะ เขาให้คำตอบแน่ชัดคะว่า ไม่สามารถถือสองเล่มได้ต้องทำใหม่เท่านั้น เราเลยต้องทำใหม่ทั้งหมดคะ **
เรากับแฟนตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินการบินไทย ไปลงปารีส กลับจากโรม ราคา 40,000 ต่อคน ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ( เล่าให่ใครฟัง เขาก็ด่ากันทั้งนั้นว่าวีซ่าไม่ได้ขอ จ่ายเงินไปทำไม อือออออ ก็เค้าอยากไปนี้นา )
ตอนแรกก่ะจะเป็นทริปแบคแพคประหยัดๆ แต่ติดตรงที่ไม่เคยไป ตปท มาก่อนนี้แหล่ะคะ ที่ตัดสินใจซื้อตั๋วบินตรงเพราะว่าเรากลัวว่าถ้าไปต่อเครื่องเราต้องแย่แน่ๆ เพราะไม่เคยนั่งเครื่องบิน และขอบอกที่สำคัญมากๆคือ ภาษาเรางู ปลา สุดๆ เป็นปัญหาหนักใจทุกครั้งที่จะซื้ออาหารคะ วันแรกเครียดมากๆ แต่หลังๆก็สนุกคะ ใช้วิธีชี้ๆเอา
เราโชคดีมากที่ทำ เช็คอินการบินไทยทางอินเทอเนตล่วงหน้า เลยได้ที่นั่งชั้นประหยัดด้านบนของ A380 ติดหน้าต่าง ที่มี 2 เบาะคะ (ถ้าด้านล่างที่จองไว้ตอนแรกติดหน้าต่างจะมี 3 เบาะคะ) ซึ่งเราไม่สามารถเลือกที่นั่งตรงนี้ได้ตั้งแต่ตอนซื้อตั๋ว เพราะเราเป็นตั๋วชั้นประหยัด และไม่สามารถคืนได้คะ
พอมาถึง Terminal 1 ก็ งงๆคะ เดินตามเขาไป พอจะผ่าน ตม.นี้หล่ะ อากาศเย็นๆ เหงื่อแตกทันทีคะ เพราะว่า ตม. สักเรากับแฟนนานมาก ของคนอื่นเขาถามว่าจะไปไหนก็ตอบๆไป แต่ของเราเนื่องจากเป็นการเดินทางครั้งแรก แต่อยู่ยุโรปถึง 31 วัน มาแบบแบคแพคเลย มีเป้คนละใบและกระเป๋ากล้องคนละใบ และเนื่องจากที่บอกไปแล้วว่า ภาษาเราไม่ดีคะทั้งคู่ เราเลยใช้วิธีพิมพ์ เอกสารภาษาอังกฤษ ชื่อ เหตุผลที่มาที่นี้ ( เราทำงานศิลปะกันคะ และจะมาศึกษางานศิลปะ) เอาประกันการเดินทาง เบอร์โทรติดต่อฉุกเฉิน ตั๋วเครื่องบินขากลับ ตั๋วรถไฟทุกเมืองที่ซื้อแล้วทุกอย่าง ติดเผื่อไปด้วยคะ และมันได้ใช้จริงๆ
เรากับแฟนเข้าไปหา ตม.ช่องเดียวกัน ยื่น Passport ให้ เขาพลิกๆๆดู แล้วหันไปปรึกษากับ ตม.อีกคนนึงข้างๆ เขาถามว่าเราจะมาทำอะไร เราก็พยายามตอบแบบภาษาไม่กระดิกของเราว่าจะมาดูพิพิธภัณฑ์ที่ปารีส เขาไม่เข้าใจ เวรกรรม งานเข้า เหงื่อแตกคะ แต่พยายามมีสติ
เลยเอาไอ้ที่เตรียมมาให้เขาดู เขาดูนานมาก เอาทุกอย่างออกมาอ่าน ประกันการเดินทาง แผนเดินทางแต่ละวัน แล้วก็หันไปปรึกษา ตม.ข้างๆอีก ในใจคิด โอ๊ยยย อยากกลับบ้าน เรามาทำไรกันเนี๊ย ภาษาก็ไม่ได้ มาครั้งแรกยังจะมาไกลขนาดนี้อีก
บังเอิญมีผู้ชายเอเชียน่าจะแถบๆจีนนะค่ะ เขาได้ช่อง ตม.ข้างๆเรา (ตม.ที่ ตม.เราปรึกษากัน) ดันโทรศัพท์คะ ตม.ช่องเราเงยหน้าขึ้น ว๊ากใส่ดังมากกกกกกกกก
เราสองคนยิ่งใจเหี่ยวคะ คนเอเชียคนนั้นเลยทำหน้าแบบว่า อะไรว่ะ มาว๊ากตรูทำไม (เหมือนไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดกาละเทศะ) แล้ว ตม.ก็หันมาทางเรา มันนี่...มันนี่ งงไปครู่ใหญ่ อ๋ออ ขอดูเงิน เราเลยเอาทั้งเงินที่แลกมา บัตรเดบิต บัตรเครดิต ทุกอย่าง ให้เขาดู เขาไม่แตะเงินของเราแค่ดูและถามว่าเท่าไหร่ แต่เขาเอากระเป๋าบัตรไปพลิกๆดูว่ามีบัตรอะไรบ้าง
แล้วก็ปรึกษากันอีก ตอนนั้นคงแป๊บเดียวคะ แต่เรารู้สึกนานมากๆ ตม.เงยหน้าขึ้น ปั๊ม Passport ยิ้มให้หวานมากๆๆๆๆ ผิดจากเมื่อกี้ที่น่ากลัวลิบลับเลย แถมยกนิ้วโป้งให้ เชิญเข้าไปได้ โอ๊ยยยย โล่งอกคะ แล้วพี่จะขู่นู๋ทำไมตั้งแต่ทีแรกค่ะ อืออออ กลัวหมด
สรุปว่า ถ้าทุกอย่างเราเครียส์ อธิบายให้เขาเข้าใจได้ ทั้งการขอวีซ่าและการผ่าน ตม. สบาย ใสๆคะ