ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคะว่า เป็นเรื่องที่เราอดทนมาตลอด
แต่งงานกันมา 2 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 1.6 ขวบ แต่อยู่กับยายเพราะยายไม่ชอบสามีเรา
ประเด็นคือ 1 ปีกว่าๆที่ผ่านมา สามีเปิดร้านขายของชำ ต้องดื่มเบียร์ทุกวัน บางวันมากจนตาลอย นั่งหลับหน้าบ้าน บางวันก็พอคุยรู้เรื่อง แต่ว่าเรื่องที่เป็นการเป็นงานไม่ต้องพูดถึงคุยไปก็หาสาระประโยชน์ไม่ได้ ยิ่งตอนนี้มีลูกค้า(ตอนนี้อาจเลื่อนฐานะเป็นเพื่อนสามีแล้วมั๊ง) มาซื้อเหล้าเบียร์ที่บ้านนั่งกินกันหน้าบ้าน สามีเราก็นั่งกินด้วย ตื่นสายเปิดร้าน 10 โมง บางวัน เกือบเที่ยง 4โมง หรือ 5 โมง ต้องเปิดแระ ไม่ขวดก็กระป๋อง กินต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนถึง 5 ทุ่ม เที่ยงคืน เป็นอย่างนี้มาตลอด 1 ปีที่อยู่ด้วยกัน นับวันไม่กินยังง่ายกว่า (ถ้าไม่ถอนฟัน หรือป่วยจริงๆเค้าก็จะไม่กิน ไม่ถึง 10 วันต่อปีได้ที่ไม่กินเบียร์)
ช่วงแรกๆ เราบอกเพราะเราห่วงสุขภาพ เค้าก็ไม่ฟัง แถมยังมาย้อนเราอีกว่าไปห้ามพ่อเรากับลุงให้ได้ก่อน (พ่อกับลุงชั้นไม่ได้กินทุกวันเหมือนคุณนี่ และพ่อกับลุงก็ดูแลครอบครัวดี หาเงินจุนเจือลูกและเมีย) เราทำงานประจำเลิกงานกลับมาบ้านต้องเจอสภาพขี้เมาหน้าบ้านทุกวัน พอคุยกับเค้าเค้าบอกว่าลูกค้ามานั่งกินจะโมโหลูกค้าได้ไง โอเคเราก็ปรับทัศนคติใหม่ ลูกค้าอยากมานั่งกินไม่ผิด แต่คนของเราที่เป็นเจ้าของร้านกลับไปนั่งกินด้วยจนเมา ทอนเงินผิดๆถูกๆบ้างหรือเปล่าไม่รู้ กินจนดึก ส่งผลให้ตื่นสาย เค้าทำเหมือนการใช้ชีวิตเป็นของเล่นๆ ไหนจะสุขภาพ ไหนจะเงิน ไหนจะความสัมพันธ์กับเราในฐานะเมีย
ทุกวันเราต้องนั่งรอกินข้าว (ขยันก็ทำเอง ไม่ขยันก็ไม่ทำ) รอเค้ากินเบียร์ให้หมด ค่อยกินข้าว หลายครั้งปาไปเกือบ 5 ทุ่มเที่ยงคืน เราถึงจะได้กินข้าวเย็น กว่าจะเก็บ กว่าจะได้นอน ตี 1 เกือบทุกวัน เช้า 7 โมงเราต้องตื่นทำงาน เราเหนื่อยมากๆ ร่างกายก็โทรมขึ้นทุกวัน
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เป็นการเป็นงานไม่เคยคุยกันดี พอ3 ทุ่มกว่าจะคุย เค้าคุยไม่รู้เรื่อง และเราอยากจะคุยเรื่องอนาคตกับสามีที่เมาอยู่เหรอ แรกๆเราจ้ำจี้จ้ำไช บ่นสารพัดตอนเค้ากิน เค้ามีโมโห เขวี้ยงขวดเบียร์ เก้าอี้ใส่เราต่อหน้าลูกค้า อาละวาดเหมือนคนบ้าน เพื่อนบ้านต้องออกมาดู หลังๆเราเลยไม่บ่น อาศัย หลักว่าปล่อยมัน อยากทำอะไรทำไป แต่เราก็อดห่วงอดเครียดไม่ได้ แต่ต้องพยายามท่องไว้ว่าปล่อยมัน รักตัวเองเข้าไว้ เราต้องมีลูกที่ต้องดูแล
