สวัสดีครับเพื่อนๆนักเขียน นักอ่าน ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนนะครับ เนื้อหาทั้งหมดที่ผมเขียนนั้น เป็นความรู้สึกและคามคิดเห็นส่วนตัว จากประสบการณ์ที่ได้อ่านและเขียนเรื่องสั้น นิยายลงในนิตยสารต่างๆมาสิบกว่าปี ดังนั้นท่านใดที่ไม่เห็นด้วยหรือคิดต่างไปก็สามารถเสริมหรือแย้งได้ครับ ^_^
วันนี้จะมาพูดถึงเรื่อง"สิ่งสำคัญ"ในการเขียนนิยาย หรือเรื่องสั้น ที่บางท่านมองข้าม
จากที่ผ่านมา หลังจากได้อ่านงานเขียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้นหรือนิยายมาจำนวนเยอะมากๆ พอจะจับเคล็ดลับหรือประเด็นอะไรบางอย่างได้ครับ
จริงๆแล้วจะเรียกว่า ข้อสังเกต น่าจะถูกต้องกว่า ข้อสังเกตที่ว่านี้เป็นข้อสังเกตต่อคำถามที่ว่า เรื่องที่อ่านสนุกนั้นจุดเด่นจะอยู่ที่ไหน ระหว่างองค์ประกอบต่างๆของเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ธีม โครงเรื่อง แนวคิด จังหวะ ภาษา การดำเนินเรื่อง หรือแท้กระทั่งอารมณ์ที่ผู้อ่านได้รับ
ในที่นี้ผมจะคุยถึงเรื่อง
เรื่องสั้น ครับ (ยกเอานิยายออกไปก่อน)
ผมอ่านเรื่องสั้นมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะแนวไซไฟ ซึ่งจะชื่นชอบเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่อ่านก็จะแอบลุ้น รอว่าผู้เขียนจะเอาconcept หรือ gadget อะไรมาใช้ในเรื่อ
สั้นที่ตนเขียน
ที่ผ่านมา ผมมักจะพบข้อเท็จจริงอย่างหนึ่ง (จริงๆแล้วไม่จำเป็นว่าจะแต่ในเรื่องสั้นไซไฟเท่านั้น แต่จะพบในแนวอื่นด้วย) นั่นคือเรื่องจะสนุกไม่สนุกมักจะขึ้นกับ
"จังหวะในการเล่าเรื่องของนักเขียน" จังหวะดังกล่าว จะเป็นช่วงการเปลี่ยนฉาก เปลี่ยนเหตุการณ์ ฉากแอกชั่นที่ถูกใส่เข้ามาได้อย่างถูกที่ถูกเวลา บทสนทนาของตัวละคร ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความสนุกของเรื่อง
ผมกำลังบอกว่า จริงๆแล้วบางทีเรามัวมานั่งประดิษฐ์ประดอยกับภาษาที่ใช้ว่าต้องสวย หรู หรือไม่ก็ plot เรื่องที่ซับซ้อน จนคนอ่านๆแล้วงง เพราะนักเขียนจับโน่นผสมนี่ ซ่อนนั่น เผยนี่ จนไม่มีความเป็นเอกภาพของเรื่อง เรามาลองให้ความสนใจกับ"วิธีการเรื่อง"ไม่ดีกว่าเหรอ เล่าเรื่องยังไงให้สนุก นั่นคือสิ่งที่เราต้องถามตัวเอง
เล่าเรื่องยังไงให้สนุก?
