ผมมองเห็นแค่ว่ามันมี "ความเป็นไปได้"
แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครรู้หรอก ว่ามันจะไปไหน
บางคนมั่นใจมากๆ บอกว่า สงครามมา แถมทองก็มาลงช่วงนี้ ผสมโรงเข้าไปด้วย 2 ตัวนี้มันเป็นตัวแปร ที่ทำให้อาจเกิดการร่วง เนื่องจากคนนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น
ฟังดูแล้ว เออ มีเหตมีผล
แต่ตั้งแต่ที่มันขึ้นมันจาก 800 จุด จนถึง 1600 เนี่ย ผมมองว่ามันก็ไม่ได้มีเหตผลเท่าไร มันก็ยังมาได้
สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ว่า หุ้นถ้ามันจะขึ้น มันก็ขึ้นไปเอง มันจะลง มันก็ลงของมันเอง
ไม่เห็นจะมีใครอ่านได้แม่นสักคน ตั่งแต่ 800 จุดละ หุ้นขึ้นมาเฉย
ผมสังเกตมานานละ คือ สุดท้ายสิ่งที่แม่นที่สุดและชัวร์ที่สุด ก็คือ ตัวของหุ้นเอง ไม่ใช่คนที่วิเคราะห์หุ้นหรอก
history repeat itself เหมือนทฤษฏีที่ฟังดูแล้วแม่น แต่สมมติว่า วงการหุ้นในโลกเกิดมา 200 ปี (สมมตินะ) และสมมิตว่าโลกเรายังมีเวลาเหลืออีก 2000 ปี ดังนั้นมันก็เหมือนวงการหุ้นเริ่มมา 1/10 ของทั้งหมดเองดิ แล้วปีที่เหลืออีก 1800ปีข้างหน้า ล่ะ?.....มันจะ repeat itself มั้ย ความเป็นไปได้อ่ะครับ ไม่มีใครรู้หรอก
หรือ อาจจะร่วงเกินเส้นที่ท่านตีก็ได้ หลายท่านบอกเส้นศักดิสิทธ์ คือ 1420 อะไรเนี่ยแหละ ที่อ่านๆมา
ถ้าเกิดมันร่วงไปกว่านั้นล่ะ แล้วปรากฏว่าสงครามก็ไม่เกิด อะไรไม่เกิด แต่มันดันร่วงยาวเลย ยังงี้จะตีความไง
ผมก็มองว่า ถ้ายังงั้นมันก็คงร่วงแบบไม่มีเหตผลแบบที่ มันวิ่งมาถึง 1600 นี่แหละ เหตผลที่ชัวร์ 100% ว่าทำไมหุ้นขึ้นหรือลง มันไม่แน่ชัดว่ามาจากปัจจัยอะไรกันแน่
สรุป คือ หุ้นขึ้นลง ปัจจัยบ่งชัดที่แน่นอนนั้น ไม่มีหรอก ดังนั้น จงเชื่อปัจจุบัน การอ่านกราฟย้อนหลัง 1 ปี 5 ปี 10ปี มันเป็นเพียงของสนุกๆ ดูเล่นๆพอแล้ว
แต่อย่าเข้าใจผิดนะ ถ้าเป็นการอ่านกราฟแบบเล่นหุ้น short long รายวัน พวกนี้กราฟค่อนข้างสำคัญ อันนี้ผมเห็นด้วย
แต่ผมหมายถึง การทำนาย ตลาด SET แบบภาพใหญ่ ว่ามันไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ดูปัจจุบันพอ อย่างที่บอก ผมเชื่ออยู่สำนวนหุ้นสำนวนนึง ..."ไม่มีอะไรแม่นไปกว่าการขึ้นลงของหุ้นนั่นเอง" ประมาณนี้มั้ง แต่ผมจำไม่ได้ว่า จริงๆแล้วเขาพูดว่ายังไง แต่ใจความคือทำนองว่า ตัวหุ้นเองนั่นแหละที่บอกว่ามันจะขึ้นหรือลง ส่วนการคาดเดา อ่านกราฟ technical อะไรต่างๆนาๆเนี่ย ไม่ได้มีผลต่อการขึ้นลงของหุ้นเลย
ถามตรงๆไม่ได้กวนทีนนะ ไอ้ที่วิเคราะห์ว่ามันจะลงจะขึ้น กราฟเกิ๊ฟ มากันเพียบเนี่ย รู้อนาคตเหรอ?
แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครรู้หรอก ว่ามันจะไปไหน
บางคนมั่นใจมากๆ บอกว่า สงครามมา แถมทองก็มาลงช่วงนี้ ผสมโรงเข้าไปด้วย 2 ตัวนี้มันเป็นตัวแปร ที่ทำให้อาจเกิดการร่วง เนื่องจากคนนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น
ฟังดูแล้ว เออ มีเหตมีผล
แต่ตั้งแต่ที่มันขึ้นมันจาก 800 จุด จนถึง 1600 เนี่ย ผมมองว่ามันก็ไม่ได้มีเหตผลเท่าไร มันก็ยังมาได้
สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ว่า หุ้นถ้ามันจะขึ้น มันก็ขึ้นไปเอง มันจะลง มันก็ลงของมันเอง
ไม่เห็นจะมีใครอ่านได้แม่นสักคน ตั่งแต่ 800 จุดละ หุ้นขึ้นมาเฉย
ผมสังเกตมานานละ คือ สุดท้ายสิ่งที่แม่นที่สุดและชัวร์ที่สุด ก็คือ ตัวของหุ้นเอง ไม่ใช่คนที่วิเคราะห์หุ้นหรอก
history repeat itself เหมือนทฤษฏีที่ฟังดูแล้วแม่น แต่สมมติว่า วงการหุ้นในโลกเกิดมา 200 ปี (สมมตินะ) และสมมิตว่าโลกเรายังมีเวลาเหลืออีก 2000 ปี ดังนั้นมันก็เหมือนวงการหุ้นเริ่มมา 1/10 ของทั้งหมดเองดิ แล้วปีที่เหลืออีก 1800ปีข้างหน้า ล่ะ?.....มันจะ repeat itself มั้ย ความเป็นไปได้อ่ะครับ ไม่มีใครรู้หรอก
หรือ อาจจะร่วงเกินเส้นที่ท่านตีก็ได้ หลายท่านบอกเส้นศักดิสิทธ์ คือ 1420 อะไรเนี่ยแหละ ที่อ่านๆมา
ถ้าเกิดมันร่วงไปกว่านั้นล่ะ แล้วปรากฏว่าสงครามก็ไม่เกิด อะไรไม่เกิด แต่มันดันร่วงยาวเลย ยังงี้จะตีความไง
ผมก็มองว่า ถ้ายังงั้นมันก็คงร่วงแบบไม่มีเหตผลแบบที่ มันวิ่งมาถึง 1600 นี่แหละ เหตผลที่ชัวร์ 100% ว่าทำไมหุ้นขึ้นหรือลง มันไม่แน่ชัดว่ามาจากปัจจัยอะไรกันแน่
สรุป คือ หุ้นขึ้นลง ปัจจัยบ่งชัดที่แน่นอนนั้น ไม่มีหรอก ดังนั้น จงเชื่อปัจจุบัน การอ่านกราฟย้อนหลัง 1 ปี 5 ปี 10ปี มันเป็นเพียงของสนุกๆ ดูเล่นๆพอแล้ว
แต่อย่าเข้าใจผิดนะ ถ้าเป็นการอ่านกราฟแบบเล่นหุ้น short long รายวัน พวกนี้กราฟค่อนข้างสำคัญ อันนี้ผมเห็นด้วย
แต่ผมหมายถึง การทำนาย ตลาด SET แบบภาพใหญ่ ว่ามันไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ดูปัจจุบันพอ อย่างที่บอก ผมเชื่ออยู่สำนวนหุ้นสำนวนนึง ..."ไม่มีอะไรแม่นไปกว่าการขึ้นลงของหุ้นนั่นเอง" ประมาณนี้มั้ง แต่ผมจำไม่ได้ว่า จริงๆแล้วเขาพูดว่ายังไง แต่ใจความคือทำนองว่า ตัวหุ้นเองนั่นแหละที่บอกว่ามันจะขึ้นหรือลง ส่วนการคาดเดา อ่านกราฟ technical อะไรต่างๆนาๆเนี่ย ไม่ได้มีผลต่อการขึ้นลงของหุ้นเลย