ข้อดีเค้ามี แต่ข้อเสียตรงนี้มันทำให้เราใช้ชีวิตครอบครัวไม่ได้ เมื่อวานทะเลาะกันอีกครั้ง เรากลับถึงบ้านตอน 5 โมง วงเหล้าวงเดิมหน้าบ้าน และมีสามีเราอยู่ด้วย เมาแล้วตาลอย เราหมดหวังเลย อยากคุยเรื่องอะไรต่างๆมากมาย ก็ต้องเก็บเข้าลิ้นชักในสมองไปอีก ทำกับข้าวให้เค้า แล้วตั้งใจจะออกไปเดินเล่น ไม่อยากเห็นพวกขี้เมาหน้าบ้าน ยิ่งมาเห็นตู้ขายของก้ไม่ได้จัด จดขายของก็เลอะเทอะ ลูกค้าอีกคนบอกว่ากินตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว(นี่เมิงตืน 11 โมง บ่ายโมงเมิงแดรกเหล้าแระ) สามีบอกว่าลูกค้าเลี้ยง ไม่ได้เสียตังค์ และอีกหลายๆเรื่องที่เค้ารับปากว่าจะทำ แต่ก็เฉื่อยแฉะไม่ทำ เราก็พูดๆออกไป เค้าโมโห กำเหรียญปาทั่วร้าน เราเลยโมโห เอากุญแจรถมอไซต์ออกมาจากบ้าน ร้องไห้มาตอลดทาง ไม่อยากเข้าไปบ้านป้า กลัวป้าจะตกใจ เลยไปนั่งเล่นสวนสาธารณะ แล้วตัดสินใจส่ง SMS ไปบอกเค้าว่าถ้าเป็นแบบนี้ เราเลิกกันเถอะ แล้วเราก็ปิดเครื่อง หาโรงแรมแถวนั้นนอนเพื่อเก็บแรงมาทำงานวันนี้ เสื้อผ้ายังชุดเดิม มีแค่กระเป๋าสะพายใบเดียว ใกล้เลิกงานแล้ว ไม่อยากกลับบ้าน ไม่รู้เค้าจะเอายังไง ไม่อยากโทรไป เครียด คิดถึงแต่พ่อกับแม่
สามีดื่มเบียร์ทุกวันแบบนี้ คุณเห็นว่ามากไปไหม
แต่งงานกันมา 2 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 1.6 ขวบ แต่อยู่กับยายเพราะยายไม่ชอบสามีเรา
ประเด็นคือ 1 ปีกว่าๆที่ผ่านมา สามีเปิดร้านขายของชำ ต้องดื่มเบียร์ทุกวัน บางวันมากจนตาลอย นั่งหลับหน้าบ้าน บางวันก็พอคุยรู้เรื่อง แต่ว่าเรื่องที่เป็นการเป็นงานไม่ต้องพูดถึงคุยไปก็หาสาระประโยชน์ไม่ได้ ยิ่งตอนนี้มีลูกค้า(ตอนนี้อาจเลื่อนฐานะเป็นเพื่อนสามีแล้วมั๊ง) มาซื้อเหล้าเบียร์ที่บ้านนั่งกินกันหน้าบ้าน สามีเราก็นั่งกินด้วย ตื่นสายเปิดร้าน 10 โมง บางวัน เกือบเที่ยง 4โมง หรือ 5 โมง ต้องเปิดแระ ไม่ขวดก็กระป๋อง กินต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนถึง 5 ทุ่ม เที่ยงคืน เป็นอย่างนี้มาตลอด 1 ปีที่อยู่ด้วยกัน นับวันไม่กินยังง่ายกว่า (ถ้าไม่ถอนฟัน หรือป่วยจริงๆเค้าก็จะไม่กิน ไม่ถึง 10 วันต่อปีได้ที่ไม่กินเบียร์)
