......................ผลวิจัยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด-วอชิงตันเผยคนมีกรดไขมันปลาในเลือดสูงมีชีวิตยืนยาวกว่าผู้ที่มีในระดับต่ำ เป็นข่าวดีสำหรับคนชอบบริโภคเนื้อปลา เนื่องจากล่าสุดมีการค้นพบว่าการกินเนื้อปลาสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้
ผลการวิจัยจากคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ค้นพบว่าผู้ใหญ่อายุ 65 ปีขึ้นไปที่มีกรดไขมันปลาอยู่ในเลือดสูงจะสามารถมีชีวิตยืนยาวกว่าคนที่มีอยู่ต่ำได้กว่า 2.2 ปีโดยเฉลี่ย
คณะผู้วิจัยได้ใช้เวลาเก็บข้อมูลกว่า 16 ปี จากผู้ใหญ่ในสหรัฐกว่า 2,700 คน ที่อายุประมาณ 65 ปี โดยผู้เข้าร่วมการทดลองมีสุขภาพร่างกายโดยทั่วไปที่แข็งแรงดี จากการตรวจสอบสภาพร่างกาย วิถีชีวิตประจำวัน และประวัติทางการใช้ยาของแต่ละคนอย่างเข้มงวด
ภายหลังจากปรับปัจจัยทางด้านเชื้อชาติ วิถีชีวิต และการกินอาหารให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันแล้ว ทางคณะวิจัยพบว่ามีกรดไขมันอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน ที่มีความเกี่ยวข้องกับอัตราการเสียชีวิตที่ลดลง
.......................กรดไขมันชนิดแรก คือ กรดดีเอชเอ ซึ่งช่วยลดอัตราความเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางด้านหัวใจมากที่สุด ที่ 40% ในขณะที่กรดอีก 2 ชนิด คือ อีพีเอ และดีพีเอ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการเป็นเส้นเลือดอุดตัน แต่กรดทั้ง 3 ชนิดนี้ ไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือด
โดยรวมแล้วผู้เข้าร่วมการทดลองที่มีกรดไขมันทั้ง 3 ชนิด รวมกันมากที่สุดจะมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคทั่วไปลดลงกว่า 27%
ปกติแล้วร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถผลิตกรดไขมันโอเมกา 3 ได้เอง จึงต้องรับประทานเนื้อปลา เนื่องจากเป็นแหล่งสะสมกรดไขมันดังกล่าวมากที่สุด และประเภทของปลาที่มีกรดไขมันมากที่สุด คือ ปลาทูน่า แซลมอน แมกเคอเรล ซาร์ดีน และแอนโชวี
เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ก็ควรรับประทานปลากันมากๆ ถ้ามีโอกาส เพราะนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตลงแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสมองและดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย
ที่มา
http://www.posttoday.com/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81/214322/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%99
ผลวิจัยชี้กินปลาอายุยืน
ผลการวิจัยจากคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ค้นพบว่าผู้ใหญ่อายุ 65 ปีขึ้นไปที่มีกรดไขมันปลาอยู่ในเลือดสูงจะสามารถมีชีวิตยืนยาวกว่าคนที่มีอยู่ต่ำได้กว่า 2.2 ปีโดยเฉลี่ย
คณะผู้วิจัยได้ใช้เวลาเก็บข้อมูลกว่า 16 ปี จากผู้ใหญ่ในสหรัฐกว่า 2,700 คน ที่อายุประมาณ 65 ปี โดยผู้เข้าร่วมการทดลองมีสุขภาพร่างกายโดยทั่วไปที่แข็งแรงดี จากการตรวจสอบสภาพร่างกาย วิถีชีวิตประจำวัน และประวัติทางการใช้ยาของแต่ละคนอย่างเข้มงวด
ภายหลังจากปรับปัจจัยทางด้านเชื้อชาติ วิถีชีวิต และการกินอาหารให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันแล้ว ทางคณะวิจัยพบว่ามีกรดไขมันอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน ที่มีความเกี่ยวข้องกับอัตราการเสียชีวิตที่ลดลง
.......................กรดไขมันชนิดแรก คือ กรดดีเอชเอ ซึ่งช่วยลดอัตราความเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางด้านหัวใจมากที่สุด ที่ 40% ในขณะที่กรดอีก 2 ชนิด คือ อีพีเอ และดีพีเอ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการเป็นเส้นเลือดอุดตัน แต่กรดทั้ง 3 ชนิดนี้ ไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือด
โดยรวมแล้วผู้เข้าร่วมการทดลองที่มีกรดไขมันทั้ง 3 ชนิด รวมกันมากที่สุดจะมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคทั่วไปลดลงกว่า 27%
ปกติแล้วร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถผลิตกรดไขมันโอเมกา 3 ได้เอง จึงต้องรับประทานเนื้อปลา เนื่องจากเป็นแหล่งสะสมกรดไขมันดังกล่าวมากที่สุด และประเภทของปลาที่มีกรดไขมันมากที่สุด คือ ปลาทูน่า แซลมอน แมกเคอเรล ซาร์ดีน และแอนโชวี
เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ก็ควรรับประทานปลากันมากๆ ถ้ามีโอกาส เพราะนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตลงแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสมองและดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย
ที่มา http://www.posttoday.com/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81/214322/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%99