ขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ
อยากเลี้ยงแมวเพิ่มไว้เป็นเพื่อนขนุน เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาค่ะ
ทุกคนมีกิจกรรมนอกบ้านกันหมดเรากลัวเขาเหงาค่ะ
เรามีตัวเลือก 3 ข้อที่คิดไว้ (เรียงจากตัวเลือกที่อยากทำมากที่สุด) คือ
1.รับแมวโตมาเลี้ยง จะเอาแมวจาก ตจว มาเลี้ยง
2.รับแมวเด็กมาเลี้ยง แมวเด็กจะหาจากในเน็ตนี่แหละค่ะ
3.รับแมวโตจากเน็ตมาเลี้ยง แต่ต้องทำหมันและวัคซีนแล้ว
ปัญหา คือ เราอยู่คอนโดมีพื้นที่จำกัด ถ้าเลี้ยงแมวเด้กก็จะไม่อึดอัดเท่าไหร่
(พอแมวเริ่มโต เราก็ทำบ้านใหม่แล้ว)
แต่ตัวเองอยากรับแมวโต ที่เป็นแมวจากบ้าน ตจว มาเลี้ยงมากกว่า
เพราะปกติเราก็เป็นคนส่งอาหารแมวไปให้ที่บ้านนู้นอยู่แล้ว(จะได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม)
อีกปัญหานึงคือเขาเป็นแมวเลี้ยงแบบนอกบ้านค่ะ
ไม่เคยเข้ามาอยุ่ในบ้านเลย เรากลัวว่าถ้าเราพาเขามาอยู่ในที่แคบๆ(คอนโด)มันจะทำให้เขาอึดอัดหรือปล่าว
เพราะที่นี้ไม่มีที่ให้วิ่งเล่นได้เลย กลัวจะเป็นการไปทรมานเขา
ถ้าเราเลี้ยงแมวเด็ก(หรือแมวโตจากเน็ต) เราต้องมีภาระเลี้ยงแมวเพิ่ม 1 ตัว
แต่ถ้าเอาแมวโตที่ตจวมาเลี้ยงก็จะตัดภาระเรื่องนี้ไป
(เรามี3บ้าน ตอนนี้รวมแล้ว5ตัว ถ้ารับแมวเด็กมาอีกก็จะกลายเป็น 6 ตัว
ในระยะสั้น 5 ตัว กับ 6 ตัวจะไม่ต่างกัน แต่ในระยะยาว ยิ่งตอนแมวอายุมากขึ้นก็คงมีส่วนต่างกันเยอะ)
แล้วตอนนี้แมวที่ตจว น้องสาวที่อยู่บ้านนั้นได้บอกว่ามีแมวบ้านอื่นเข้ามากัดแมวถึงที่บ้านเราเลย
เราก็เลยกลุ้มใจค่ะ ที่บ้านตจว มีแล้วอยู่ 2 ตัว เป็นแม่ลูกกันเราทำหมันแล้วทั้ง 2 ตัว
เราอยากพาตัวลูกมาอยู่ที่กรุงเทพด้วยแต่ก็กลัวแม่เขาเหงา อีกใจก็ไม่อยากทิ้งไว้ เพราะกลัวจะโดนแมวที่อื่นมากัดอีก
(ไม่สามารถเอาแมวมาเลี้ยงในบ้านได้นะคะ เพราะคนบ้านนู้นไม่ได้รักแมวเหมือนเรา
แค่ทุกวันนี้เราให้เขาเป็นคนให้อาหารแมว(ที่เราซื้อส่งไปให้)ก็ถือว่าเป็นภาระสำหรับเขาแล้ว)
ตอนนี้มีแมวทั้งหมด 3 บ้าน ประมาณกลางปีจะสร้างบ้านใหม่ แล้วจะเอาแมวจากทั้ง 3 บ้านมาอยู่ด้วยกัน
แล้วเลี้ยงระบบปิดไปเลย เราควรประวิงเวลาไปก่อนโดยที่ให้แมวโตแม่ลูกสองตัวอยู่ที่เดิมไปก่อน
แล้วรับแมวเด็ก(หรือแมวโตจากเน็ต)มาเลี้ยงเลย หรือเราควรจะแยกแม่ลูก แล้วเอาลูกมากทม ให้แม่เขาอยู่ไปก่อนตัวเดียวดีค่ะ
ในเรื่องค่าใช้จ่าย ถ้าเรารับแมวข้อ3 คือแมวโตจากในเน็ตที่ทำหมันและวัคซีนเรียบร้อยมาอยู่ด้วย เราก็จะเซฟค่าใช้จ่ายได้มากสุดค่ะ
เพราะข้อ 1 และ 2 เราจะต้องพาไปทำวัคซีนเอง+กับตรวจเลือดด้วย ตกปีแรกก็ 2500 เข้าไปแล้ว
ถ้าถามว่าเราซีเรียสเรื่องค่าใช้จ่ายไหม ก็ตอบว่าไม่มากคะ เรื่องวัคซีน ก็ค่อยๆทยอยฉีดกันอยู่แล้ว
