THE BARBELL TALK:
Barbell นั้นดูเหมือนจะได้เปรียบ Dumbbell ในด้านการสร้างกล้ามเนื้อเนื่องจากท่า King อย่าง Bench press, Squat และ Deadlift ต่างก็ใช้ Barbell ทั้งหมด โดยเฉพาะ Squat และ Deadlift ซึ่ง Dumbbell นัน้มีไว้ให้คนเจ็บหลัง กับ ผู้หญิงเล่นเท่านั้น แต่ Hardcore ตัวจริงอย่าง Ronnie Coleman, Branch warren, Tom Platz, Johnie Jackson ก็คงไม่หยิบ Dumbbell มาเล่น, ส่วนนึงก็คือน้ำหนักมันไม่มีพอให้พวกเขาเล่น.....
Barbell นั้นถูกใช้เป็นตัววัดพละกำลังหลักและแสดงถึงความเป็นชายมากกว่า Dumbbell ในสายตาของผู้มอง, ภาพผู้หญิงจะต้องถือ Dumbbell เสมอแต่ถ้าเป็น Barbell แล้วส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย กีฬายกน้ำหนักก็ไม่มีแข่งขันยก Dumbbell ยกเว้นใน STRONGMAN EVENT แต่ก็น้อยครั้งนักที่เราจะพบ Barbell
THE DUMBBELL TALK:
Dumbbell นั้นถือว่าเป็นธรรมชาติมากกว่าเพราะว่าปล่อยให้กล้ามเนื้อเราทั้งสองข้างซึ่งก็ไม่เท่ากันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ในบางครั้งให้เคลื่อนลึกกว่าที่ Barbell จะไปได้โดยที่ไม่บาดเจ็บ การเล่น Incline Bench press โดยใช้ Barbell นั้นทำให้เกิดการเจ็บหัวไหล่ได้ง่ายกว่า Dumbbell มาก
Dumbbell นั้นยังเป็น Free Weight ที่สุดยอดในเชิงของการทำให้ “กล้ามเนื้อตัด” เพราะการเอารายละเอียดกล้ามเนื้อพวกนั้นออกมาไม่ได้ทำให้ง่ายๆด้วย Barbell แต่กับ Dumbbell ท่านสามารถบีบกล้ามเนื้อเข้าหากันได้
นอกจากนี้สำหรับคนเจ็บหัวไหล่นั้นยังสามารถเล่นแบบหันฝ่ามือเข้าหากัน ทำให้กล้ามเนื้อ Rotator cuff มัดที่เจ็บถูกเอาออกไปจากการยก ทำให้ยัง Press ได้หนักแบบเดิม และในเวลาเดียวกันก็ไม่ทำให้เจ็บเพิ่มขึ้น
ความแตกต่างที่แท้จริง:
ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเองแต่ความแตกต่างที่แท้จริงก็คือในท่าอย่าง การดันอก, การเล่น ROW นั้นเราก็บอกได้ว่าต่างกันตรงที่ Dumbbell ลงได้ลึกกว่า ได้อิสระกว่า และในท่า ROW นั้นผมอาจให้ Credit Dumbbell นิดหน่อยสำหรับคนที่เจ็บหลังเพราะว่าหากเป็น Dumbbell นั้น CG (Center of Gravity) จะโยกไปด้านหลังหน่อย และทำให้เราปวดหลังน้อยลง
ความแตกต่างจริงๆแบบขิงๆเลยคือ Barbell Squat vs Dumbbell Squat เพราะสองอันนี้ต่างกันในเรื่องของ CG หรือว่า Center of Gravity ซึ่งคือ “จุดศูนย์ถ่วง” ของตัวเรานั่นเองครับ สำหรับการเอาคานวางไว้ที่บ่านั้นจะทำให้ จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายนั้นอยู่สูง ซึ่งนั่นหมายความว่าร่างกายจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อที่จะพยายาม Balance ตัวคานนี้ไว้ แต่ถ้าเป็น Dumbbell เราจะรู้สึกได้เลยว่าการถือ Dumbbell ไว้ข้างตัวนั้นสามารถที่จะ Balance ได้ง่ายกว่ามาก ทั้งนี้เพราะจุดศูนย์ถ่วงนั้นเปลี่ยนไปตามตำแหน่งที่เราถือน้ำหนักเอาไว้ครับ
การฝึกด้วย Barbell สำหรับ Squat หรือ LUNGE นั้นอาจต้องอาศัยผู้มีประสบการณ์ และผู้ที่มีช่วงลำตัวที่แข็งแรงแต่ในเวลาเดียวกัน Dumbbell ก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่เจ็บหลัง
บทสรุป:
Dumbbell กับ Barbell ต่างก็เป็น Free Weight และมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกันในเรื่องการใช้งาน อาจจะไม่มีคำตอบที่สามารถบอกได้ว่า Dumbbell ดีกว่าทั้งหมด หรือ Barbell ดีกว่าทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับผู้ฝึกว่ามี “ข้อจำกัด” ใดในการฝึก เพราะตัวผู้ฝึกนั้นสำคัญที่สุดและส่วนใหญ่คือ “ข้อจำกัด” มากกว่าอุปกรณ์ (เพราะเราหาซื้ออุปกรณ์ได้แต่คงเปลี่ยนกรรมพันธุ์หรือรูปร่างตนได้ยาก)
เล่นกล้ามด้วย BARBELL หรือ DUMBBELL อันไหนใหญ่กว่ากัน?