คำนี้บางทีก็ไม่มีคำตอบที่แน่ชัด เพราะนักอ่านแต่ละคนก็มีความชอบและมาตรฐานที่เป็นส่วนตัว บางคนอาจจะอ่านแล้วสนุกแต่บางคนอาจจะอ่านแล้วเฉยๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับอารมณ์ (ของผู้อ่าน ณ ตอนนั้น) และประสบการณ์ในการอ่านเรื่องแต่งของนักอ่าน แต่ข้อเท็จจริงข้อหนึ่งที่ผมค้นพบเกี่ยวกับการเล่าเรื่องให้สนุกนั้นคือ
1. ภาษากระชับ ไม่รุ่มร่าม ไม่จำเป็นต้องประดิษฐ์ประดอย
2. ใช้คำหรือประโยชน์สั้นๆแต่ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดเจน
3. อ่านแล้วได้อารมณ์ เช่นถึงตอนที่ต้องใช้คำแรงๆ ก็ใช้ไปเลยตามอารมณ์ของตัวละคร
4. ถ้าเป็นเรื่องสั้น ต้องดำเนินเรื่องเร็ว มีประเด็นเดียว ทุกประโยค ทุกคำที่เขียนต้องมีผลต่อเรื่อง ทำให้เรื่องเดินหน้า ไปสู่จุดclimax
5. ตอนจบของเรื่อง จะหักมุมหรือทำให้คนอ่านรู้สึกสะเทือนใจก็ใส่ไปได้เลย คำถามที่ถูกปูเอาไว้ในตอนแรก ต้องคลี่คลาย ไม่ทิ้งปมไว้แต่ปล่อยให้คาใจผู้อ่าน(ข้อนี้จริงๆแล้ว ไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะนักเขียนบางท่านก็ทิ้งคำถามให้ผู้อ่านคิดต่อ)
6. เขียนให้สนุก....จะทำยังไง... ก็ต้องอ่านงานเขียนของนักเขียนชื่อดังเยอะๆ อยากเขียนแนวไหนก็อ่านแนวนั้นเยอะๆครับ
7. ลงมือเขียน ในขณะที่เขียน เราต้องรู้สึกสนุกไปกับเรื่อง ถ้าเขียนแล้วเราไม่รู้สึกสนุก โอกาสที่คนอื่นอ่านแล้วไม่สนุกก็มีมากครับ
ผมเคยอ่านเรื่องสั้นบางเรื่อง โครงเรื่องหรือ plot ไม่มีอะไรเลย แต่นักเขียนเขียนได้ดีมาก จังหวะดี และอ่านสนุก ที่สำคัญภาษาที่ใช้ก็ง่ายๆ เคี้ยวสะดวกฟันกลืนลงคอปรู้ดๆ อร่อยเหาะไปเลยครับ
คราวหน้าจะมาพูดเรื่องการเขียนบรรยาย เล่าเรื่องที่มือใหม่มักจะพลาดโดยไม่รู้ตัว นั่นคือเรื่อง
"ลำดับการเล่า พรรณาหรือบรรยาย"
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านนะครับ ท่านใดคิดเห็นหรือจะแนะนำอะไรเพิ่มเติมสามารถทำได้ครับ
การเล่าเรื่องในงานเขียน เรื่องสั้น นิยาย
วันนี้จะมาพูดถึงเรื่อง"สิ่งสำคัญ"ในการเขียนนิยาย หรือเรื่องสั้น ที่บางท่านมองข้าม
จากที่ผ่านมา หลังจากได้อ่านงานเขียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้นหรือนิยายมาจำนวนเยอะมากๆ พอจะจับเคล็ดลับหรือประเด็นอะไรบางอย่างได้ครับ
จริงๆแล้วจะเรียกว่า ข้อสังเกต น่าจะถูกต้องกว่า ข้อสังเกตที่ว่านี้เป็นข้อสังเกตต่อคำถามที่ว่า เรื่องที่อ่านสนุกนั้นจุดเด่นจะอยู่ที่ไหน ระหว่างองค์ประกอบต่างๆของเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ธีม โครงเรื่อง แนวคิด จังหวะ ภาษา การดำเนินเรื่อง หรือแท้กระทั่งอารมณ์ที่ผู้อ่านได้รับ
ในที่นี้ผมจะคุยถึงเรื่อง เรื่องสั้น ครับ (ยกเอานิยายออกไปก่อน)
ผมอ่านเรื่องสั้นมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะแนวไซไฟ ซึ่งจะชื่นชอบเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่อ่านก็จะแอบลุ้น รอว่าผู้เขียนจะเอาconcept หรือ gadget อะไรมาใช้ในเรื่อ
สั้นที่ตนเขียน
ที่ผ่านมา ผมมักจะพบข้อเท็จจริงอย่างหนึ่ง (จริงๆแล้วไม่จำเป็นว่าจะแต่ในเรื่องสั้นไซไฟเท่านั้น แต่จะพบในแนวอื่นด้วย) นั่นคือเรื่องจะสนุกไม่สนุกมักจะขึ้นกับ "จังหวะในการเล่าเรื่องของนักเขียน" จังหวะดังกล่าว จะเป็นช่วงการเปลี่ยนฉาก เปลี่ยนเหตุการณ์ ฉากแอกชั่นที่ถูกใส่เข้ามาได้อย่างถูกที่ถูกเวลา บทสนทนาของตัวละคร ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความสนุกของเรื่อง
ผมกำลังบอกว่า จริงๆแล้วบางทีเรามัวมานั่งประดิษฐ์ประดอยกับภาษาที่ใช้ว่าต้องสวย หรู หรือไม่ก็ plot เรื่องที่ซับซ้อน จนคนอ่านๆแล้วงง เพราะนักเขียนจับโน่นผสมนี่ ซ่อนนั่น เผยนี่ จนไม่มีความเป็นเอกภาพของเรื่อง เรามาลองให้ความสนใจกับ"วิธีการเรื่อง"ไม่ดีกว่าเหรอ เล่าเรื่องยังไงให้สนุก นั่นคือสิ่งที่เราต้องถามตัวเอง
เล่าเรื่องยังไงให้สนุก?