ช่วงแรกๆ เราบอกเพราะเราห่วงสุขภาพ เค้าก็ไม่ฟัง แถมยังมาย้อนเราอีกว่าไปห้ามพ่อเรากับลุงให้ได้ก่อน (พ่อกับลุงชั้นไม่ได้กินทุกวันเหมือนคุณนี่ และพ่อกับลุงก็ดูแลครอบครัวดี หาเงินจุนเจือลูกและเมีย) เราทำงานประจำเลิกงานกลับมาบ้านต้องเจอสภาพขี้เมาหน้าบ้านทุกวัน พอคุยกับเค้าเค้าบอกว่าลูกค้ามานั่งกินจะโมโหลูกค้าได้ไง โอเคเราก็ปรับทัศนคติใหม่ ลูกค้าอยากมานั่งกินไม่ผิด แต่คนของเราที่เป็นเจ้าของร้านกลับไปนั่งกินด้วยจนเมา ทอนเงินผิดๆถูกๆบ้างหรือเปล่าไม่รู้ กินจนดึก ส่งผลให้ตื่นสาย เค้าทำเหมือนการใช้ชีวิตเป็นของเล่นๆ ไหนจะสุขภาพ ไหนจะเงิน ไหนจะความสัมพันธ์กับเราในฐานะเมีย
ทุกวันเราต้องนั่งรอกินข้าว (ขยันก็ทำเอง ไม่ขยันก็ไม่ทำ) รอเค้ากินเบียร์ให้หมด ค่อยกินข้าว หลายครั้งปาไปเกือบ 5 ทุ่มเที่ยงคืน เราถึงจะได้กินข้าวเย็น กว่าจะเก็บ กว่าจะได้นอน ตี 1 เกือบทุกวัน เช้า 7 โมงเราต้องตื่นทำงาน เราเหนื่อยมากๆ ร่างกายก็โทรมขึ้นทุกวัน
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เป็นการเป็นงานไม่เคยคุยกันดี พอ3 ทุ่มกว่าจะคุย เค้าคุยไม่รู้เรื่อง และเราอยากจะคุยเรื่องอนาคตกับสามีที่เมาอยู่เหรอ แรกๆเราจ้ำจี้จ้ำไช บ่นสารพัดตอนเค้ากิน เค้ามีโมโห เขวี้ยงขวดเบียร์ เก้าอี้ใส่เราต่อหน้าลูกค้า อาละวาดเหมือนคนบ้าน เพื่อนบ้านต้องออกมาดู หลังๆเราเลยไม่บ่น อาศัย หลักว่าปล่อยมัน อยากทำอะไรทำไป แต่เราก็อดห่วงอดเครียดไม่ได้ แต่ต้องพยายามท่องไว้ว่าปล่อยมัน รักตัวเองเข้าไว้ เราต้องมีลูกที่ต้องดูแล
ข้อดีเค้ามี แต่ข้อเสียตรงนี้มันทำให้เราใช้ชีวิตครอบครัวไม่ได้ เมื่อวานทะเลาะกันอีกครั้ง เรากลับถึงบ้านตอน 5 โมง วงเหล้าวงเดิมหน้าบ้าน และมีสามีเราอยู่ด้วย เมาแล้วตาลอย เราหมดหวังเลย อยากคุยเรื่องอะไรต่างๆมากมาย ก็ต้องเก็บเข้าลิ้นชักในสมองไปอีก ทำกับข้าวให้เค้า แล้วตั้งใจจะออกไปเดินเล่น ไม่อยากเห็นพวกขี้เมาหน้าบ้าน ยิ่งมาเห็นตู้ขายของก้ไม่ได้จัด จดขายของก็เลอะเทอะ ลูกค้าอีกคนบอกว่ากินตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว(นี่เมิงตืน 11 โมง บ่ายโมงเมิงแดรกเหล้าแระ) สามีบอกว่าลูกค้าเลี้ยง ไม่ได้เสียตังค์ และอีกหลายๆเรื่องที่เค้ารับปากว่าจะทำ แต่ก็เฉื่อยแฉะไม่ทำ เราก็พูดๆออกไป เค้าโมโห กำเหรียญปาทั่วร้าน เราเลยโมโห เอากุญแจรถมอไซต์ออกมาจากบ้าน ร้องไห้มาตอลดทาง ไม่อยากเข้าไปบ้านป้า กลัวป้าจะตกใจ เลยไปนั่งเล่นสวนสาธารณะ แล้วตัดสินใจส่ง SMS ไปบอกเค้าว่าถ้าเป็นแบบนี้ เราเลิกกันเถอะ แล้วเราก็ปิดเครื่อง หาโรงแรมแถวนั้นนอนเพื่อเก็บแรงมาทำงานวันนี้ เสื้อผ้ายังชุดเดิม มีแค่กระเป๋าสะพายใบเดียว ใกล้เลิกงานแล้ว ไม่อยากกลับบ้าน ไม่รู้เค้าจะเอายังไง ไม่อยากโทรไป เครียด คิดถึงแต่พ่อกับแม่