THE BARBELL TALK:
Barbell นั้นดูเหมือนจะได้เปรียบ Dumbbell ในด้านการสร้างกล้ามเนื้อเนื่องจากท่า King อย่าง Bench press, Squat และ Deadlift ต่างก็ใช้ Barbell ทั้งหมด โดยเฉพาะ Squat และ Deadlift ซึ่ง Dumbbell นัน้มีไว้ให้คนเจ็บหลัง กับ ผู้หญิงเล่นเท่านั้น แต่ Hardcore ตัวจริงอย่าง Ronnie Coleman, Branch warren, Tom Platz, Johnie Jackson ก็คงไม่หยิบ Dumbbell มาเล่น, ส่วนนึงก็คือน้ำหนักมันไม่มีพอให้พวกเขาเล่น.....
Barbell นั้นถูกใช้เป็นตัววัดพละกำลังหลักและแสดงถึงความเป็นชายมากกว่า Dumbbell ในสายตาของผู้มอง, ภาพผู้หญิงจะต้องถือ Dumbbell เสมอแต่ถ้าเป็น Barbell แล้วส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย กีฬายกน้ำหนักก็ไม่มีแข่งขันยก Dumbbell ยกเว้นใน STRONGMAN EVENT แต่ก็น้อยครั้งนักที่เราจะพบ Barbell
THE DUMBBELL TALK:
Dumbbell นั้นถือว่าเป็นธรรมชาติมากกว่าเพราะว่าปล่อยให้กล้ามเนื้อเราทั้งสองข้างซึ่งก็ไม่เท่ากันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ในบางครั้งให้เคลื่อนลึกกว่าที่ Barbell จะไปได้โดยที่ไม่บาดเจ็บ การเล่น Incline Bench press โดยใช้ Barbell นั้นทำให้เกิดการเจ็บหัวไหล่ได้ง่ายกว่า Dumbbell มาก
Dumbbell นั้นยังเป็น Free Weight ที่สุดยอดในเชิงของการทำให้ “กล้ามเนื้อตัด” เพราะการเอารายละเอียดกล้ามเนื้อพวกนั้นออกมาไม่ได้ทำให้ง่ายๆด้วย Barbell แต่กับ Dumbbell ท่านสามารถบีบกล้ามเนื้อเข้าหากันได้
นอกจากนี้สำหรับคนเจ็บหัวไหล่นั้นยังสามารถเล่นแบบหันฝ่ามือเข้าหากัน ทำให้กล้ามเนื้อ Rotator cuff มัดที่เจ็บถูกเอาออกไปจากการยก ทำให้ยัง Press ได้หนักแบบเดิม และในเวลาเดียวกันก็ไม่ทำให้เจ็บเพิ่มขึ้น
ความแตกต่างที่แท้จริง:
ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเองแต่ความแตกต่างที่แท้จริงก็คือในท่าอย่าง การดันอก, การเล่น ROW นั้นเราก็บอกได้ว่าต่างกันตรงที่ Dumbbell ลงได้ลึกกว่า ได้อิสระกว่า และในท่า ROW นั้นผมอาจให้ Credit Dumbbell นิดหน่อยสำหรับคนที่เจ็บหลังเพราะว่าหากเป็น Dumbbell นั้น CG (Center of Gravity) จะโยกไปด้านหลังหน่อย และทำให้เราปวดหลังน้อยลง
ความแตกต่างจริงๆแบบขิงๆเลยคือ Barbell Squat vs Dumbbell Squat เพราะสองอันนี้ต่างกันในเรื่องของ CG หรือว่า Center of Gravity ซึ่งคือ “จุดศูนย์ถ่วง” ของตัวเรานั่นเองครับ สำหรับการเอาคานวางไว้ที่บ่านั้นจะทำให้ จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายนั้นอยู่สูง ซึ่งนั่นหมายความว่าร่างกายจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อที่จะพยายาม Balance ตัวคานนี้ไว้ แต่ถ้าเป็น Dumbbell เราจะรู้สึกได้เลยว่าการถือ Dumbbell ไว้ข้างตัวนั้นสามารถที่จะ Balance ได้ง่ายกว่ามาก ทั้งนี้เพราะจุดศูนย์ถ่วงนั้นเปลี่ยนไปตามตำแหน่งที่เราถือน้ำหนักเอาไว้ครับ
การฝึกด้วย Barbell สำหรับ Squat หรือ LUNGE นั้นอาจต้องอาศัยผู้มีประสบการณ์ และผู้ที่มีช่วงลำตัวที่แข็งแรงแต่ในเวลาเดียวกัน Dumbbell ก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่เจ็บหลัง
บทสรุป:
Dumbbell กับ Barbell ต่างก็เป็น Free Weight และมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกันในเรื่องการใช้งาน อาจจะไม่มีคำตอบที่สามารถบอกได้ว่า Dumbbell ดีกว่าทั้งหมด หรือ Barbell ดีกว่าทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับผู้ฝึกว่ามี “ข้อจำกัด” ใดในการฝึก เพราะตัวผู้ฝึกนั้นสำคัญที่สุดและส่วนใหญ่คือ “ข้อจำกัด” มากกว่าอุปกรณ์ (เพราะเราหาซื้ออุปกรณ์ได้แต่คงเปลี่ยนกรรมพันธุ์หรือรูปร่างตนได้ยาก)