ขอความเห็นหน่อยค่ะ อยากงอกแมวเพิ่มแต่กลัวไปทรมานเขา
อยากเลี้ยงแมวเพิ่มไว้เป็นเพื่อนขนุน เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาค่ะ
ทุกคนมีกิจกรรมนอกบ้านกันหมดเรากลัวเขาเหงาค่ะ
เรามีตัวเลือก 3 ข้อที่คิดไว้ (เรียงจากตัวเลือกที่อยากทำมากที่สุด) คือ
1.รับแมวโตมาเลี้ยง จะเอาแมวจาก ตจว มาเลี้ยง
2.รับแมวเด็กมาเลี้ยง แมวเด็กจะหาจากในเน็ตนี่แหละค่ะ
3.รับแมวโตจากเน็ตมาเลี้ยง แต่ต้องทำหมันและวัคซีนแล้ว
ปัญหา คือ เราอยู่คอนโดมีพื้นที่จำกัด ถ้าเลี้ยงแมวเด้กก็จะไม่อึดอัดเท่าไหร่
(พอแมวเริ่มโต เราก็ทำบ้านใหม่แล้ว)
แต่ตัวเองอยากรับแมวโต ที่เป็นแมวจากบ้าน ตจว มาเลี้ยงมากกว่า
เพราะปกติเราก็เป็นคนส่งอาหารแมวไปให้ที่บ้านนู้นอยู่แล้ว(จะได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม)
อีกปัญหานึงคือเขาเป็นแมวเลี้ยงแบบนอกบ้านค่ะ
ไม่เคยเข้ามาอยุ่ในบ้านเลย เรากลัวว่าถ้าเราพาเขามาอยู่ในที่แคบๆ(คอนโด)มันจะทำให้เขาอึดอัดหรือปล่าว
เพราะที่นี้ไม่มีที่ให้วิ่งเล่นได้เลย กลัวจะเป็นการไปทรมานเขา
ถ้าเราเลี้ยงแมวเด็ก(หรือแมวโตจากเน็ต) เราต้องมีภาระเลี้ยงแมวเพิ่ม 1 ตัว
แต่ถ้าเอาแมวโตที่ตจวมาเลี้ยงก็จะตัดภาระเรื่องนี้ไป
(เรามี3บ้าน ตอนนี้รวมแล้ว5ตัว ถ้ารับแมวเด็กมาอีกก็จะกลายเป็น 6 ตัว
ในระยะสั้น 5 ตัว กับ 6 ตัวจะไม่ต่างกัน แต่ในระยะยาว ยิ่งตอนแมวอายุมากขึ้นก็คงมีส่วนต่างกันเยอะ)
แล้วตอนนี้แมวที่ตจว น้องสาวที่อยู่บ้านนั้นได้บอกว่ามีแมวบ้านอื่นเข้ามากัดแมวถึงที่บ้านเราเลย
เราก็เลยกลุ้มใจค่ะ ที่บ้านตจว มีแล้วอยู่ 2 ตัว เป็นแม่ลูกกันเราทำหมันแล้วทั้ง 2 ตัว
เราอยากพาตัวลูกมาอยู่ที่กรุงเทพด้วยแต่ก็กลัวแม่เขาเหงา อีกใจก็ไม่อยากทิ้งไว้ เพราะกลัวจะโดนแมวที่อื่นมากัดอีก
(ไม่สามารถเอาแมวมาเลี้ยงในบ้านได้นะคะ เพราะคนบ้านนู้นไม่ได้รักแมวเหมือนเรา
แค่ทุกวันนี้เราให้เขาเป็นคนให้อาหารแมว(ที่เราซื้อส่งไปให้)ก็ถือว่าเป็นภาระสำหรับเขาแล้ว)
ตอนนี้มีแมวทั้งหมด 3 บ้าน ประมาณกลางปีจะสร้างบ้านใหม่ แล้วจะเอาแมวจากทั้ง 3 บ้านมาอยู่ด้วยกัน
แล้วเลี้ยงระบบปิดไปเลย เราควรประวิงเวลาไปก่อนโดยที่ให้แมวโตแม่ลูกสองตัวอยู่ที่เดิมไปก่อน
แล้วรับแมวเด็ก(หรือแมวโตจากเน็ต)มาเลี้ยงเลย หรือเราควรจะแยกแม่ลูก แล้วเอาลูกมากทม ให้แม่เขาอยู่ไปก่อนตัวเดียวดีค่ะ
ในเรื่องค่าใช้จ่าย ถ้าเรารับแมวข้อ3 คือแมวโตจากในเน็ตที่ทำหมันและวัคซีนเรียบร้อยมาอยู่ด้วย เราก็จะเซฟค่าใช้จ่ายได้มากสุดค่ะ
เพราะข้อ 1 และ 2 เราจะต้องพาไปทำวัคซีนเอง+กับตรวจเลือดด้วย ตกปีแรกก็ 2500 เข้าไปแล้ว
ถ้าถามว่าเราซีเรียสเรื่องค่าใช้จ่ายไหม ก็ตอบว่าไม่มากคะ เรื่องวัคซีน ก็ค่อยๆทยอยฉีดกันอยู่แล้ว