G.I. Joe: Retaliation (2013)
ถ้าไม่ตั้งความหวัง เราก็จะไม่ผิดหวัง
น่าเสียดายที่เราตั้งความหวังกับการกำกับของ Jon M Chu ไว้ค่อนข้างมาก เพราะเราเป็นแฟนหนังของเขาเลย ตั้งแต่ Step Up, Step up 3d หรือ แม้แต่ Never Say Never หนังคอนเสิร์ตของ Justine Bieber ก็ตาม เราก็ยังชอบกิมมิคเล็กๆ แปลกๆแบบที่หนังวัยรุ่นหลายเรื่องไม่มี และ การที่ ชู ปลุกปั้นเด็กๆหลายคน รวบรวมนักเต้นมีชื่อมาสร้างหนังเต้นของพวกเด็กพลังพิเศษ ที่ไม่มีช่องใหญ่ให้นำเสนอ เขาก็ยังหาทางเอาไปลงใน HULU ช่องทีวียอดนิยมทางอินเตอร์เนตจนได้
บอกตรงๆก็คือ ชอบความมุ่งมั่นของเขาในตัวเด็กๆ ชอบความเป็นวัยรุ่นที่เขามีนั่นแหละ
แต่ G.I. Joe ภาคต่อจากฝีมือของ ชู กลับทำผิดหวังมากตรงที่ สามารถทำให้เราพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า พลอต แบนราบ แบนสนิท จริงๆ กระทั่งซีนแอคชั่น ยังขาดศิลปะในการนำเสนออย่างสิ้นเชิง
ตัวละครที่มีเยอะ(มาก) ไม่ใช่ปัญหาของหนัง แต่ปัญหาคือ การเล่าเรื่องที่ไร้ซึ่งความลึก กิมมิคบทสนทนาบยียวนตามประสาวัยรุ่นที่เคยเป็นสเน่ห์ในงานของชู กลายเป็นเรื่องที่ผิดจังหวะอย่างรุนแรงในหนังแอคชั่นเรื่องแรกของเขา เพราะมันโดด และ ดูทะ
ๆ เราพบว่า รอบที่เราดู มีเราขำอยู่ึคนเดียว นั่นอาจวัดอะไรไม่ได้มาก แต่เราก็ทึกทักเอาเองว่า มันเป็นมุกที่ไม่เหมาะกับหนังแอคชั่น ของผู้ใหญ่เลย
(แม้หนังจะสร้างจากของเล่นเด็กก็ตาม)
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแย่อีกอย่างคือ การทำให้หน่วย G.I. Joe ในภาคนี้ออกมา เหมือนหน่วย Navy Seal หรือ Delta Force จนเกินไป คือ คล้ายคลึงกับหน่วยทหารที่มีอยู่แล้วในหนังเรื่องอื่นจนเกินไป ทำให้ G.I. Joe ไม่มีความพิเศษ หรือเก่งกาจกว่าทหารพวกนั้นตรงไหน ทั้งที่มันควรจะพิเศษกว่า ถ้าจีไอโจ มีฝีมือเท่านี้ เราน่าจะเรียกซีลหรือเดลต้าฟอร์ซมายังจะดีกว่า ประมาณนั้น...
แต่ก็เข้าใจว่าหนังภาคแรกเจอแฟนๆการ์ตูนและแฟนๆของเล่นบ่นว่า เก่งเกินไป จีไอโจไม่เทพขนาดนั้น ในภาคต่อเลยพยายามทำให้จีไอโจเก่งน้อยลง แต่ไม่น่าจะน้อยลงขนาดนี้ และไร้เอกลักษณ์ได้ขนาดนี้..
(ไม่ใช่จีไอโจภาคนี้ไม่เก่งนะคะ เก่งเว่อร์นั่นแหละค่ะ แต่ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย)
สรุปแล้ว เป็นหนังแอคชั่นที่ไม่ค่อยสนุกเท่าไรนักในความรู้สึุกเรา (ซึ่งเราเองยังตกใจ) เพราะเราชอบทั้งผู้กำกับ ชอบความเป็นหนัง G.I. Joe ชอบนักแสดง ชอบฉากอลังการหลายๆฉาก
แต่กลายเป็นว่า ที่สุดแล้ว มันไม่มีอะไรที่ทำให้ออกมาแล้วอยากชักชวนให้ไปดูเลย เราไม่ชอบ Battle Ship แต่ถ้าเรื่องระเบิดเถิดเทิง Battle ship สนุกกว่า.... ขนาดนั้นเลยทีเดียว...
ไม่มีหนังแอคชั่นอะไรจะดู ลองไปดูก็ได้ค่ะ T-T
(ยังเสียใจกับหนังของชูอยู่ T-T)
กลับกัน ถ้าเราไม่ได้ชอบผู้กำกับขนาดนี้ หนังอาจสนุกกว่านี้ก็ได้ในความรู้สึกเรา..
ปล.ดู 3D แล้วเฉยๆมาก จนหลายฉากต้องถอดแว่นออกมาดูว่า... มัน 3D ยังไงฟะ!
เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่ได้ดูแบบ 3D ก็ไม่ได้พลาดอะไรสักเท่าไรค่ะ
https://www.facebook.com/poprockonfilm
**ความเห็นหลังชม** G.I. Joe: Retaliation (2013)
ถ้าไม่ตั้งความหวัง เราก็จะไม่ผิดหวัง
น่าเสียดายที่เราตั้งความหวังกับการกำกับของ Jon M Chu ไว้ค่อนข้างมาก เพราะเราเป็นแฟนหนังของเขาเลย ตั้งแต่ Step Up, Step up 3d หรือ แม้แต่ Never Say Never หนังคอนเสิร์ตของ Justine Bieber ก็ตาม เราก็ยังชอบกิมมิคเล็กๆ แปลกๆแบบที่หนังวัยรุ่นหลายเรื่องไม่มี และ การที่ ชู ปลุกปั้นเด็กๆหลายคน รวบรวมนักเต้นมีชื่อมาสร้างหนังเต้นของพวกเด็กพลังพิเศษ ที่ไม่มีช่องใหญ่ให้นำเสนอ เขาก็ยังหาทางเอาไปลงใน HULU ช่องทีวียอดนิยมทางอินเตอร์เนตจนได้
บอกตรงๆก็คือ ชอบความมุ่งมั่นของเขาในตัวเด็กๆ ชอบความเป็นวัยรุ่นที่เขามีนั่นแหละ
แต่ G.I. Joe ภาคต่อจากฝีมือของ ชู กลับทำผิดหวังมากตรงที่ สามารถทำให้เราพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า พลอต แบนราบ แบนสนิท จริงๆ กระทั่งซีนแอคชั่น ยังขาดศิลปะในการนำเสนออย่างสิ้นเชิง
ตัวละครที่มีเยอะ(มาก) ไม่ใช่ปัญหาของหนัง แต่ปัญหาคือ การเล่าเรื่องที่ไร้ซึ่งความลึก กิมมิคบทสนทนาบยียวนตามประสาวัยรุ่นที่เคยเป็นสเน่ห์ในงานของชู กลายเป็นเรื่องที่ผิดจังหวะอย่างรุนแรงในหนังแอคชั่นเรื่องแรกของเขา เพราะมันโดด และ ดูทะๆ เราพบว่า รอบที่เราดู มีเราขำอยู่ึคนเดียว นั่นอาจวัดอะไรไม่ได้มาก แต่เราก็ทึกทักเอาเองว่า มันเป็นมุกที่ไม่เหมาะกับหนังแอคชั่น ของผู้ใหญ่เลย
(แม้หนังจะสร้างจากของเล่นเด็กก็ตาม)
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแย่อีกอย่างคือ การทำให้หน่วย G.I. Joe ในภาคนี้ออกมา เหมือนหน่วย Navy Seal หรือ Delta Force จนเกินไป คือ คล้ายคลึงกับหน่วยทหารที่มีอยู่แล้วในหนังเรื่องอื่นจนเกินไป ทำให้ G.I. Joe ไม่มีความพิเศษ หรือเก่งกาจกว่าทหารพวกนั้นตรงไหน ทั้งที่มันควรจะพิเศษกว่า ถ้าจีไอโจ มีฝีมือเท่านี้ เราน่าจะเรียกซีลหรือเดลต้าฟอร์ซมายังจะดีกว่า ประมาณนั้น...
แต่ก็เข้าใจว่าหนังภาคแรกเจอแฟนๆการ์ตูนและแฟนๆของเล่นบ่นว่า เก่งเกินไป จีไอโจไม่เทพขนาดนั้น ในภาคต่อเลยพยายามทำให้จีไอโจเก่งน้อยลง แต่ไม่น่าจะน้อยลงขนาดนี้ และไร้เอกลักษณ์ได้ขนาดนี้..
(ไม่ใช่จีไอโจภาคนี้ไม่เก่งนะคะ เก่งเว่อร์นั่นแหละค่ะ แต่ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย)
สรุปแล้ว เป็นหนังแอคชั่นที่ไม่ค่อยสนุกเท่าไรนักในความรู้สึุกเรา (ซึ่งเราเองยังตกใจ) เพราะเราชอบทั้งผู้กำกับ ชอบความเป็นหนัง G.I. Joe ชอบนักแสดง ชอบฉากอลังการหลายๆฉาก
แต่กลายเป็นว่า ที่สุดแล้ว มันไม่มีอะไรที่ทำให้ออกมาแล้วอยากชักชวนให้ไปดูเลย เราไม่ชอบ Battle Ship แต่ถ้าเรื่องระเบิดเถิดเทิง Battle ship สนุกกว่า.... ขนาดนั้นเลยทีเดียว...
ไม่มีหนังแอคชั่นอะไรจะดู ลองไปดูก็ได้ค่ะ T-T
(ยังเสียใจกับหนังของชูอยู่ T-T)
กลับกัน ถ้าเราไม่ได้ชอบผู้กำกับขนาดนี้ หนังอาจสนุกกว่านี้ก็ได้ในความรู้สึกเรา..
ปล.ดู 3D แล้วเฉยๆมาก จนหลายฉากต้องถอดแว่นออกมาดูว่า... มัน 3D ยังไงฟะ!
เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่ได้ดูแบบ 3D ก็ไม่ได้พลาดอะไรสักเท่าไรค่ะ
https://www.facebook.com/poprockonfilm