คำนี้บางทีก็ไม่มีคำตอบที่แน่ชัด เพราะนักอ่านแต่ละคนก็มีความชอบและมาตรฐานที่เป็นส่วนตัว บางคนอาจจะอ่านแล้วสนุกแต่บางคนอาจจะอ่านแล้วเฉยๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับอารมณ์ (ของผู้อ่าน ณ ตอนนั้น) และประสบการณ์ในการอ่านเรื่องแต่งของนักอ่าน แต่ข้อเท็จจริงข้อหนึ่งที่ผมค้นพบเกี่ยวกับการเล่าเรื่องให้สนุกนั้นคือ
1. ภาษากระชับ ไม่รุ่มร่าม ไม่จำเป็นต้องประดิษฐ์ประดอย
2. ใช้คำหรือประโยชน์สั้นๆแต่ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดเจน
3. อ่านแล้วได้อารมณ์ เช่นถึงตอนที่ต้องใช้คำแรงๆ ก็ใช้ไปเลยตามอารมณ์ของตัวละคร
4. ถ้าเป็นเรื่องสั้น ต้องดำเนินเรื่องเร็ว มีประเด็นเดียว ทุกประโยค ทุกคำที่เขียนต้องมีผลต่อเรื่อง ทำให้เรื่องเดินหน้า ไปสู่จุดclimax
5. ตอนจบของเรื่อง จะหักมุมหรือทำให้คนอ่านรู้สึกสะเทือนใจก็ใส่ไปได้เลย คำถามที่ถูกปูเอาไว้ในตอนแรก ต้องคลี่คลาย ไม่ทิ้งปมไว้แต่ปล่อยให้คาใจผู้อ่าน(ข้อนี้จริงๆแล้ว ไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะนักเขียนบางท่านก็ทิ้งคำถามให้ผู้อ่านคิดต่อ)
6. เขียนให้สนุก....จะทำยังไง... ก็ต้องอ่านงานเขียนของนักเขียนชื่อดังเยอะๆ อยากเขียนแนวไหนก็อ่านแนวนั้นเยอะๆครับ
7. ลงมือเขียน ในขณะที่เขียน เราต้องรู้สึกสนุกไปกับเรื่อง ถ้าเขียนแล้วเราไม่รู้สึกสนุก โอกาสที่คนอื่นอ่านแล้วไม่สนุกก็มีมากครับ
ผมเคยอ่านเรื่องสั้นบางเรื่อง โครงเรื่องหรือ plot ไม่มีอะไรเลย แต่นักเขียนเขียนได้ดีมาก จังหวะดี และอ่านสนุก ที่สำคัญภาษาที่ใช้ก็ง่ายๆ เคี้ยวสะดวกฟันกลืนลงคอปรู้ดๆ อร่อยเหาะไปเลยครับ
คราวหน้าจะมาพูดเรื่องการเขียนบรรยาย เล่าเรื่องที่มือใหม่มักจะพลาดโดยไม่รู้ตัว นั่นคือเรื่อง "ลำดับการเล่า พรรณาหรือบรรยาย"
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านนะครับ ท่านใดคิดเห็นหรือจะแนะนำอะไรเพิ่มเติมสามารถทำได้ครับ